สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
มนุษย์และการกระจายของสัตว์
มนุษย์กับการสูญพันธุ์ของสัตว์
สัตว์ในฐานะผู้ให้บริการแก่มนุษย์
สัตว์อันตรายและศัตรูของมนุษย์
รูปแบบและสาเหตุแห่งการกระจายของสัตว์
รูปแบบการกระจายของสัตว์
รูปแบบและสาเหตุแห่งการกระจายของสัตว์
1. การตรวจสอบการอพยพของสัตว์ทางภูมิศาสตร์
โดยปกติแล้วอินทรีย์ชีวิตทุกรูปแบบมีการแพร่พันธ์ขึ้นรวดเร็วอย่างน่าฉงน
และธรรมชาติเป็นแรงผลักช่วยให้สิ่งมีชีวิตเพิ่มจำนวนและขยายพื้นที่ครอบครองมาขึ้นเช่นกัน
นอกจากบางชนิดที่ปัจจัยทางด้านชีววิทยาหรือปัจจัยด้านกายภาพควบคุมจำนวนของสิ่งมีชีวิตนั้นไม่ให้ขยายออกไป
สิ่งที่น่าสนใจก็คือสัตว์แต่ละชนิดสามารถขยายอาณานิคมของตนได้รวดเร็วเพียงใด
ซึ่งบางชีวิตสัตว์ทำให้ชีวิตสัตว์ท้องถิ่นดั้งเดิมค่อยๆ มีจำนวนน้อยลง
ตัวอย่างโบราณที่รู้กันดีมีตัวอย่างหนึ่ง คือ
กรณีของการระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะกรากะตั้ว (Krakatau) ในอินโดนีเซีย ใน พ.ศ.2426
การระเบิดครั้งนั้นรุนแรงมาก
ทำให้เกาะส่วนใหญ่กระจายฟุ้งเป็นเถ้าขึ้นไปในอากาศแล้วตกลงมาประดุจห่าฝนทับถมลงมาบนเกาะส่วนที่เหลือหนามากปกปิดพืชและสัตว์ปลาสนาการไปสิ้น
มีเหลืออยู่เพียงแต่ไส้เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากทุกสิ่งทุกอย่างสงบลงแล้ว
ชีวิตต่างๆ
เริ่มขึ้นใหม่บนเกาะที่เตียนโล่งนั้นอย่างรวดเร็วเพียงสามปีพืชพวกสาหร่าย
เฟิร์นบางชนิด และดอกไม้ต่างๆ มากกว่า 6 ชนิด ก็แพร่พันธ์บนเกาะและมีสัตว์ขนาดเล็กๆ
หกชนิด ได้แก่ แมงมุม เต่าทอง ผีเสื้อ และจิ้งจกอีกสามชนิดปรากฏขึ้น
ยี่สิบปีถัดมาสามารถตรวจนับสัตว์ได้ถึง 263 ชนิด และห้าสิบปีผ่านไปมีสัตว์มากกว่า
600 ชนิด รวมทั้งจระเข้ และงูหลาม
ทั้งนี้เนื่องจากเกาะที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากการระเบิดของเกาะกระกะตัวนั้นอยู่ไกลจากกรากะตัวออกไป
18.5 กิโลเมตร
สิ่งมีชีวิตที่เริ่มใหม่บนเกาะกรากะตัวมาจากเกาะดังกล่าวแพร่มาถึงเกาะนี้ทางอากาศหรือทางน้ำหรืออาจมาโดยความบังเอิญวิธีอื่นๆ
การขยายตัวของชีวิตสัตว์และพืชจึงดำเนินไปโดยไม่มีขอบเขตจำกัด
การแพร่ขยายอาณาจักรสัตว์นั้นน่าจะมีลักษณะดังต่อไปนี้
1. สมรรถนะการแพร่ขยายของสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกัน มีความแตกต่างกันมาก
2. ความสามารถในการแพร่กระจายไม่เท่ากันในทุกทิศทุกทาง
3.
องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิตจะเป็นสิ่งจำกัดขอบเขตการเคลื่อนไหวของชีวิตชนิดนั้นๆ
4. สิ่งกีดขวางโดยธรรมชาติมีส่วนจำกัดการเคลื่อนไหวของสัตว์
5. สิ่งแวดล้อมของสิ่งมีชีวิตเป็นสิ่งจำกัดการกระจายของสิ่งมีชีวิต
วิธีการตรวจสอบการกระจายของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดนั้น
สามารถตรวจสอบได้โดย
(1) วิถีทางและวิธีการของการกระจาย
(2) อุปสรรคทางด้านกายภาพและทางด้านชีววิทยา
สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดจะมีวิถีแห่งการแพร่กระจายและวิธีการแพร่กระจายต่างกัน
อุปสรรคทางด้านกายภาพจะมีผลต่อสิ่งมีชีวิตต่างกันในวิถีทางที่ต่างกัน ตังอย่างเช่น
แม้สัตว์บกบางชนิดสามารถว่ายน้ำได้
แต่แหล่งน้ำที่ขวางกั้นก็เป็นอุปสรรคต่อการแพร่ของสัตว์บกนั้น
ในทางเดียวกันแผ่นดินก็เป็นอุปสรรคต่อการแพร่ของสัตว์น้ำ
แม้ว่าสัตว์น้ำจะเดินบนบกได้ก็ตามขณะเดียวกันแนวเทือกเขามีส่วนขวางกั้นการอพยพของสัตว์บก
ขณะที่สัตว์ปีกจะมีอุปสรรคจากสิ่งกีดขวางทางกายภาพน้อยมาก ลักษณะภูมิอากาศบางประการ
เช่น ความหนาวเย็น ความร้อน หรือความชื้นน้อย หรือมีแหล่งอาหารไม่เพียงพอ
ศัตรูคู่อาฆาต
หรือแม้แต่สัตว์คู่แข่งก็เป็นสิ่งกีดขวางการแพร่ขยายของสัตว์บางชนิดได้
การเปลี่ยนสภาพของสิ่งกีดขวางทางกายภาพ
ในช่วงเวลาทางธรณีวิทยาที่ผ่านมา เช่น การจมตัวของแผ่นดิน การขยายอาณาเขตของทะเล
การเกิดแนวเทือกเขาใหม่ การขยายตัวหรือการถอยกลับของธารน้ำแข็ง
การแห้งเหือดของทะเลชายฝั่งทวีป หรือการเปลี่ยนทางเดินของลำน้ำ
สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการแพร่กระจายของสัตว์ทั้งสิ้น ตำแหน่งต่างๆ
ของภูมิประเทศกายภาพในปัจจุบันนี้แตกต่างไปจากเมื่อ 1,20,50 หรือ 100 ล้านปีมาแล้ว
มีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าในอดีตนั้นแผ่นดินหลายส่วนเชื่อมติดกัน
แต่ปัจจุบันนี้แผ่นดินเหล่านั้นเลื่อนลอยห่างกันออกไป เช่น
ไซบีเรียเคยเชื่อมติดกับอลาสก้า แอฟริกาเหนือเคยติดกับยุโรปใต้
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เคยเชื่อมติดกับออสเตรเลีย
การเคลื่อนไหวของแผ่นดินและน้ำทะเลมีผลทำให้รูปร่างและรูปแบบของพื้นทวีปเปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งมีผลกระทบต่อสัตว์ด้วย
ทำให้สัตว์บางพันธ์ต้องแยกกันไปขณะเดียวกันทำให้สัตว์ต่างพันธ์กันมาพบกัน
เพื่อให้เข้าใจแจ่มชัดยิ่งขึ้น
จะอธิบายการกระจายโดยละเอียดโดยจำแนกเป็นสัตว์ทะเล สัตว์น้ำจืด และสัตว์บก
ชีวิตสัตว์ทะเล : แม้ว่าบนผิวโลกจะมีทวีปและเกาะแทรกอยู่จำนวนมาก
แต่แหล่งน้ำเค็มมีลักษณะต่อเนื่องเป็นพื้นเดียวกัน
แม้ว่าแหล่งน้ำเค็มแต่ละแห่งจะมีชื่อเฉพาะ
แต่ไม่มีการกำหนดเขตแน่นอนว่าแหล่งน้ำเค็มแต่ละแหล่งสิ้นสุดลงตรงไหน
ซึ่งความจริงแล้วก็เป็นการยากที่จะบอกว่ามหาสมุทร แอตแลนติคใต้มีอาณาเขตอยู่ตรงไหน
รวมทั้งมหาสมุทรอื่นๆ ด้วย ในซีกโลกใต้นั้นมีส่วนของมหาสมุทรต่างๆ เชื่อมกันอยู่
คือ แปซิฟิคใต้ แอตแลนติคใต้ และอินเดียใต้ รวมเรียกว่า มหาสมุทรใต้ (South Ocean)
ทะเลที่อยู่ติดขอบทวีป
จะมีคุณลักษณะคล้ายคลึงกับมหาสมุทรที่อยู่ต่อเนื่องกับทะเลนั้น เรียกว่า ทะเลทวีป
(Continental sea) เช่น ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลแดง ทะเลดำ และทะเลบอลติค เป็นต้น
ซึ่งเป็นทะเลที่มีลักษณะของน้ำทะเลเป็นแบบฉบับเฉพาะ
ในมหาสมุทรนั้นตามทฤษฎีแล้วเชื่อว่าไม่มีพรมแดนในการเคลื่อนไหวของปลาในมหาสมุทร
แต่จากข้อเท็จจริงพบว่ามีพรมแดนบางประการที่ขีดขั้นการเคลื่อนที่ของสัตว์ทะเล เช่น
อุณหภูมิของน้ำ ความขุ่นข้นของน้ำ ความลึก ความกดดัน
สัตว์ทะเลที่ว่ายน้ำไม่ได้จะมีขีดจำกัดในการเคลื่อนไหวมาก
ทวีปที่แทรกตัวอยู่ในมหาสมุทรทำหน้าที่เป็นพรมแดนและเป็นปัจจัยจำกัดการแพร่กระจายของสัตว์ทะเล
เช่น ทวีปอเมริกาเหนือ ใต้ แยกมหาสมุทรแอตแลนติคและแปซิฟิกออกจากกัน
ทางด้านเหนือและใต้ของทวีปทั้งสองยังมีกระแสน้ำเย็นกั้นอีกด้วย
ทำให้สัตว์ทั้งสองมหาสมุทรต่างกันโดยสิ้นเชิงในทางตรงกันข้ามสัตว์ในมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกนั้นคล้ายคลึงกัน
ทั้งนี้เพราะมหาสมุทรทั้งสองมีส่วนต่อกันในเขตร้อนบริเวณทะเลอินโดนีเซีย
ซึ่งไม่เป็นอุปสรรคต่อการแพร่กระจายของสัตว์ทั้งสองมหาสมุทร
มีการพบว่าสัตว์ทะเลบางชนิดมีการแพร่พันธ์กระจายไปตามท่อนไม้
หรือวัสดุลอยน้ำหรือเกาะกับสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น เพรียงที่ชอบเกาะตามท่อนไม้
ปลาวาฬหรือแม้แต่ท้องเรือ ซึ่งสามารถพามันไปได้เป็นระยะทางไกลๆ
ชีวิตสัตว์น้ำจืด : สัตว์น้ำจืดมีพบตามแหล่งน้ำบนพื้นดิน เช่น สระ
บึง หนอง ทะเลสาบ แม่น้ำและธารน้ำ และบางแห่งแหล่งน้ำจืดไหลลงสู่ทะเล
ทำให้สัตว์น้ำจืดแพร่พันธ์ลงสู่ทะเลได้
ในที่สุดสามารถปรับตัวให้อยู่ได้ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม
การแพร่พันธ์จากแม่น้ำหนึ่งไปสู่แม่น้ำหนึ่งนั้นจะมีทะเลเป็นพรมแดนขวางกั้นอยู่
ยกเว้นสัตว์น้ำจืดบางชนิดที่ทนทานมากๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาไหล ปลาสเตอเจียน
ด้วยเหตุนี้จึงพบว่าแหล่งน้ำในทวีปแอฟริกาและอเมริกามีปลาน้ำจืดต่างพันธุ์กัน
แม่น้ำในทวีปเดียวกันแม้แต่แม่น้ำที่อยู่ใกล้กัน
(โดยเฉพาะแม่น้ำที่ต่างก็ไหลลงสู่ทะเลหรือมหาสมุทร) จะมีสัตว์น้ำที่แตกต่างกัน เช่น
แม่น้ำไรน์ แม่น้ำดานูบ ต่างก็มีต้นน้ำอยู่ห่างกันไม่กี่ไมล์
แม่น้ำของยุโรปทั้งสองสายนี้ต่างก็มีสัตว์น้ำต่างชนิดกัน เช่น
ปลาสติคเกิลแบคและปลาไหลมีเฉพาะในแม่น้ำไรน์
ไม่มีในแม่น้ำดานูบในขณะที่แม่น้ำดานูบมีปลาหลายชนิดที่ไม่มีใน แม่น้ำไรน์
ยิ่งกว่านั้นแม้ว่าทั้งสองแม่น้ำจะมีปลาแซลมอนและปลาสเตอร์เจียนแต่ก็ต่างพันธุ์กัน
น้ำตก น้ำไหลเชี่ยว เป็นพรมแดนกีดกั้นการเคลื่อนที่ของสัตว์น้ำเช่นกัน เช่น
ปลาแซลมอนไม่สามารถจะว่ายน้ำข้ามน้ำตกในแม่น้ำไรน์ได้
ดังนั้นทะเลสาบคอนแสตนท์ซึ่งอยู่เหนือน้ำตกขึ้นไปจึงไม่มีปลาแซลมอนเลย
สัตว์น้ำจืดบางชนิดแพร่พันธุ์ไปได้โดยการเกาะติดไปกับสัตว์น้ำอื่นๆ
เช่น
ตัวอ่อนของหอยกาบจะเกาะติดกับเหงือกของปลาในลักษณะของปาราสิตในชั่วระยะเวลาสั้นๆ
ในขณะเดียวกันปลาก็จะว่ายพาหอยแพร่พันธ์ไปทั่วแหล่งน้ำ
ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์น้ำบางชนิดอาจแพร่พันธ์ไปกับนกและแมลงบินได้บางชนิด เช่น
ไข่ปลาหรือตัวอ่อนอาจติดไปกับเท้านก ปีกนก ปีกแมลง โดยเฉพาะนกที่ชอบหากินในน้ำ
ไข่และตัวอ่อนเหล่านี้สามารถเดินทางไปได้เป็นระยะทางไกลๆ
ปลาบางชนิดถูกพายุทอร์นาโดหอบไปได้เป็นระยะทางไกลเช่นกัน
สัตว์บก : ในกรณีของสัตว์บกนั้น
พรมแดนขีดขวางการเคลื่อนไหวแหล่งการแพร่กระจายมีความสำคัญมาก
มหาสมุทรเป็นสิ่งกีดขวางการแพร่กระจายที่สำคัญต่อสัตว์บก
น้ำเค็มไม่มีว่าจะมีขนาดแคบสักเพียงใดก็เป็นอุปสรรคต่อสัตว์บกที่ว่ายน้ำไม่เป็น
เช่น ช่องแคบโมแซมบิคมีผลทำให้สัตว์ในทวีปแอฟริกาแตกต่างไปจากเกาะมาดาร์กัสการ์
แม่น้ำเป็นพรมแดนที่ไม่ค่อยมีผลในการขวางกั้นการอพยพของสัตว์บกนัก
เพราะสัตว์บกสามารถข้ามได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่น ว่ายข้าม ลุยข้าม
เกาะกิ่งไม้ที่ลอยมากับน้ำ หรือในช่วงเกิดภาวะน้ำท่วมทางน้ำอาจเปลี่ยนทางเดิน
ทำให้แผ่นดินถูกซัดไปอยู่คนละฟากแม่น้ำสัตว์จึงสามารถข้ามฝั่งน้ำไปตามแผ่นดินได้
เทือกเขาเป็นพรมแดนที่เป็นอุปสรรคต่อการแพร่กระจายของสัตว์บกที่มีผลมาก
ยิ่งกว่านั้นเทือกเขายังทำให้ภูมิอากาศสองฟากเทือกเขาต่างกัน เช่น อุณหภูมิลดลง
มีฝนเพิ่มขึ้น (หรือลดลง) มีความกดอากาศลดลง และเกิดภาวะเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการอพยพและแพร่กระจายของสัตว์
ยิ่งไปกว่านั้นสภาพกายภาพของเทือกเขายังเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนที่ของสัตว์ด้วย
เช่น ความลาดชัน ความขรุขระของพื้นผิว
ตัวอย่างเช่นชีวิตสัตว์ด้านเหนือและด้านใต้ของทางเทือกเขาหิมาลัยแตกต่างกัน
เมื่อเปรียบเทียบกับแอฟริกาซึ่งเป็นทวีปที่มีเทือกเขาน้อย
สัตว์ทั่วทั้งทวีปแอฟริกามีลักษณะคล้ายคลึงกัน
รูปบรรยากาศการอพยพของสัตว์ปีก หนีฤดูหนาวในโครเอเชีย
ตามจินตนาการของศิลปิน
ทะเลทรายเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นน้อย
จึงมีต้นไม้น้อยไปด้วย
ทะเลทรายจึงเป็นพรมแดนขวางกั้นการแพร่กระจายของสัตว์ได้อย่างดี เข่น
ทะเลทรายซาฮารานั้นนอกจากจะแบ่งสัตว์ทางด้านเหนือและด้านใต้ให้แตกต่างกันแล้วยังแบ่งมนุษย์ทั้งสองด้านให้แตกต่างกันด้วย
พรมแดนทะเลทรายนั้นเป็นผลมาจากการขาดน้ำ
ความชื้นและพืชมากกว่าจะเป็นผลเนื่องมาจากภูมิประเทศ เช่น ลานหินขรุขระ
หรือพื้นทรายกว้างใหญ่ ทั้งนี้เพราะว่าสัตว์น้อยชนิดนักที่จะอยู่ได้นานๆ
โดยไม่ต้องดื่มน้ำ
และนี่คือปัญหาวิกฤติสำหรับสัตว์ที่จะอาศัยหรือแม้แต่เดินทางข้ามทะเลทรายที่แห้งแล้ง
มีสัตว์หลายชนิดที่ดำรงชีพโดยการกินพืชจำเพาะชนิด
สัตว์เหล่านี้จึงมีเฉพาะพื้นที่ที่มีพืชอาหารสัตว์นั้นๆ เช่น หมีแพนดา
จะกินเฉพาะใบไผ่และหน่อไผ่เท่านั้น หรือหมีโคอาลาก็จะกินเฉพาะใบยูคาลิปตัสเท่านั้น
ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการกระจายและการเคลื่อนที่ของสัตว์
ได้แก่ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างสัตว์ด้วยกันเอง ตัวอย่าง เช่น บักเตรีชื่อไทรทาโนซัม
จะมีอยู่ในระบบทางเดินอาหารของสัตว์ในแอฟริกาเท่านั้น
มันแพร่กระจายไปยังสัตว์ทวีปอื่นไม่ได้
การแข่งขันระหว่างสัตว์เป็นปัจจัยจำกัดพื้นที่การแพร่กระจายเช่นกันเพราะสัตว์ต้องมีพื้นที่เพื่อหาอาหาร
เพื่อความปลอดภัยและเพื่ออยู่อาศัย
ดังนั้นเมื่อมีสัตว์ชนิดใหม่เข้ามาจะมีผลทำให้สมดุลย์ในพื้นที่นั้นเปลี่ยนไป
โดยเฉพาะถ้ามีผู้มาใหม่เป็นสัตว์กินเนื้อด้วยแล้ว
อาจจะทำให้สัตว์กินหญ้าบางพันธ์สุญพันธุ์ได้
หรือถ้าเป็นสัตว์ที่มีความต้องการคล้ายคลึงกันย้ายเข้ามาถ้าสัตว์เจ้าถิ่นต้านทานไม่ไหวจำต้องอพยพหนี
หรือลดจำนวนลง สัตว์มาใหม่จะเด่นขึ้นมาแทนที่เรียกพวกมาใหม่ว่า ผู้มาแทนที่
(Replacement) เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในออสเตรเลีย เมื่อกระต่ายพันธ์ต่างๆ
แพร่พันธ์เข้าไปทำให้กระรอกพื้นเมืองมีจำนวนพลเมืองลดลง
(ชาวยุโรปนำกระต่ายไปสู่ออสเตรเลีย)
การเดินทางของมนุษย์ด้วยพาหนะ เช่น เรือเดินสมุทร เป็นต้น
มีส่วนให้สัตว์บางชนิดแพร่พันธ์ไปทั่วโลก เช่น แมลงสาบ หนู และจิ้งจก เป็นต้น
รูปการอพยพของสัตว์กินหญ้าในอุทยานแห่งชาติมาไซมารา ประเทศ-เคนยา