วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>
ปลาอะราไพม่า หรือ ปลาช่อนอะเมซอน
ปลาอะราไพม่าหรือ Cow fish (ปลาวัวตัวเมีย) หรือ พิรารูดู Pirarucu
(ชื่อพื้นเมืองของชาวบราซิล)และ PAICHE (ชื่อพื้นเมืองของชาวเปรู)
ส่วนคนไทยรู้จักกันในนาม "ปลาช่อนอะเมซอน"
จัดเป็นปลาที่อยู่ในครอบครัวเดียวกับปลาตะพัดหรืออะโรวาน่า คือ Family
Osteoglossidae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Arapaima gigas
ปลาอะราไพม่า
จัดเป็นยักษ์ใหญ่ของสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำของโลกและสำหรับนักเลี้ยงปลาทุกคน
มันถูกจัดเป็นปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถโตได้เร็วมาก
มีความยาวได้ถึง 4 เมตร มีน้ำหนักถึง 400 กิโลกรัม
เป็นปลาเนื้อดีกินอร่อยของชาวบ้านในประเทศ บราซิล เปรู และโคลัมเบีย
ปลาอะราไพม่าเจริญเติบโตได้รวดเร็ว เป็นปลาที่มีแรงเยอะ ว่ายน้ำและกระโดดเก่งมาก
รอบตัวของมันปกคลุมด้วยเกล็ดสีเขียวเหลือบขนาดใหญ่ ท้องเป็นสีขาว
โคนหางมีเกล็ดสีแดงกระจัดกระจายอยู่ทั่ว คนไทยส่วนใหญ่นิยมเรียกกันว่า "กุหลาบแดง"
ในอเมริกาใต้ ปลาอะราไพม่า เป็นปลาที่นำมากินเป็นอาหาร
หรือจะใช้เป็นเกมส์ตกปลาเล่น
ส่วนบ้านเราสั่งเข้ามาเลี้ยงเป็นปลาประหลาดราคาแพงต้องทำตู้ทำบ่อเลี้ยงกันราคานับแสนบาท
ปลาอะราไพม่าได้ถูกจัดไว้เป็นปลาที่อยู่ในกฏเกณฑ์ของการอนุรักษ์สัตว์ของโลกโดย IUCN
(International Union for Conservation of Nature and Natural Resources)
ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในประเทศอังกฤษ และได้มีการประชุมทางอนุรักษ์สัตว์น้ำชนิดต่างๆ
ของโลกไม่ให้สูญพันธุ์ ถึงกับมีข้อตกลงห้ามสั่งเข้าหรือส่งออกปลาดังกล่าวได้โดยเสรี
ส่วนประเทศที่สั่งปลาที่ระบุชื่อไว้ก่อนกฏ
หรือข้อตกลงใช้บังคับให้ตรวจนับจำนวนแน่นอน หรือส่งปลานั้นคืนประเทศต้นสังกัด
เพื่อให้ประเทศที่เป็นถิ่นกำเนิดของสัตว์ชนิดนั้นพยายามเพาะพันธุ์และอนุรักษ์ไว้ให้ได้
ส่วนในประเทศไทยยังไม่ได้ประกาศใช้กฏนี้เป็นทางการ
ดังนั้นปัจจุบันจึงยังมีการสั่งปลาชนิดนี้เข้ามาขายกันอย่างเสรี
จากสถิติมีผู้บันทึกไว้ว่า ในปี 2528 ที่ผ่านมา
มีการขออนุญาตนำปลาอะราไพม่าเข้าประเทศประมาณ 300 กว่าตัว
ด้วยสาเหตุที่ปลาอะราไพม่ามีร่างกายขนาดใหญ่โต
มันจึงเป็นปลาที่ดูสง่างามอย่างเห็นได้ชัดที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ
ปลาอะราไพม่าจะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการว่ายน้ำเล่นไปมารอบๆ ตู้ปลา
โดยจะมีการว่ายน้ำคดเคี้ยวไปมาเหมือนงู ปลาอะราไพม่าจัดเป็นปลาที่น่าสนใจ
ตามประวัติมีการขุดพบฟอสซิล (Fossil) ของปลาชนิดนี้
ทำให้สามารถคำนวณอายุของปลาชนิดนี้ได้ว่าได้กำเนิดมาในโลกนี้ เมื่อประมาณกว่า 100
ล้านปีมาแล้วและยังคงรูปร่างทรงเดิม ซึ่งจัดว่าเป็นปลาโบราณ
โดยเป็นปลาที่มีเกล็ดใหญ่ ปากกว้าง
มีฟันซึ่งแม้จะไม่ค่อยเจริญได้ดีแต่ก็สามารถไล่งับหรือฮุบปลากินเป็นอาหารได้
ลักษณะพิเศษของปลาอะราไพม่าคือ
มีอวัยวะเป็นถุงลมอยู่ภายในช่องท้องคล้ายปอดเพราะมีเส้นเลือดฝอยกระจายกันอยู่ทั่วและสามารถเปลี่ยนออกซิเจนได้เช่นเดียวกับปอดมนุษย์เราด้วย
ลักษณะที่เป็นความสวยเฉพาะตัวของอะราไพม่าคือ รูปร่างที่มีขนาดใหญ่
มีสีดำเงาเป็นมัน ครีบบน ครีบล่างมีตำแหน่งค่อนไปทางหาง
มีแถบสีแดง-ส้มตัดกับพื้นสีดำ หัวแข็งคล้ายกระดูก มีการว่ายน้ำที่ช้าทำให้ดูสง่างาม
ปกติชอบว่ายอยู่ใกล้ผิวน้ำและจะต้องขึ้นมาฮุบอากาศทุก ๆ 5-20
นาทีขึ้นอยู่กับขนาดของมันด้วย ถ้าเป็นปลาขนาดเล็กก็จะขึ้นมาฮุบอากาศทุกๆ 5 นาที
แต่ถ้าเป็นขนาดใหญ่ก็จะขึ้นมาฮุบอากาศทุก 18-20 นาที
ปลาอะราไพม่าเป็นปลาที่ชอบอาศัยในแหล่งน้ำตื้น ถึงแม้จะมีขนาดที่ใหญ่โต
และว่ายน้ำช้าๆ แต่มีความว่องไวมากในยามกินเหยื่อ เคยมีผู้พบเห็นปลาอะราไพม่าขนาด 2
เมตร ฮุบกินปลาเทพาขนาดคืบกว่าที่มาแย่งโฉบกินเหยื่อ พร้อมกันทีละ 2
ตัวในชั่วพริบตาเดียว
ปลาอะราไพม่า เป็นปลากินเนื้อที่เจริญเติบโตได้เร็วมาก
เมื่อมันมีอายุได้ประมาณ 4-5 ปี ก็จะถึงวัยสืบพันธุ์
การสังเกตเพศผู้เพศเมียของปลาอะราไพม่า ถ้าดูจากภายนอกจะดูยาก
แต่สามารถดูในฤดูผสมพันธุ์คือช่วงเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคม (ของอเมริกาใต้)
ปลาเพศเมียที่มีไข่บริเวณท้องจะขยายใหญ่ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
ส่วนเพศผู้หัวและลำตัวจะมีสีเข้มและสีแดงอมส้มแถบโคนหาง
ปลาอะราไพม่าตัวเมียจะวางไข่ในเดือนมกราคมถึงมีนาคม มันจะสร้างรังใต้น้ำลึกประมาณ
40-50 ซม. ตัวเมีย 1 ตัววางไข่ได้ประมาณ 100,000 ฟอง และจะใช้เวลาประมาณ 5
วันในการฟักออกเป็นตัว เมื่อฟักไข่แล้ว แม่ปลาก็จะดูแลตัวอ่อนไว้ในปาก
ส่วนตัวผู้ก็จะช่วยกันดูแลและป้องกันอันตรายจนกว่าลูกปลาจะเจริญเติบโตและช่วยตัวเองได้
ในธรรมชาติปลาชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในลุ่มน้ำอะเมซอน
มันจะกระโดดขึ้นมากินนกที่เกาะอยู่บนต้นไม้เตี้ยๆ
ในตู้ปลาอาหารหลักของปลาอะราไพม่าคือ ปลาสดโดยเฉพาะปลาเป็นๆ เช่น ปลานิล, ปลากัด,
ปลาทอง, ลูกกบ หรือไม่ก็เนื้อหมู, เนื้อไก่
เนื้อปลาก็ได้ซึ่งนิยมใช้ปลาทองที่พิการมีการซื้อขายกันในราคาถูก
ในระยะแรกก็กินน้อยวันละ 3-5 ตัว ต่อมาเมื่อปลาโตขึ้นก็กินมากขึ้น
ปลาอะราไพม่า นิยมเลี้ยงไว้เป็นปลาสวยงามในบ้านเรามานานกว่าสิบปีแล้ว
ที่ผ่านมาพบว่า
ถึงแม้ปลาอะราไพม่าจะเป็นปลาขนาดใหญ่ที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี
แต่ยังมีข้อด้อยบางประการของปลาอะราไพม่าที่ควรจะต้องระวังก็คือ
หากเลี้ยงในตู้กระจกหรือบ่อปูนควรมีระบบกรองน้ำที่ดีและระบบเพิ่มอากาศให้เหมาะสมกับขนาดของจำนวนปลา
มีอุณหภูมิประมาณ74-78oF pHที่เหมาะสมจะค่อนข้างไปทางกรดเล็กน้อย
หากน้ำเสียหรือขาดออกซิเจนเพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็จะทำให้ปลาอะราไพม่าตายได้ทันที
ฉะนั้นจึงควรเลี้ยงในที่กว้าง ให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะและควรให้อาหารที่สด
ถ้าตู้ปลาเล็กเกินไปปลาจะแสดงออกโดยการว่ายแบบกระวนกระวาย ชนตู้
โดดออกมาหรือไม่ก็หงอยลงๆ ซึมเศร้าไม่กินอาหาร จนตายไปเฉยๆ
ปลาอะราไพม่าขนาดใหญ่สามารถฝึกให้กินอาหารเม็ดได้และหากเลี้ยงในบ่อดินขนาดใหญ่ปลาอะราไพม่าสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
สัตว์จำพวกกบ เขียด งู และปลาตัวเล็กๆ
ที่อาศัยอยู่ในบ่อก็จะกลายเป็นอาหารของปลาชนิดนี้ไป
ซึ่งจะขยันหากินทั้งเวลากลางวันและกลางคืน
ที่มา
http://www.nicaonline.com/articles/site/view_article.asp?idarticle=96