ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

การฝึกหัดครู

การฝึกหัดครูของประเทศฟินแลนด์
การฝึกหัดครูของประเทศสวีเดน
การฝึกหัดครูของประเทศสาธารณรัฐอิตาลี

การฝึกหัดครูของประเทศสวีเดน

สวีเดนจัดการฝึกหัดครูในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย 25 แห่ง มหาวิทยาลัยบางแห่งเปิดสอนการฝึกหัดครูหลักสูตรครูศิลปะสาขาศิลปะปฏิบัติ ปริญญาหรือประกาศนียบัตรการเป็นครูจะได้รับหลังจากการเรียนเต็มเวลาประมาณ 3-5 ปีครึ่ง ขึ้นอยู่กับระดับของนักเรียนที่จะไปสอน และจำนวนหน่วยกิตที่จะต้องเรียน หลักสูตรฝึกหัดครูระยะสั้นจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง เป็นการจัดสำหรับผู้ที่ได้รับปริญญาตรีหรือปริญญาโทมาแล้ว โดยกำหนดให้เรียนวิชาทั่วไปและวิชาเฉพาะ เช่น กีฬา ภาษาต่างประเทศ ฯลฯ ครูสอนเด็กการศึกษาพิเศษได้รับการฝึกเป็นพิเศษ

ความเป็นมา

การฝึกหัดครูของสวีเดนเริ่มขึ้นในปีค.ศ.1862 มีการจัดตั้งสถาบันฝึกหัดครู 9 แห่ง โดย 6 แห่งสำหรับการฝึกหัดครูชายและ 3 แห่งสำหรับการฝึกหัดครูหญิง สถาบันฝึกหัดครูเหล่านี้เป็นขององค์กรทางศาสนา ทั้งเนื้อหาและการจัดองค์กรในระยะแรกจะกำหนดจากส่วนกลาง วิชาหลักที่สอน ได้แก่ ศาสนาคริสต์ ภาษาสวีเดน คณิตศาสตร์ และการร้องเพลง ส่วนภาษาต่างประเทศเปิดสอนในค.ศ.1913 การฝึกหัดครูขณะนั้นใช้เวลา 2 ปี และขยายเป็น 4 ปีในเวลาต่อมา

ค.ศ.1950 มีการจัดตั้งวิทยาลัยครูแบบเบ็ดเสร็จขึ้น 6 แห่ง แต่การฝึกหัดครูสอนเด็กก่อนวัยเรียนและประถมศึกษายังดำเนินต่อไปในโรงเรียนฝึกหัดครูประถมศึกษาระยะหนึ่ง แล้วจึงเปลี่ยนจากโรงเรียนเป็นวิทยาลัยครูขนาดเล็ก ในปีค.ศ.1968 มหาวิทยาลัยเข้ามาแทนสถาบันฝึกหัดครู และเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือการปฏิรูปการฝึกหัดครูในระดับประเทศ สถาบันฝึกหัดครูเปลี่ยนไปเป็นมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยในเวลาต่อมา การฝึกหัดครูในปัจจุบันสามารถเรียนกับ Swedish Net University ซึ่งเป็นสถาบันที่เรียนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนต ทำให้การเข้าถึงการฝึกหัดครูมีจำนวนมากขึ้น

ค.ศ.2001 มีหลักสูตรที่ให้ปริญญาทางครูแบบบูรณาการ คือเริ่มจากระดับก่อนประถมศึกษาไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยให้ทุกคนเรียนวิชาพื้นฐานสมรรถนะครู พร้อมกับเรียนวิชาเฉพาะที่จะไปสอนหรือสาขาวิชาที่จะไปสอน

การฝึกหัดครูการศึกษาปฐมวัยและผู้ดูแลเด็กวัยเรียน

ครูการศึกษาปฐมวัย (Pre-school teachers) ได้รับการฝึกในโรงเรียนฝึกหัดครูการศึกษาปฐมวัยโดยเฉพาะซึ่งใช้เวลา 2 ปี ส่วนการฝึกผู้ดูแลเด็กวัยเรียนตามศูนย์สันทนาการ (Leisure-times centres) มีการดำเนินงานโดยปราศจากกฎระเบียบสนับสนุนและมีรูปแบบแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่จะเป็นหลักสูตรพิเศษใช้เวลาประมาณ 2 ปี เปิดสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือสอนแบบการศึกษาผู้ใหญ่ในวิทยาลัยครูหรือสถาบันฝึกหัดครูการศึกษาปฐมวัย การฝึกหัดผู้ดูแลเด็กตามศูนย์สันทนาการจัดเป็นโปรแกรมการศึกษาซ่อมเสริม หรือจัดเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกอบรมตลาดแรงงาน

การฝึกหัดครูการศึกษาภาคบังคับ

การฝึกหัดครูระดับประถมศึกษาเริ่มต้นจัดกันอย่างอิสระ โดยปราศจากการสนับสนุนของรัฐ ใช้เวลาสั้น นักศึกษาส่วนมากเป็นผู้หญิง ต่อมาในปีค.ศ. 1931 รัฐเข้ามารับผิดชอบการฝึกหัดครู ทำให้การฝึกหัดครูระดับนี้ขยายเป็น 2 ปี เมื่อประกาศให้มีการศึกษาภาคบังคับใน ค.ศ.1962 การฝึกหัดครูแต่ละประเภทได้รับการฝึกอบรมทางด้านวิชาครูที่คล้ายกัน เพื่อลดความแตกต่างระหว่างครูระดับการศึกษาปฐมวัยกับครูระดับมัธยมศึกษา ทั้งนี้ กำหนดให้การฝึกสอนในโรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกหัดครู

ค.ศ.1988 มีการนำระบบการฝึกหัดครูใหม่มาใช้ ให้มีปริญญาทางครูสำหรับครูการศึกษาภาคบังคับเพียงปริญญาเดียว แทนปริญญาจากโปรแกรมการฝึกหัดครูที่เคยมีอย่างหลากหลาย ทั้งนี้ เพื่อทำให้การศึกษาภาคบังคับมีความสอดคล้องกัน การบูรณาการการฝึกหัดครูในค.ศ.2001 ทำให้ปริญญาครูการศึกษาบังคับถูกแทนที่ด้วยปริญญาครูช่วงชั้นต่างๆ ของการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งตามโครงสร้างใหม่นี้ ครูทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมสมรรถนะพื้นฐานและวิชาเฉพาะที่สอนเด็กวัยต่างๆ



การฝึกหัดครูมัธยมศึกษาตอนปลาย

ประกาศนียบัตรครูมัธยมศึกษาตอนปลายเกิดขึ้นในค.ศ.1992/1993 นำไปสู่การฝึกหัดครูแยกประเภท โปรแกรมใหม่นี้ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามารับการฝึกหัดครูเพิ่มเติมได้ การฝึกหัดครูสำหรับมัธยมศึกษาตอนปลายมุ่งจัดระบบการฝึกหัดครูทั้งภาคทฤษฎีและวิชาชีพ โดยมองเห็นว่าความยืดหยุ่นในการฝึกหัดครู จะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการสนองความต้องการครูประเภทต่างๆของโรงเรียน ในค.ศ.2001 ปริญญาครูแบบบูรณาการถูกแทนที่ด้วยปริญญาตรีการฝึกหัดครูที่แยกออกเป็นครูการศึกษาภาคบังคับและครูมัธยมศึกษาตอนปลาย

การรับนักศึกษาครูและหลักสูตรการฝึกหัดครู

จากการที่การฝึกหัดครูดำเนินงานในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย 25 แห่ง และมีปริญญาเดียว จึงหมายความว่าครูทุกคนต้องรับการฝึกอบรมเหมือนกัน ทั้งในด้านสมรรถนะพื้นฐานของครู วิชาเฉพาะที่จะนำไปสอน หรือสาขาวิชาที่จะสอนตามกลุ่มอายุของเด็ก การฝึกหัดครูใช้เวลาระหว่าง 3-5 ปีครึ่งขึ้นอยู่กับวิชาที่จะสอนและระดับนักเรียนที่จะสอน การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในโรงเรียนภายใต้การนิเทศของอาจารย์จะใช้เวลา 1/6 ของวิชาทั่วไปและ ¼ ของแต่ละวิชาเฉพาะด้าน

ในการรับเข้าเป็นนักเรียนฝึกหัดครู จะต้องสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือเทียบเท่า ต้องผ่านร้อยละ 90 ของ 2,500 หน่วยกิตจากมัธยมปลาย ผู้ที่ผ่านการศึกษาผู้ใหญ่ซึ่งมีหน่วยกิตไม่ถึง 2,500 จำเป็นต้องทำให้ได้ถึง 2,500 จึงจะมีสิทธิ์เข้าเรียนการฝึกหัดครู

หลักสูตรทักษะพิเศษและสาขาวิชาเฉพาะที่นักศึกษาครูสามารถเลือกเรียนได้มีดังนี้

  1. หลักสูตร 3.5 ปี สำหรับครูสอนในระดับการศึกษาก่อนประถมศึกษา ชั้นเด็กเล็ก หรือระดับล่าง ของการศึกษาภาคบังคับ รวมถึงครูที่จะดูแลและสอนเสริมแก่เด็กวัยเรียนซึ่งไปรับการอบรมเพิ่มเติมในศูนย์เด็กและการสอนเสริมภาษาสวีเดน
  2. หลักสูตร 4 ปี สำหรับครูสอนการศึกษาภาคบังคับระดับปลาย รวมทั้งผู้ที่จะสอนระดับมัธยมปลาย ยกเว้นครูที่จะสอนวิชาอาชีวะศึกษาในระดับมัธยมปลาย ความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชาใช้เวลาฝึก 1.5 ปี
  3. หลักสูตร 3 ปี สำหรับครูสอนวิชาเฉพาะในโปรแกรมอาชีวศึกษาระดับมัธยมปลาย จะจัดเป็นโปรแกรมที่ฝึกหลายๆวิชา โดยไม่เน้นเชี่ยวชาญเฉพาะวิชาใดวิชาหนึ่ง รวมทั้งเรียนวิชาในระดับอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 1.5 ปี หรือเทียบเท่า

หลักสูตรการฝึกหัดครูประกอบด้วย 3 สาขา และบูรณาการเข้าด้วยกันดังนี้

  1. สาขาการศึกษาทั่วไป ซึ่งนักศึกษาครูทุกคนต้องเรียน อาทิ การเรียนรู้ การศึกษาพิเศษ การปรับตัวเข้าสู่สังคม ค่านิยมพื้นฐาน รวมทั้งวิชาสหวิทยาการทั่วไป ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1.5 ปีเป็นอย่างน้อย
  2. สาขาวิชาที่ครูตั้งใจจะไปสอน ใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี
  3. สาขาวิชาพิเศษเพิ่มเติมอย่างน้อยที่สุด 1 ภาคเรียนเพิ่มเติมจากที่เรียนมาก่อน

สาขาการศึกษาทั่วไปต้องมีการฝึกประสบการณ์วิชาชีพที่โรงเรียน โดยใช้เวลาอย่างน้อย 1 ภาคเรียน การจะได้รับใบประกอบวิชาชีพครูต้องทำโครงการอิสระให้สอดคล้องกับงานที่จะไปสอน ใช้เวลาอย่างน้อย 1 ภาคเรียน

โปรแกรมการฝึกหัดครูจะเน้นความสำคัญของการศึกษาพิเศษ เพื่อช่วยให้ครูสามารถรู้ปัญหาซึ่งอาจจะเกิดขึ้นแก่เด็กในโรงเรียนได้แต่เนิ่นๆ จะได้สามารถช่วยเหลือเด็กให้ทันท่วงที นักศึกษาครูทุกคนต้องเรียนวิชาการศึกษาพิเศษ และสามารถศึกษาวิชาการศึกษาพิเศษด้านใดด้านหนึ่งอย่างลึกซึ้งโดยการเรียนเพิ่มเติมได้

การประเมินผล

การประเมินผลการฝึกหัดครูดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยการสอบข้อเขียนและสอบปากเปล่า นักศึกษาที่จะได้ปริญญาด้านครูต้องมีความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการศึกษาระดับที่เลือกเรียน และต้องสามารถพัฒนากิจกรรมการสอนให้สอดคล้องกับกฎระเบียบและคู่มือที่กำหนดไว้ นอกจากนี้แล้ว นักศึกษาต้องมีความสามารถดังต่อไปนี้

  1. สามารถสอนความรู้ในวิชาหรือสาขาวิชาเพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และพัฒนาต่อไปได้
  2. วิเคราะห์ ประเมิน บันทึกและเรียนรู้พัฒนาการของเด็กตามวัตถุประสงค์ของสถาบัน รวมทั้งแจ้งและร่วมมือกับผู้ปกครองของเด็ก
  3. สอนและปลูกฝังค่านิยมพื้นฐานของสังคมและระบอบประชาธิปไตย
  4. คุ้นเคยกับกฎ ระเบียบและวัตถุประสงค์ของการศึกษา ป้องกันการกีดกัน และการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกัน
  5. วิเคราะห์และมีความเห็นเกี่ยวกับปัญหาทั่วไป สภาพแวดล้อมของชีวิต และการเปลี่ยนแปลงของโลก
  6. ตระหนักในความสำคัญของความแตกต่างทางเพศในการสอนระหว่างการนำเสนอเนื้อหาวิชาต่างๆ
  7. ทำงานร่วมกับผู้อื่นและทำงานด้วยตนเองอย่างอิสระ ในการวางแผน นำแผนไปปฏิบัติ ประเมิน และพัฒนากิจกรรมการสอน กิจกรรมทางการศึกษา และการบริหารการสอนของตนเอง
  8. จัดระบบและใช้ประสบการณ์ของตนและประสบการณ์ของคนอื่น รวมทั้งผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาวิชาชีพของตน
  9. ใช้ ICT ในการพัฒนาการศึกษาและมองเห็นความสำคัญของสื่อในบริบทการพัฒนาการศึกษา

นอกจากนี้ นักศึกษาครูต้องมีความรู้เกี่ยวกับทักษะการอ่านและการเขียน และกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน นักศึกษาครูที่สอนระดับก่อนประถมศึกษา ชั้นเด็กเล็ก และมัธยมศึกษาตอนต้น ต้องมีความรู้อย่างลึกซึ้งในวิชาการอ่าน ทักษะการเขียน และมีทักษะพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์

สถิติเกี่ยวกับการฝึกหัดครู

โปรแกรมการฝึกหัดครูเป็นโปรแกรมที่จัดในสถาบันอุดมศึกษา และเป็นโปรแกรมเดียวที่นักศึกษาสมัครมากที่สุด ประมาณร้อยละ 10 ของนักศึกษาทั้งหมด ในค.ศ.2004–2005 โปรแกรมการฝึกหัดครูมีนักศึกษาปีแรก 13,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ร้อยละ 27 เป็นผู้ชาย นักศึกษาในสถาบันการฝึกหัดครูส่วนมากเป็นผู้หญิง จำนวนนักศึกษาชายจะมีประมาณร้อยละ 25 เท่าที่ผ่านมาพบว่านักศึกษาชายส่วนมากจะเรียนโปรแกรมวิชาที่มุ่งสอนเด็กโตในการศึกษาภาคบังคับและการศึกษามัธยมปลาย

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย