วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>

เฟอร์เรตตีนดำ

        เฟอเรท นับเป็นสัตว์ต่างถิ่นที่มีแหล่งกำเนิดทั้งในทวีปเอเชียและทวีปยุโรป ในอดีตเมืองไทยพบเห็นได้เพียงตามสวนสัตว์ แต่ระยะหลังราว 6-7 ปี ที่ผ่านมา มีการนำเข้าจากต่างประเทศที่มีการพัฒนาสายพันธุ์เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านแล้ว อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น มาจำหน่ายยังตลาดสัตว์เลี้ยงในราคาหลายพันบาท แต่ในช่วงนั้น เฟอเรทไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้นิยมเลี้ยงสัตว์ต่างถิ่นเท่าที่ควร เนื่องจากเฟอเรทเป็นสัตว์ในตระกูล Pole Cat หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกลิ่นเฉพาะเช่นเดียวกับ มิงค์ ชะมด นาก ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีต่อมกลิ่นสำหรับการสื่อสาร ป้องกันตัว หรือแสดงอาณาเขต กลิ่นสาบของเฟอเรทจึงเป็นเรื่องขัดใจของหลายๆ คน ที่ถึงแม้จะสนใจรูปร่างหน้าตาของมันแค่ไหนก็ตาม

เฟอเรท มีข้อเสียเรื่องกลิ่น แต่เป็นกลิ่นตัว กลิ่นเฉพาะของมันที่จะปล่อยในช่วงตกใจ ตื่นเต้น หรือผสมพันธุ์ เรื่องกลิ่นนี้ผู้เลี้ยงต้องยอมรับ แต่ในเวลาปกติก็ไม่ส่งกลิ่นมาก ถ้าหมั่นเช็ดตัวก็จะช่วยบรรเทากลิ่นไปได้ ใช้น้ำยาช่วยลดกลิ่นสำหรับเฟอเรทก็ได้หรือจะใช้ผ้าเช็ดตัวสำหรับแมวหรือ สุนัข การทำหมันก็เป็นการลดกลิ่นได้อีกวิธีหนึ่ง จึงอาจมีส่วนทำให้เฟอเรทไม่เป็นที่นิยมและไม่ค่อยมีการแพร่พันธุ์ แต่มีข้อดีคือ มันสามารถปรับตัวได้ดีในสภาพอากาศบ้านเรา"

เฟอเรท สามารถผสมพันธุ์ข้ามคู่ ข้ามสี ได้ โดยมีช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมจะเป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์ หลังจากผสมแล้วไข่จะตกภายใน 30-40 ชั่วโมง ถ้าอยากให้ได้ผลที่แน่นอน ควรให้เวลาอยู่รวมกันอย่างน้อย 10 วัน จากนั้นให้แยกตัวผู้หรือตัวเมีย ไม่เช่นนั้นอาจจะหลุด เพราะเล่นกันเอง หลังจากนั้น ถ้าตัวเมียท้องจะเห็นความแตกต่างราว 2-3 สัปดาห์ต่อมา คือท้องใหญ่ขึ้น เห็นราวนมชัดขึ้น เฟอเรทตั้งท้อง 40-50 วัน มีลูกปีละ 1-2 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่ในไทยจะเกิดลูกเพียงปีละครั้ง ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับอากาศร้อน ถ้าเป็นเมืองนอกอากาศเย็นจะผสมพันธุ์ได้ดีกว่า จำนวนลูก 1-12 ตัว โดยเฉลี่ย 6-7 ตัว ต่อครอก

 

ในช่วง 30 วัน หลังคลอด แม่เฟอเรทจะดูแลลูกเองทุกอย่างและหวงลูกมาก หลังจากนั้น ฟันลูกเฟอเรทจะเริ่มขึ้นและสามารถหากินตามแม่เฟอเรทได้

จำนวนที่เหลืออยู่ 600 ตัว

หน้าตาคล้ายๆ ชะมดหรือหมาไม้ พวกมันอาศัยอยู่ตามที่ราบกว้างใหญ่ในอเมริกเหนือ ซึ่งก็คือตัวแพรี่ด็อกลดจำนวนลง แพรี่ด็อกคือสัตว์คล้ายหนูตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ใต้ดิน เมื่อพวกมันถูกเกษตรกรปราบจนลดจำนวนไปมาก ผลจากโซ่อาหารก็เริ่มทำงาน เฟอร์เรตตีนดำจึงไม่มีอาหารกินไปด้วย

แนวทางอนุรักษ์

ครั้งหนึ่งมันเกือบสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่โชคดีที่นักวิจัยสามารถเพาะพันธุ์เฟอร์เร็ตตีนดำและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ และตอนนี้ทาง WWF มีแนวทางการอนุรักษ์พวกมันรวมถึงแพร์รี่ด็อก อาหารของมันด้วย

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย