สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>

ขมิ้นชัน

สมุนไพรแห่งยุค

ขมิ้นชัน ถือเป็นพืชที่มีประโยชน์รอบตัว สมัยโบราณที่สาวไทยจะใช้ผงขมิ้นชันขัดผิว ประทินผิว เพื่อให้ผิวนวลผ่องเป็นยองใย เนื่องมาจากขมิ้นมีคุณสมบัติก่อให้เกิด Brightening effect คือช่วยกระจายแสงที่ตกกระทบผิว ภายหลังการขัดผิวด้วยขมิ้นชัน ผิวจึงขาวผ่องเป็นพิเศษ นอกจากนั้นแล้วขมิ้นชันยังช่วยรักษาอาการผิดปกติของผิวหนัง เช่น ผดผื่นคัน สิวอักเสบ เชื้อรา หรือแผลอักเสบได้ดีมาก เวลาเดินทางเราสามารถพกพาขมิ้นชันผงแบบแคปซูลติดตัวไว้เสมอ เวลาที่เกิดแผลอักเสบระหว่างการเดินทาง ก็ใช้ขมิ้นชันแคปซูลแกะผงออกมาโรยแผลทั้งฆ่าเชื้อและลดอักเสบในเวลาเดียวกัน โรยไว้ตอนเย็นตื่นนอนเช้ามาแผลแห้งลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ยามนั่งรถนั่งเครื่องบินนาน ๆ ลำไส้ไม่เคลื่อนไหวเกิดอาการจุกเสียดแน่น ก็ได้ขมิ้นชันช่วยได้เช่นกัน เพราะคุณสมบัติของขมิ้นที่ช่วยขับลม แก้ท้องอืดนั่นเอง

ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมาย ที่ยืนยันสรรพคุณในด้านต่าง ๆ ของขมิ้นชันในมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโรคกระเพาะอาหาร ช่วยกระตุ้นเซลล์ในระบบภูมิต้านทานของเรา ซึ่งจะมีประโยชน์ในการรักษาและบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคข้ออักเสบ โรคหอบหืด ภูมิแพ้ ข้ออักเสบ เป็นต้น และประโยชน์อีกประการที่น่าจะเหมาะ สำหรับวิถีชีวิตปัจจุบัน ที่เราทุกคนมีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้น ก็คือขมิ้นชันมีฤทธิ์ทั้ง การรักษาและป้องกันมะเร็งได้

สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ขมิ้นชันมีฤทธิ์ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการแพร่กระจาย และยังช่วยป้องกัน ไม่ให้เซลล์ปกติไม่เปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็ง โดยออก ฤทธิ์ยับยั้งการเติบโต หรือการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้อย่างมีประสิทธิภาพ กับเซลล์มะเร็งหลาย ๆ ชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้และมะเร็งตับอ่อน ดังนั้นจึงเป็นข่าวดีของผู้ป่วยมะเร็งที่ควรเริ่มรับประทานกันไว้ การใช้ใน รูปแบบอาหารนั้นถือว่าปลอดภัยที่สุด เช่น ในรูปแกงกะหรี่ หรือผสมผงขมิ้นชันในเครื่องดื่มก็ได้ แต่ถ้าจะรับประทานในรูปแบบอาหารเสริมในช่วงที่ได้เคมีบำบัดอาจต้องระวังเล็กน้อยเพราะมีบางราย รายงานการวิจัยบอกว่าอาจรบกวนประสิทธิภาพของยาได้ แต่สำหรับคนที่ต้องการป้องกันเอาไว้ก่อนขมิ้นชันก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะรายการวิจัยบอกว่า ขมิ้นชันมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง สมุนไพรแห่งยุคตัวจริงต้องยกให้ ขมิ้นชัน

แหล่งที่มา : อภัยภูเบศรสาร ปี่ที่ 7 ฉบับที่ 83 ประจำเดือนพฤษภาคม 2553