ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป »
จังหวัดจันทบุรี
ข้อมูล » ประวัติศาสตร์-ความเป็นมา ศิลปะ-วัฒนธรรม-ประเพณี สถานที่สำคัญ-แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม-ที่พัก
ศิลปะ-วัฒนธรรม-ประเพณี จังหวัดจันทบุรี
ประเพณีชักพระบาท
จัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ วัดตะปอนใหญ่ อำเภอขลุง
เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปีแล้ว ภายในงานมีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ
และมีการแข่งขันการชักเย่อเกวียน โดยมีม้วนภาพเขียนรอยพระพุทธบาทอยู่ตรงกลาง
กลางคืนมีมหรสพ
งานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง
จัดขึ้นในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 2
ช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงเดือนมาฆบูชา (ประมาณเดือนมกราคม-มีนาคม) ณ
บริเวณยอดเขาคิชฌกูฏ ภายในงานมีการจัดบวงสรวงเทวดาอารักษ์
พิธีปิดทองรอยพระพุทธบาท การจัดเดินป่าขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏ
เป็นงานประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานานหลายสิบปี โดยมีความเชื่อว่าจะได้บุญสูง
และเป็นการฝึกจิตใจให้มีความอดทนไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
งานของดีเมืองจันท์วันผลไม้
จัดในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี
จัดที่บริเวณสนามสามเหลี่ยมทุ่งนาเชย โดยมีการประกวดรถประดับผลไม้
การประกวดธิดาชาวสวน การประกวดผลไม้ที่มีชื่อเสียงของภาคตะวันออก
และการประกวดสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน การออกร้านจำหน่ายอัญมณี
และการออกร้านของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรอื่นๆอีกมากมาย
งานตากสินรำลึก
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม ถึงสัปดาห์แรกของเดือน
มกราคม ของทุกปี ที่สนามกีฬาจังหวัด
เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงกอบกู้กรุงศรีอยุธยา
มีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานราชการ
และการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของจันทบุรี และการประกวดนางสาวจันทบูร
งานปิดทองพระพุทธไสยาสน์
จัดขึ้นประมาณใกล้เทศกาลตรุษจีน บริเวณวัดไผ่ล้อม
มีการแสดงธรรมเทศนา และจัดแสดงมหรสพ
เทศกาลท่องเที่ยวเขาสอยดาว
จัดขึ้นในช่วงปลายปี
บริเวณจุดชมวิวที่ว่าการอำเภอสอยดาวและบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
ในงานมีการนำเสนอผลผลิตทางการเกษตร สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแข่งขันสอยดาว การจำหน่ายผลไม้หลักของอำเภอ
ประเพณีการแข่งเรือวัดจันทนาราม
ทางวัดจันทนารามได้จัดให้มีการฟื้นฟูประเพณีเก่า ๆ
โดยเฉพาะประเพณีการแข่งเรือ ทางวัดได้เชิญเรือจากที่ต่างๆ
มาเข้าร่วมประเพณีในการแข่งขันเรือยาว
การแข่งเรือจะจัดแข่งขันในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ทั้งนี้นอกจากจะฟื้นฟูประเพณี
เชื่อมความสามัคคีแก่หมู่คณะแล้ว ยังมีโอกาสได้ประกอบการกุศลอีกด้วย
ประเพณีการทำบุญข้าวหลามหรือการทำบุญหัวสะพาน
การทำบุญหัวสะพานของชาวหมู่บ้านหนองตาลิ่น เดิมมีจัดที่หัวสะพานจริง ๆ
แต่เนื่องจากไม่สะดวกเพราะรถผ่านไปมาได้ย้ายไปจัดบริเวณศาลาพักร้อนกลางหมู่บ้าน
จัดขึ้นประมาณกลางเดือนอ้าย โดยก่อนถึงวันงานคนในหมู่บ้านแทบทุกบ้าน
จะทำการเผาข้าวหลามกันเป็นการใหญ่เพื่อเตรียมนำไปทำบุญในวันรุ่งขึ้น
บางบ้านก็ทำข้าวต้มห่อ
โดยนำอาหารหวานคาวไป ทำบุญที่ศาลากลางหมู่บ้าน
กลางคืนจะมีการแสดงละครชาตรี
ประเพณีพานฟางของชาวบ้านวันยาวล่าง
จันทบุรี
ชาวนาจะนำฟ่อนข้าวมาวางเรียงซ้อน ๆ กันในลานนวด
กลางลานมีเสาเกียดปักอยู่ตรงกลาง เพื่อใช้เป็นหลักมัดพรวนควาย ประมาณ 5-6 ตัว
มัดเรียงกันเป็นแถว ปลายพรวนมัดติดกับเสาเกียดไว้
ก็ใกล้ค่ำชาวนาจะนำควายที่มัดเป็นพรวนติดกับเสาเกียดย่ำลงบนฟ่อนข้าวที่วางเรียงซ้อนไว้กลางลานนวด
เมื่อเม็ดข้าวร่วงจากฟ่อน จะตัดฟางที่มัดฟ่อนข้าวออก
และใช้มือหอบฟ่อนข้าวขึ้นมากองรอบเสาเกียด เป็นการรื้อฟ่อนข้าวออกเอาแต่เม็ดข้าวไว้
ชาวนาจะซัดฟางข้าวโดยใช้มือหอบโยนไปที่เสาเกียดกลางลานนวด
แล้วใช้ควายชุดเดิมมัดพรวนติดกับเสาเกียดอีกครั้ง
ย่ำฟ่อนข้าวอีกหนให้เม็ดข้าวร่วงหล่นให้หมด
หลังจากนั้นใช้ดองเกี่ยวฟางข้าวโยนออกไปนอกลาน ก็จะเหลือแต่เม็ดข้าวเปลือกไว้
ขณะที่พานฟางชาวบ้านจะต้องร้องเพลงโหงขึ้นต้นว่า โหงอ่อนเอย ร่อนลงอยู่ในดงมะไฟ
หนุ่มสาวจะร้องเพลงแก้กันอย่างสนุกสนานจนหายเหนื่อย
เสร็จพิธีพานฟางก็จะทำข้าวเหนียวน้ำกะทิเลี้ยงกันอย่างอิ่มหนำสำราญ
ด้วยความสนุกสนานรักใคร่สามัคคี
การละเล่น
- การแสดงละครเท่งตุ๊ก ( เท่งกรุ๊ก ) ที่เรียกว่า ละคร เพราะเป็นการแสดงที่เป็นเรื่องราว มีประวัติอยู่หลาย ๆ ทาง เมื่อพิจารณาแล้ว ถือว่าเป็นการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านอย่างหนึ่งของจังหวัดจันทบุรีที่มีมานานหลายสิบปีแล้ว ลักษณะของชื่อการแสดงที่เรียกว่าแท่งตุ๊กน่าจะมาจากเสียงกลองเท่งตุ๊ก เวลาที่ใช้ตีประกอบการแสดง ผู้แสดง ส่วนใหญ่ใช้ผู้หญิงแสดง ยกเว้นตัวตลกอาจใช้ผู้ชายแสดงก็ได้ เรื่องที่ใช้แสดง ส่วนมากนำเรื่องเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านหรือเรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ มาแสดงในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนเป็นเรื่องราว อิงชีวิตประจำวันเกี่ยวกับการอิจฉาริษยา ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้าน หรืออาจดัดแปลงเนื้อร้องให้เป็นไปตามบุคคลหรือ ตามความต้องการของผู้จัดหาไปแสดง
- การเล่นสะบ้าล้อ
จังหวัดจันทบุรีมีการละเล่นสะบ้าล้อกันมานาน เดิมที่นั้นนิยมเล่นกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มักเล่นกันในช่วงเทศกาลตรุษสงกรานต์ นอกจากจะเล่นเพื่อความสนุกสนานแล้ว ยังมีการแข่งขันเอาแพ้เอาชนะกันด้วย ปัจจุบันหามีผู้เล่นได้น้อยเต็มที เทศบาลเมืองจันทบุรีได้พยายามอนุรักษ์ไว้ โดยมีการจัดให้มีแข่งขันเป็นประจำทุกปี ในช่วงของเทศกาลสงกรานต์ - การแสดงพื้นบ้าน - ยันแย่
เป็นการแสดงของชาวชองซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิม ที่อาศัยอยู่แถบตำบลตะเคียนทองและ ตำบลคลองพลู กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี แต่เดิมนั้นเพลงยันแย่ จะใช้สำหรับร้องกล่อมเด็ก ผู้ร้องจะร้องเป็นภาษาของชอง เนื้อหาของบทร้องจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ การทำมาหากินพร้อมทั้งสอดแทรกข้อคิด ปรัชญา ความเชื่อถือในสิ่งศักดิ์ ไม่มีการแต่งบทร้องไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ร้องจะร้องด้นสด ๆ ตามประสบการณ์และ จินตนาการของตนเอง ใช้คำง่ายๆ ต่อมาได้มีการนำเอาทำนองเพลงยันแย่ มาแต่งบทร้องให้เป็นบทโต้ตอบ และเกี้ยวพาราสีกันของหนุ่มสาวเพื่อใช้แสดง - การแสดงพื้นบ้าน - อาไย
เป็นการละเล่นพื้นบ้านของหมู่บ้านตามูล ชาวบ้านแห่งนี้ใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาพูด ฉะนั้นการเล่นอาไยจึงมีสำเนียงเนื้อร้องเป็นภาษาเขมร การเล่นอาไยนี้มีมานานหลายปีแล้ว ซึ่งได้รับการเผยแพร่มาจากเขมรโดยทิดฮัมกับทิดบุน ได้ศึกษาร่ำเรียนวิชาการละเล่นและได้นำมาเผยแพร่ต่อ ๆ กันมาถึงทุกวันนี้ จนกลายมาเป็นการละเล่นพื้นบ้านของ ชาวตามูลล่าง หมู่ที่ 3 ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว - การแสดงพื้นบ้าน - ระบำเก็บพริกไทย
เนื่องจากการแสดงศิลปพื้นเมืองภาคตะวันออก ไม่ค่อยมีเด่นชัดนัก ทางคณะครูอาจารย์สายนาฏศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี จึงได้ประดิษฐ์ชุดการแสดงขึ้นตามสภาพความเป็นอยู่ของท้องถิ่น โดยเห็นว่าพริกไทยเป็นพืชเศรษฐกิจของจันทบุรีอย่างหนึ่งและมีขั้นตอนวิธีการที่น่าสนใจ จึงได้นำขั้นตอนการผลิตพริกไทยมาประดิษฐ์เป็นท่ารำ ใช้ผู้แสดงเป็นหญิงล้วน ประมาณ 6-8 คน - ระบำเริงนทีบูรพา
ระบำชุดนี้สร้างสรรค์จากจินตนาการ โดยนำรูปแบบของการดำรงชีวิตของสัตว์ทะเลประเภทต่าง ๆ เช่น กุ้ง หอยปู ปลา และปลาหมึก ที่เวียนว่ายอยู่ในท้องทะเล บางชีวิตอาจจะต้องถูกชาวประมงจับไป - ระบำควนคราบุรี
แนวความคิดในการประดิษฐ์ระบำควนคราบุรี เนื่องจากจังหวัดจันทบุรีได้รับอิทธิพลทางศิลปะจากขอม มีหลักฐานทางศิลปะวัฒนธรรมของขอมเหลืออยู่ เช่น ซากกำแพงเมืองเก่า ศิลาแกะสลักเทวรูป ศิลาจารึก ภาษาขอมและภาษาขอม เป็นต้นภาษาขอม - ชื่อตำบลปัถวี อำเภอมะขาม มาจากคำเขมร " ปฐวี " แปลว่าแผ่นดิน บ้านวังสรรพรส อำเภอขลุง เพี้ยนมาจากภาษาเขมร " สปปุรส " ข.สับโปะรอะส์ หมายถึง ฆราวาส ผู้มีศรัทธาในศาสนา จึงทำให้ผู้ประดิษฐ์มีแนวคิดในการประดิษฐ์ท่ารำ การแต่งกาย ทำนองเพลง โดยใช้ศิลปะไทยผสมศิลปะของขอม ความหมายของระบำควนคราบุรี สมมุติถึงการร่ายรำของชายหญิงชาวควนคราบุรี แสดงความสนุกสนานรื่นเริงในงานนักขัตฤกษ์ต่าง โดยร่วมกลุ่มกันจับระบำรำฟ้อน - การแสดงพื้นบ้าน - ระบำชอง
เป็นระบำที่แสดงถึงความสนุกสนานร่าเริงของชาวชองในจังหวัดจันทบุรี ที่มาจับกลุ่มกันในงานเทศกาลและร่วมเต้นระบำด้วยกัน ผู้แสดงเป็นหญิงล้วน จำนวน 6-8 คน ( หรือแล้วแต่โอกาส ) จุดมุ่งหมายของการแสดงเพื่อความสนุกสนานและสวยงาม
จังหวัด » จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว