สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>

รู้ทัน สัญญาณแห่งความเสื่อม

เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนหลายๆคนก็จะเริ่มประหวั่นพรั่นพรึงกับรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและความหย่อนยานของส่วนต่างๆในร่างกาย(โดยเฉพาะคุณผู้หญิง) แต่นอกเหนือจากความสวยงามแล้ว สิ่งที่ทุกคนไม่ว่าหญิงหรือชายไม่ควรมองข้าม คือเรื่องของสุขภาพทันทีที่อายุของคุณพ้น 30 ปี ขอให้รู้ไว้ว่าอวัยวะต่างๆเริ่มเข้าสู่ภาวะเสื่อม และจะเสื่อมอย่างไรนั้นสภาพร่างกายเราจะบอกและส่งสัญญาณออกมาดังนี้

แขนขาไร้เรี่ยวแรง ทุกคนคงจำได้เมื่อครั้งยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว เวลาเดินเหินไปไหนมาไหนหรือหยิบจับอะไรก็ดูจะสะดวกสบายไปเสียทุกอย่าง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะกล้ามเนื้อยังแข็งแรงอยู่นั่นเอง แต่พออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อที่เคยแข็งแรงก็จะอ่อนแอลง จะลุกจะนั่งจะเดินจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เราจึงมักได้ยินคนแก่บ่นเสมอว่าไม่อยากไปไหน เพราะไม่มีแรง
เจ้าเนื้อขึ้น จะเห็นได้ว่ายิ่งพ้นวัยหนุ่มสาวมากเท่าไร การเผาผลาญพลังงานในร่างกายจะลดลง จึงไม่แปลกเลยที่คนอายุมากรับประทานอาหารเท่าเดิม แต่กลับอ้วนกว่าเดิม เพราะมีการสะสมพลังงานที่เหลือในรูปไขมัน ทำให้อ้วนง่าย อีกทั้งคนอายุเกิน 50 ปี มักมีคลอเลสเตอรอลในเลือดมากขึ้น เป็นที่มาของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันในผู้สูงอายุนั่นเอง
กระดูกจะเปราะง่าย เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะสูญเสียแคลเซียมที่สะสมไว้ในกระดูก ทำให้กระดูกเปราะบาง แตกหักได้ง่าย อาการที่บ่งชี้ว่ากระดูกเริ่มมีปัญหาแล้วคือ ปวดตามข้อต่อ โดยเฉพาะบริเวณต้นขาและกระดูกสันหลังด้านล่าง
สรรพโรคถามหา ทั้งนี้เพราะประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายจะเสื่อมลงตามอายุ เราจึงเห็นผู้สูงอายุเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานกันมาก

อาการดังกล่าวเป็นผลพวงแห่งความเสื่อมที่กำลังมาเยือนซึ่งถ้าคุณปล่อยตัว ไม่ดูแลสุขภาพ ยิ่งอายุมากขึ้น โรคต่างๆก็จะตามมาอย่างแน่นอน วิธีที่จะชะลอไม่ให้วันนั้นมาถึงเร็วเกินไปก็ให้ดูแลตัวเอง เริ่มที่

1. กินกันเสื่อม

โดยการลดไขมันเลว พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ประกอบด้วยไขมันอิ่มตัวหรือมีคอเลสเตอรอลสูง เช่น ไขมันจากสัตว์ (ยกเว้น ปลา) อาหารจั๊งฟูด ( พวกไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ พิชซ่า ฯลฯ) เป็นต้น

เพิ่มแคลเซี่ยม รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซี่ยม เพื่อทดแทนส่วนที่สึกหรอไป ได้แก่ อาหารประเภทนมไขมันต่ำ ถั่ว งา ปลาป่น กุ้งแห้ง และผักใบเขียว
งดอาหารรสจัด โดยเฉพาะรสเค็มจัด หวานจัด เพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน
ดื่มน้ำให้เพียงพอ ประมาณวันละ 8-10 แก้วต่อวันเพื่อช่วยในการควบคุม อุณหภูมิร่างกายให้คงที่ และระบบต่างๆในร่างกายเป็นไปอย่างสมดุล

2. ออกกำลังกันเสื่อม

เล่นกีฬา กีฬาทุกชนิดช่วยสร้างความแข็งแรงให้กระดูก กล้ามเนื้อได้ และยังช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายอีกด้วย
ยกลูกเหล็ก / เดิน-วิ่ง วิธีนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อแขนแข็งแรง คงสภาพ ส่วนการเดินและวิ่งจะช่วยออกกำลังขา ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงเช่นกัน

นอกจากการชะลอความเสื่อมของร่างกายด้วยวิธีดังกล่าว การดูแลจิตใจไม่ให้เสื่อมโทรมก็เป็นทางหนึ่งที่จะทำให้เรามีอายุยืนขึ้นได้ หมั่นทำสมาธิให้จิตใจสงบ คิดแต่เรื่องดีๆที่จรรโลงหัวใจ ถึงในอนาคตจะได้ชื่อว่าแก่ (ตามสังขาร)แต่ก็เป็นคนแก่ที่น่ารักและมีคุณภาพ