วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน กำเนิดสุดสาคร
หน้า 2
วันหนึ่งเมื่อพระสิทธาเข้านั่งฌาน สุดสาครได้หนีลงทะเลไปเล่นปล้ำปลา ได้ไปพบม้าหน้าเหมือนมังกร จึงเข้าจับแต่มันไม่ยอม จึงเกิดต่อสู้กันจนมืดค่ำ สุดสาครจึงกลับมาบอกพระโยคี พระโยคีได้ฟังก็นึกไม่ออกเป็นตัวอะไร จึงเล็งญาณ ดูก็รู้ว่าเป็นสัตว์ที่เกิดจากม้ามังกรสมจรกัน พระโยคีเห็นว่าเป็นม้ามีฤทธิ์จึงคิดที่ให้หลาน จะได้ใช้ขับขี่ไปตามพระบิดา จึงบอกว่าเป็นม้าที่ดี และสอนวิธีจับให้ สุดสาครก็จับม้ามังกรมาได้
ม้าตัวนี้ดีจ้านเจียวหลานเอ๋ย
เป็นกระเทยเขี้ยวเพชรไม่เข็ดขาม
จับไว้ขี่สง่ากล้าสงคราม
จะได้ตามบิตุเรศไปเขตคัน
แล้วบอกมนต์กลเล่ห์กระเท่ห์ให้
จะจับได้ด้วยพระเวทวิเศษขยัน
สุดสาครนอนบ่นมนต์สำคัญ
ได้แม่นมั่นเหมือนหนึ่งจิตไม่ผิดเพี้ยน
จึงลงหวายสายเอกเสกประทับ
ไว้สำหรับผูกรั้งเช่นบังเหียน
แล้วท่องบ่นมนต์เก่าที่เล่าเรียน
พอสิ้นเทียนเพลินหลับระงับไป
พอเช้าตรู่รู้สึกให้นึกแค้น
ฉวยเชือกแล่นลงมหาชลาไหล
ฯลฯ
เอาวงหวายสายสิญจน์สวมศีรษะ
ด้วยเดชะพระเวทวิเศษขลัง
ม้ามังกรอ่อนดิ้นสิ้นกำลัง
ขึ้นนั่งหลังแล้วกุมารก็อ่านมนต์
ได้เจ็ดคาบปราบม้าสวาหะ
แล้วเป่าลงตรงศีรษะสิ้นหกหน
อาชาชื่นฟื้นกายไม่วายชนม์
ให้รักคนขี่หลังดังชีวา
ฯลฯ
พระนักสิทธิ์พิศดูเป็นครู่พัก
หัวร่อคักรูปร่างมันช่างขัน
เมื่อตัวเดียวเจียวกลายเป็นหลายพันธุ์
กำลังมันมากนักเหมือนยักษ์มาร
กินคนผู้ปูปลาหญ้าใบไม้
มันทำได้หลายเล่ห์อ้ายเดรฉาน
เขี้ยวเป็นเพชรเกล็ดเป็นนิลลิ้นเป็นปาน
ถึงเอาขวานฟันฟาดไม่ขาดรอน
เจ้าได้ม้าพาหนะตัวนี้ไว้
จะพ้นภัยภิญโญสโมสร
ให้ชื่อว่าม้านิลมังกร
จงถาวรพูนสวัสดิ์แก่นัดดา
ฯลฯ
พระโยคีได้เรียกสุดสาครมาเล่าความเรื่องพระบิดาให้ฟังว่าเป็นหน่อกษัตริย์ชื่อพระอภัยมณี พลัดพรากจากเมืองมาอยู่กับพระโยคีเป็นเวลานาน พึ่งโดยสารเรือกลับไปเมื่อปีจอ ตอนนี้ปีชวดก็เป็นเวลาสามปีมาแล้ว ให้สุดสาครติดตามหาพระบิดา จะได้ช่วยทำนุบำรุงบ้านเมือง และสืบตระกูลต่อไป อยู่ที่เกาะแก้วพิสดารก็เป็นการอยู่เสียเปล่าไม่เข้าการ
สุดสาครได้ฟังเรื่องจากพระโยคีแล้วก็คิดว่าเป็นลูกทิ้งบิดานั้นน่าอาย ตนจะขอลาเจ้าตาเพื่อตามหาพระบิดา พระดาบสก็บอกว่า พระอภัยไปครองเมืองผลึก จะทำศึกชิงผู้หญิงกับสิงหล แล้วบอกทางไปเมืองผลึกว่าอยู่ทางทิศพายัพ ไกลจากที่นี่มาก แล้วให้ไม้เท้าทิพย์ไว้ป้องกันภัย พร้อมกับปิ่นทองของพระอภัย
ตรงมืองชี้นี่นะจำเอาตำบล
เป็นมณฑลทิศพายัพอยู่ลับลิบ
อันพ่อเจ้าไม่แก่ไม่หนุ่มนัก
อายุสักยี่สิบเก้าเข้าสามสิบ
พระบอกพลางทางประทานไม้เท้าทิพย์
ไปทางนี้ผีดิบมันดุดัน
สำหรับมือถือไว้อย่าให้ห่าง
เปรียบเหมือนอย่างศรแผลงพระแสงขรรค์
ทั้งแคล้วคลาดศาสตราสารพัน
ประกับกันผีสางปะรางควาน
อันปิ่นทองของพระอภัยให้
ช่วยแซมใส่เกศีเมาลีหลาน
บิดาเจ้าเผ่าพงศ์พวกวงศ์วาน
ใครพบพานจะได้เห็นเป็นสำคัญ
แล้วจัดแจงแต่งนุ่งหนังเสือให้
ครบเครื่องไตรครองประทานพระหลานขวัญ
ผูกชฎาหนังรัดสะพัดพัน
ฝนแก่นจันทน์เจิมมหาอุณาโลม
ฯลฯ