วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา

ควายป่า

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Bubalus bubalis Linnaeus
วงศ์: Bovidae

       ควายป่าจัดเป็นสัตว์จำพวกกีบคู่ ( Even - toed Ungulate ) จำพวกเดียวกันกับวัวป่า เท้าทั้ง 4ข้าง มีนิ้วเท้าขนาดใหญ่ข้องละ 2 นิ้ว เล็บที่ปลายนิ้วพัฒนามาเป็นกีบนิ้วแข็ง ( hoff ) ลักษณะเป็นกีบเท้าคู่ขนานกัน นิ้วที่ 2 และนิ้วที่ 5 ลดขนาดลงเหลือกีบกิ่งขนาด เล็ก ๆบริเวณข้อเท้าเหนือกีบนิ้ว ส่วนนิ้วโป้งหรือนิ้วที่ 1 หดหายไป จัดเป็นสัตว์กินพืชที่กินหญ้าเป็นอาหารหลัก มีการพัฒนาระบบย่อยอาหารแบบสัตว์เคี้ยวเอื้อง ฟันหน้าของกรามบนเปลี่ยนเป็นสันฟันคมสำหรับตัดฉีกพืชใบยาวจำพวกหญ้า กระเพาะอาหารมี 4 ตอนทำให้สามารถสำรอกอาหารจะส่วนของกระเพาะพักขึ้นมาเคี้ยวให้ละเอียดได้ใหม่ ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกหญ้าที่เป็นเส้นใยที่ย่อยยาก ๆ ควาย ( Buffalo ) ในสกุล Bubalus มีเพียงชนิดเดียวและถือว่าเป็นควายแท้ คือควายป่า ( Bubalus bubalis ) ซึ่งมีเขตกระจายพันธุ์เฉพาะในทวีปเอเชียและมีนิสยชอบน้ำมากจึงได้ชื่อเรียกว่าควายน้ำเอเชีย ( Asian Waterbuffalo )

รูปร่างลักษณะของควายป่ากับควายบ้านมีลักษณะคล้ายกันมาก เนื่องจากเป็นควายชนิดเดียวกัน แตกต่างกันที่สัดส่วนซึ่งใหญ่กว่ากันทุกสัดส่วนอย่างชัดเจน ลักษณะรูปร่างของควาย ค่อนข้างเตี้ยล่ำสัน สีขนตามตัวทั่วไปเป็นสีเทาหรือน้ำตาลดำ เส้นขนหยาบห่าง ช่วงคอใหญ่และหนา บริเวณลำคอมีแถบลายขนาดใหญ่สีขาวเป็นรูปตัว V หน้าผากแคบ ท้องไม่ป่องพลุ้ยอย่างควายบ้าน หางสั้น ความยาวเพียงแค่ข้อเข่าหลัง ปลายหางเป็นพู่ขนยาวใบหูแหลมมีขนขึ้นเต็มขาทั้ง 4 ข้าง

ขนาดของควายป่าไทย ช่วงลำตัวและหัวยาว 2.4-2.8 เมตร หางยาว 0.6-0.85 เมตร ความสูงที่ไหล่ 1.6-1.9 เมตร น้ำหนักตัวประมาณ 800-1,200 กิโลกรัม ส่วนขนาดควายบ้าน ขนาดตัวเฉลี่ย 1.3-1.5 เมตร ความสูงเฉลี่ย 1.2-1.4 เมตร น้ำหนักตัวประมาณ 360-440 กิโลกรัม



เขตการกระจายพันธุ์ของควายป่ามีอยู่แถบประเทศอินเดีย เมียนมาร์และกลุ่มประเทศอินโดจีน แต่ไม่กระจายลงมาทางแหลมมาลายู ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการกระจายพันธุ์ของควายป่า อีกทั้งยังพบว่าควายป่าในประเทศไทยมีขนาดใหญ่กว่าควายป่าในแหล่งอื่น ๆ ปัจจุบันคาดว่ายังมีควายป่าแท้ ๆ หลงเหลืออยู่ในประเทศเนปาล รัฐอัสสัมและโอริสสาของอินเดีย

ในประเทศไทย แต่เดิมเคยมีควายป่าอยู่ตามป่าทุ้งโปร่งเกือบทุกภาคของประเทศ ยกเว้นภาคใต้ แต่ปัจจุบันถูกล่าหมดไป ยังคงเหลืออยุ่เพียงแหล่งเดียวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทยธานี ประมาณ 40 ตัว ( 2536 )

พฤติกรรมความเป็นอยู่ทั่ว ๆ ไปของควายป่า ชอบอยู่รวมกันเป็นหมู่ที่มีตัวเมียและตัวผู้เล็ก ๆ ส่วนตัวผู้ที่มีขนาดใหญ่มักชอบแยกตัวอยู่ตามลำพังเป็นควายโทน ลักษณะรูปแบบสังคมคล้ายกับพวกวัวป่า แหล่งทีอยู่สำคัญได้แก่ ป่าทุ่งหรือป่าโปร่งตามที่ลุ่มต่ำที่มีหนองบึงสำหรับลงแช่ปลัก ปกติไม่ชอบอยู่ตามป่าเขาสูง ๆ ที่หาปลักโคนได้ยาก หรือตามป่าดิบรกทืบ เพาะมีเขายาวใหญ่เกะกะไม่สะดวกในการบุกรุก สายตาไม่ดี แต่จมูกและหูมีความไวต่อประสาทสัมผัสดีมาก

ฤดูผสมพันธุ์ของควายป่า ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงปลายฤดูฝน ต้นฤดูหนาว ประมาณเดือน ตุลาคม-พฤษจิกายน ในช่วงฤดูนี้ ปกติแล้วควายป่าตัวเมียจะมีระยะเป็นสัดประมาณ 20-21 วัน ต่อครั้ง ระยะตั้งท้องของควายป่าประมาณ 310 วัน ปกติออกลูกครั้งละ 1 ตัว ภายหลังจากออกลูกประมาณ 40 วัน แมควายป่าจะสามารถผสมพันธุ์ตั้งท้องได้ใหมิอีก แต่โดยทั่วไปแล้วแม่จะเลี้ยงดูลูกนานประมาณ 1 ปีครึ่ง โดยไม่ยอมผสมพันธุ์ใหม่อายุเฉลี่ยประมาณ 20-25 ปี

สาเหตุที่ทำให้ควายป่าในธรรมชาติ ลดน้อยลงอย่างรวดเร็วจนสูญพันธุ์ไปแล้วในหลายถิ่นกำเนิดเดิม ได้แก่การล่าเพื่อเอาเนื้อ หนังและเขา เป็นอาหารและเครื่องประดับต่างๆ ทั้งนี้เนื่องมีนิสัยที่ๆไม่ค่อยกลัวหรือหลบคน และการแช่ปลักหรืออยู่ตามทุ่งโล่งที่เดิมเป็นประจำ จึงถูกล่าได้ง่าย อีกทั้งป่าโปร่งหรือป่าทุ่งส่วนใหญ่ถูกทำลายเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นที่เกษตรกรรม ทำให้ควายป่ามีอยู่ถูกขับไล่กระจัดกระจายเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ไม่สามารถติดต่อกันได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อการถ่ายทอยพันธุกรรมของสัตว์ที่อยู่เป็นฝูงอย่างยิ่ง นอกจากนี้การลูกรุกถิ่นที่อยู่ของควายผป่า อาจที่ให้ควายป่าผสมพันธุ์กับควายบ้านที่คนเอามาเลี้ยง ทำให้พันธุกรรมของควายป่าด้วยลง และอาจติดโรคระบาดจากควายบ้านได้ด้วย

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย