สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
กินอย่างไร เมื่อเป็นตับแข็ง
ฝ่ายโภชนาการ โรงพยาบาลศรีธัญญา
ตับแข็งเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้เกิดการสูญเสียโครงสร้างของตับ
จากปกติเนื้อตับจะนุ่ม แต่ถ้ามีอาการ อักเสบหรืออันตรายต่อตับ
เนื้อตับจะถูกทำลายกลายเป็นพังผืดลักษณะคล้ายแผล ทำให้เลือดไปเลี้ยงตับน้อยลง
ทำให้เนื้อตับที่ดีถูกทำลายจนกลายเป็น ตับแข็ง มีผลทำให้สมรรถภาพการทำงานของตับลดลง
ซึ่งนำมาสู่ภาวะสุขภาพร่างกายที่แย่ลงด้วย
สาเหตุที่เซลล์ตับถูกทำลาย ส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มสุราติดต่อกันเป็นเวลานาน
จนทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ และเรื้อรังจนเป็นโรคตับแข็ง
รวมถึงการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี และพิษของยาหรือสารเคมี
อาหารสำหรับโรคตับแข็ง
โรคตับแข็งในระยะเริ่มแรก สมรรถภาพการทำงานของตับยังทำงานได้ดี อาจมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ คล้ายอาหารไม่ย่อย ต่อมาจะรู้สึกอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร บางครั้งน้ำหนักลดลง แต่เมื่อเข้าสู่ระยะเรื้อรังสมรรถภาพการทำงานของตับผิดปกติไป ทำให้มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องบวม ขาบวม ซึมลง มีอาการผิดปกติทางสมอง การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ มักพบภาวะทุพโภชนาการขาดสารอาหารร่วมด้วย
ข้อแนะนำในการรับประทานอาหาร
-
รับประทานอาหารให้หลากหลาย และครบหมวดหมู่ ได้แก่ ข้าว แป้ง ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์เป็นประจำทุกวัน
-
เลือกรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ที่มีกากใยอาหาร เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ เผือก มัน ฟักทอง
-
เลือกรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย เช่น ปลา ไข่ นม
-
รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ หลีกเลี่ยง เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องในสัตว์ ของทอดต่างๆ กะทิ
-
ใช้ไขมันจากพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลืองในการปรุงอาหารถ้าร่างกายมีปัญหาการย่อยไขมัน ควรเลือกใช้ไขมันที่มีห่วงโซ่ขนาดกลาง (MCT = Medium chain triglyceride) ซึ่งพบมากในน้ำมันมะพร้าว ในการประกอบอาหาร
-
รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ สะอาด หลีกเลี่ยงอาหารทะเลสุกๆ ดิบๆ อาหารหมักดอง และอาหารที่อาจปนเปื้อนสารอัลฟาท็อกซิน เช่น ถั่วสิสงป่น พริกป่น
-
หลีกเลี่ยงอาหารพลังงานสูงจากน้ำตาล เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม
-
หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด อาหารแปรรูปต่างๆ เช่น กุนเชียง หมูยอ ไส้กรอก และขนมขบเคี้ยวต่างๆ
-
เนื่องจากผู้ป่วยโรคตับจะมีการเผาผลาญพลังงานสูงกว่าปกติ และมักพบปัญหาท้องบวม ท้องอืด อาหารไม่ย่อยร่วมด้วย เพื่อให้ในแต่ละวันได้พลังงานและสารอาหารเพียงพอ และป้องกันภาวะการสลายกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงาน ควรแบ่งมื้ออาหารรับประทานย่อยๆ วันละ 4 - 7 มื้อ และแนะนำให้รับประทานอาหารก่อนเข้านอน ยกเว้นผู้ป่วยที่ภาวะโรคเบาหวานร่วมด้วย
-
ในผู้ป่วยที่มีอาการทางสมองร่วมด้วย (Hepatic Encephalopathy) ควรลดอาหารประเภทโปรตีนเหลือวันละ 2 3 ช้อนกินข้าว แนะนำให้รับประทานโปรตีนจากพืช ทดแทนโปรตีนจากสัตว์ เช่น ถั่วเหลือง เต้าหู้ นม
-
ถ้ามีอาการท้องบวม เท้าบวมควรควบคุมปริมาณน้ำ ประมาณวันละ 6 แก้ว
-
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่
-
พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ
-
หลีกเลี่ยงการซื้อยารับประทานเอง
การกินยาเกินขนาด และการใช้ยาสมุนไพรต่างๆ นอกเหนือจากการดูแลของแพทย์ ถึงแม้ว่าโรคตับแข็งเป็นโรคเรื้อรังและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ การเลือกรับประทานอาหาร และปฏิบัติตัวที่เหมาะสม สามารถช่วยชะลอความรุนแรงของโรคได้
ที่มา
: นพ.อนุชิต จูฑะพุทธิ ภาวะโภชนาการในผู้ป่วยโรคตับ
วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
: รศ.นพ.ธีระ พิรัชวิสุทธิ์ การดูแลปฏิบัติตนของผู้ป่วยที่เป็นตับแข็ง