เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์>>

กระดาษ 

นับตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์มนุษย์ได้มีความต้องการที่จะบันทึกเหตุการณ์ชีวิต  และจินตนาการของตนเพื่อแสดงความคิดเห็น และเพื่อสะสมความรู้ให้แก่อนุชนรุ่นหลัง  แต่เมื่อไม่มีวัสดุใดๆ  ที่จะสนองตอบความประสงค์เช่นนั้นได้  มนุษย์เมื่อ 30,000  ปีก่อน  จึงได้วาดภาพสัตว์ลงบนผนังถ้ำ  คน  Sumerian  เมื่อ 5,200  ปีก่อนเขียนภาพอักษรลงบนดินเหนียว  คนจีนโบราณแกะสลักข้อความบนกระดองเต่าและเขียนภาพบนผ้าไหม  คนกรีกในอดีตใช้วิธีเขียนข้อความลงบนหนังแกะ แพะ หรือวัว  ชนเผ่ามายาในอเมริกากลางใช้วิธีวาดภาพลงบนเปลือกไม้  คนโรมัน  และคนอียิปต์  เมื่อ 4,500  ปีมาแล้ว  ใช้ใบของต้น  papyrus  ที่มีขึ้นมากมายตามสองฝั่งแม่น้ำ  Nile  สำหรับเขียนภาพและภาษา  เป็นต้น  เหล่านี้เป็นวิธีที่มนุษย์โบราณใช้ในการบันทึกความนึกคิดและความทรงจำ

แต่ปัจจุบัน  มนุษย์เราใช้กระดาษในการดำรงชีวิตมาก  และบ่อยจนอาจจะถือได้ว่า  กระดาษเป็นปัจจัยหนึ่งของชีวิตและอารยธรรม เช่น Shakespeare  เขียนบทประพันธ์ลงบนกระดาษ  Beethoven  เขียน ซิมโฟนีลงบนกระดาษ Picasso  วาดภาพบนกระดาษ และ Einstein  ก็ใช้กระดาษในการคิดทฤษฎีสัมพัทธภาพให้โลกรู้และเข้าใจ  ความคิดสร้างสรรค์ที่อัจฉริยะบุคคลเหล่านี้ได้บันทึกลงบนกระดาษได้เปลี่ยนโฉม  และทิศทางความเป็นอารยะของมนุษย์มากถึงขนาด  Martin  Luther  ได้เคยกล่าวว่า  หากคนทุกคนในโลกมีคัมภีร์ไบเบิล โลกก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องมีสันตะปาปาอีกต่อไป

แต่ถ้าหากเราถามใครสักคนว่า  ใครเป็นผู้ประดิษฐ์กระดาษเป็นคนแรกของโลก  คนส่วนมากจะตอบไม่ได้  ประวัติศาสตร์ได้บันทึกว่า  ชาวจีนคนหนึ่งชื่อ  Ts' ai Lun  ผู้ทำงานประจำราชสำนักของจักรพรรดิ์  Ho Ti  เป็นบุคคลแรกที่รู้จักทำกระดาษในปี พ.ศ. 648  ทำให้องค์จักรพรรดิ์ทรงพอพระทัยมากจึงได้ทรงพระราชทานเงินทอง  และทรัพย์สมบัติให้ Ts' ai Lun มากมาย  แต่ Ts' ai Lun  เหิมเกริม  คิดจะล้มราชบัลลังก์  ดังนั้นเมื่อเขาถูกจับจึงถูกบังคับให้กินยาพิษตาย

กระดาษที่ Ts' ai Lun  ทำขึ้นมาได้เป็นที่นิยมใช้กันมากในประเทศจีน  เช่น  ใช้ทำเป็นธนบัตร  และใช้ในประเพณีเผากระดาษเวลามีงานศพ  เป็นต้น  ถึงแม้เทคโนโลยีการทำกระดาษจะอุบัติในจีนในสมัยพุทธศตวรรษที่ 7  ก็ตาม  แต่ชนชาติอื่นก็มิได้ล่วงรู้เทคนิคการทำเลย  เพราะสังคมจีนโบราณเป็นสังคมปิดที่คนจีนไม่ติดต่อกับต่างชาติ  แต่เมื่อประเทศจีนเจริญก้าวหน้าและผู้คนได้ทำมาค้าขายกับประเทศใกล้เคียง  คนเกาหลีและญี่ปุ่นจึงได้รู้วิธีทำกระดาษในพุทธศตวรรษที่ 8  และ 9  ตามลำดับ

ในปี พ.ศ.1294  ได้เกิดสงครามระหว่างจีนกับอาหรับ  เมื่อนักทำกระดาษของจีนหลายคนถูกจับเป็นเชลย  เทคโนโลยีการทำกระดาษของจีนจึงได้แพร่หลายไปในโลกอาหรับ  และคนยุโรปก็ได้เรียนวิธีทำกระดาษจากชาวอาหรับอีกทอดหนึ่ง  เมื่อ  J. Gutenberg  ประดิษฐ์เครื่องพิมพ์ในปี พ.ศ. 1995  กระดาษได้เป็นวัสดุหลักที่ใช้เขียนในโลกตะวันตก  และเมื่อคนยุโรปรู้วิธีทำกระดาษและมีวิธีการพิมพ์โดยเครื่องจักร  อารยธรรมของยุโรปก็เริ่มมีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว  จนล้ำหน้าจีนไปทันที  เพราะเครื่องพิมพ์ของ  Gutenberg  ได้ทำให้คนจำนวนมากสามารถรับข่าวสารได้พร้อมๆ  กัน  ในขณะที่จีนยังคงใช้วิธีพิมพ์ด้วยวิธีธรรมดา  ทำให้ความรู้และข้อมูลต่างๆ  เดินทางช้า  ดังนั้นถึงแม้คนยุโรปจะรู้จักทำกระดาษหลังจีนร่วม 1,000  ปีก็ตาม  แต่การมีเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยทำให้วิทยาศาสตร์ของยุโรปก้าวทันจีนและล้ำหน้าไปในที่สุด

ปัจจุบันโลกผลิตกระดาษประมาณปีละ  300  ล้านตัน  คนอเมริกันคนหนึ่งๆ  ใช้กระดาษเฉลี่ยปีละ 330  กิโลกรัม  ในรูปของหนังสือพิมพ์วัสดุห่อของกระดาษโฆษณา ฯลฯ  คนญี่ปุ่นนิยมใช้กระดาษพับรูปสัตว์ (origami)  ทำว่าว  ร่ม  และม่านบังตา  เป็นต้น

ถึงแม้ประวัติความเป็นมาของกระดาษจะยาวนานเกือบ 2,000  ปีก็ตาม  แต่องค์ประกอบหลักของกระดาษก็ยังคงเหมือนเดิมคือ  กระดาษต้องมีน้ำและใยเซลลูโลส  และพันธะเคมีระหว่างโมเลกุลทั้งสองชนิดนี้เองทำให้กระดาษแข็ง

แต่กระดาษก็เช่นเดียวกับวัสดุอื่นๆ  คือมีการสลาย  เพราะเมื่อเวลาผ่านไปนาน  เนื้อกระดาษที่เคยมีสีขาว  หรือหมึกกระดาษที่เคยมีสีดำจะกลายสภาพ  คือ เปราะ  หัก  และหมึกจะขาดความคมชัด  ดังนั้นนักอนุรักษ์กระดาษจึงต้องคิดหาหนทางเก็บกระดาษที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ให้คงสภาพดีตลอดไป

เช่น  หอสมุดรัฐสภาของสหรัฐอเมริกาใช้วิธีบรรจุหนังสือล้ำค่าลงในกล่องพิเศษที่ได้รับการปกป้องมิให้มีความชื้น  หรือฝุ่นละอองมารบกวน  ส่วนกรณีเอกสารที่ถูกตีพิมพ์ในสมัยสงครามกลางเมืองของสหรัฐฯ  ซึ่งได้ถูกมอดไชเป็นรูเล็กก็ได้รับการซ่อม  โดยนักอนุรักษ์ใช้วิธีเติมเนื้อกระดาษชนิดเดียวกันลงในรูเหล่านั้นให้กลมกลืน

เทคโนโลยีอวกาศก็ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในการอนุรักษ์กระดาษเช่นกัน  โดยนักอนุรักษ์ใช้กล้องถ่ายภาพที่ใช้ในดาวเทียมจารกรรม  ถ่ายภาพตัวอักษรที่ปรากฏบนกระดาษ  การมีประสิทธิภาพในการเห็นสูง  จะทำให้กล้องสามารถเห็นความเข้มของหมึกได้อย่างชัดเจน  ดังนั้นเมื่อความเข้มหมึกเปลี่ยนแปลง  กล้องก็จะตรวจพบ  และนี่คือสัญญาณชี้บอกให้นักอนุรักษ์เริ่มหยิบแปรง  พู่กัน  มาเติมแต่งให้คงสภาพเดิม

ถึงแม้กระดาษจะมีประโยชน์สักปานใดก็ตาม  แต่กระดาษก็เช่นเดียวกับสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ  คือมีโทษเช่นกัน  คือ  ในการทำกระดาษเราต้องการตัดต้นไม้  เช่น  ไผ่  เพื่อเอาเยื่อมาทำกระดาษ  หมึกกระดาษก็มีราคาแพง  อุตสาหกรรมกระดาษต้องใช้น้ำมากและน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานทำกระดาษเป็นน้ำที่มีมลพิษและปัญหาการจำกัดกระดาษที่ใช้แล้วคือปัญหาขยะ  มาบัดนี้ปี 2000  โลกกำลังคิดจะใช้สื่อใหม่แทนกระดาษ  ถ้าสื่อใหม่ได้รับความนิยมจากสังคม  นั่นก็หมายความว่ายุคการใช้กระดาษก็จะถึงกาลอวสาน  สิ่งนั้นคือกระดาษอิเล็กทรอนิกส์  และหมึกอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจะใช้ควบคู่กับคอมพิวเตอร์ในการแสดงภาพตัวอักษร  และภาพถ่ายต่างๆ

กระดาษอิเล็กทรอนิกส์นี้จะบาง  ทำให้สามารถทำให้นำติดตัวไปไหนมาไหนได้  และก็อ่านง่ายเช่นเดียวกับกระดาษธรรมดาเพราะเพียงแต่เปิดสวิทช์  ผู้อ่านก็จะอ่านข้อมูลในกระดาษได้ทันที  คุณสมบัติที่ประเสริฐข้อหนึ่งของกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ก็คือ  ภาพ  และตัวอักษรที่ปรากฏบนกระดาษจะปรากฏอยู่ได้นาน  โดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจากที่ใดมาในการอนุรักษ์เลย

 ขณะนี้ก็ได้มีการนำกระดาษอิเล็กทรอนิกส์  มาใช้ตามร้านค้า  ร้านซูเปอร์มาเก็ตสนามบิน  และที่สาธารณะอื่นๆ  แล้ว  และอีก 7 ปีนับจากนี้ไป  เมื่อเทคโนโลยีการใช้สีหมึกอิเล็กทรอนิกส์ก้าวหน้าขึ้น จอคอมพิวเตอร์หน้าปัทม์นาฬิกา  และเครื่องคิดเลขต่างๆ  ก็จะใช้กระดาษอิเล็กทรอนิกส์แทน  และอีก 20 ปีข้างหน้า  ผู้เชี่ยวชาญด้านสารสนเทศต่างก็คาดคะเนว่า  หนังสือจำนวนมากมายที่มีในห้องสมุดจะถูกแทนที่ด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพียง 1 เล่ม  ได้อย่างสบายๆ

จากการที่เราสามารถอ่านกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่าย  และสามารถนำกระดาษที่ข้อมูลมากนี้ติดตัวไปไหนมาไหนได้สะดวก  อีกทั้งสามารถนำมาอ่านได้  100  ล้านครั้ง กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่สลาย  คือ  เป็นคราบเหลืองเช่นกระดาษทั่วไป  เพราะสีอิเล็กทรอนิกส์ที่นำมาใช้ทำด้วยอนุภาคกลมเล็กที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.01 มิลลิเมตรจำนวนมากมาย  โดยอนุภาคถูกบรรจุอยู่ในแคปซูล (capsule)  ขนาดใหญ่กว่า 40  เท่าตัว  และครึ่งหนึ่งของตัวอนุภาคถูกทาด้วยสารประกอบ  titanium  dioxin  ทำให้มีสีขาว  และอีกครึ่งหนึ่งมีสีดำ  อนุภาคส่วนที่มี titanium  dioxin ถูกทำมีประจุไฟฟ้าลบ  ดังนั้นเวลาเราเอาขั้วไฟฟ้าขนาบบน capsule โดยให้บางตำแหน่งเป็นขั้วบวก  บางตำแหน่งเป็นขั้วลบ  บริเวณเป็นบวกก็จะดูดประจุลบบนเม็ดอนุภาคบริเวณที่เป็นขั้วลบก็จะผลักประจุลบบนอนุภาค  มีผลทำให้อนุภาคหมุนตัว  กลับลงล่าง  หันส่วนที่เป็นดำขึ้น  ข้างบนแทนทันที  ทั้งนี้โดยมีคอมพิวเตอร์เป็นตัวกำหนดบริเวณขาวดำ  ทุกบริเวณบนกระดาษอิเล็กทรอนิกส์

ปัจจุบันราคาของกระดาษชนิดนี้ประมาณตารางเมตรละ 12,000 บาท  และเทคโนโลยีใหม่ที่จะใช้ในการทำกระดาษนี้  คือ pointer ขนาดเท่าดินสอ  ที่ภายในมี  memory  ดังนั้นเวลาเราเคลื่อน   pointer  ไปบนผิวกระดาษอิเล็กทรอนิกส์  การสัมผัสทางไฟฟ้าระหว่าง pointer  กับกระดาษจะทำให้ข้อมูลจาก pointer  ถูกถ่ายทอดลงสู่กระดาษได้ทันที

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ว่านี้หน้าเดิมสามารถบรรจุข้อมูลแทนหนังสือธรรมดาได้ 100  เล่ม  และในการเปิดอ่านหรือคนก็สามารถอ่านได้เร็วถึง 20  หน้า/วินาที (ถ้าอ่านทัน) ราคาซิครับที่เป็นปัญหา โลกของคนรวยในอนาคตคงเป็นโลกกระดาษอิเล็กทรอนิกส์  โลกของคนจนก็คงจะใช้กระดาษธรรมดาเหมือนเดิมอีกนาน

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย

🍁 "บ้าน" มรดกทางวัฒนธรรม
"บ้าน" คือการบอกเล่าความเป็นมา คือการบอกล่าวถึงพัฒนาการในการดำรงชีพของมนุษย์ "บ้าน" ที่อยู่อาศัยหนึ่งในปัจจัยสี่ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับมนุษย์ และบ่งบอกถึงความั่นคง

🍁 ภูมิปัญญากีฬาไทย
กีฬาไทยที่บรรพชนไทยค้นคิด และถ่ายทอดมาสู่ลูกหลาน บางชนิดกลายเป็นตำนานและความทรงจำ และบางชนิดยังคงมีการเล่นกันอยู่

🍁 สะพานสู่ฟ้าใหม่
สะพานข้ามน้ำเป็นสัญลักษณ์การข้ามอุปสรรคขวางกั้นไปสู่จุดหมาย และการเชื่อมโยงสิ่งตรงข้ามมา เพื่อสร้างเอกภาพอันกลมกลืนมั่นคง

🍁 ทิวธงมงคลชัย
สิ่งสะท้อนความคิด และสืบทอดคติความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี ของชนรุ่นแล้วรุ่นเล่า จากยุคสมัยหนึ่งสู่อีกยุคสมัยหนึ่ง ดุจตัวแทนที่น้อมนำสู่มงคลแห่งชีวิต

🍁 พระราชลัญจกรประจำรัชกาล
ตราประจำพระมหากษัตริย์ แต่ละรัชกาล ซึ่งจะทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อเริ่มต้นรัชกาล เพื่อประทับกำกับพระปรมาภิไธย ในเอกสารสำคัญต่างๆของชาติ ที่เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน

🍁 สามล้อไทย
วิถีหนึ่งของสายทาง ซึ่งแม้เวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนไป หากสายทางของสามล้อยังคงผูกพัน เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย

🍁 กีฬาสัตว์
ด้วยนิสัยช่างสังเกตของคนไทย จึงเป็นที่มาของกีฬาซึ่งใช้สัตว์เป็นผู้แข่งขัน จนกลายเป็นกิจกรรมบันเทิงพื้นบ้าน ยามว่างนับแต่อดีต

🍁 ตาลปัตร พัดรอง
พัดที่ทำจากใบตาลมีหลายรูปแบบ สำหรับใช้โบกให้ความเย็น และใช้เป็นการบ่งบอกถึงฐานะ บรรดาศักดิ์ของผู้ใช้

🍁 ปัญญาประดิษฐ์
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ เอไอ (AI) หมายถึง ความฉลาดเทียมที่สร้างขึ้นให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิตเป็นสาขาหนึ่งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมเป็นหลัก

🍁 มัทนะพาธา
บทละครเรื่องมัทนะพาธาได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรประกาศยกย่องให้เป็นหนังสือที่แต่งดีใช้คำฉันท์เป็นบทละครพูด ที่มีตัวละครและฉากสอดคล้องกับวัฒนธรรมภารตะโบราณ

🍁 คู่มือพระสังฆาธิการ
ส่วนหนึ่งของหลักสูตรถวายความรู้ แด่พระสังฆาธิการ หมวดวิชาพื้นฐานทั่วไป ซึ่งพระสังฆาธิการจำเป็นจะต้องรับทราบ และถือปฏิบัติเพื่อเป็นแนวทาง ในการบริหารการปกครองวัด

🍁 หุ่นยนต์
หุ่นยนต์มีความแตกต่างจากเครื่องจักรกลแบบอื่น ๆ ตรงที่มันสามารถเคลื่อนไหวโครงสร้างได้ หุ่นยนต์แตกต่างจากคอมพิวเตอร์ตรงที่มันสามารถนำผลที่ได้จากการประมวลมา ปฏิบัติให้เกิดงานในทางกายภาพได้ขณะที่คอมพิวเตอร์ไม่มี

🍁 ข้อคิดจากนิทานไทย
นิทานเป็นเรื่องเล่าที่สืบทอดมาแต่โบราณ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพาเด็กและเยาวชนไปสู่โลกกว้างของการเรียนรู้ชีวิตจริง

🐍 โปรดระวังงูฉก

มนุษย์ก็เหมือนสสารชนิดหนึ่ง
ที่รอวันร่วงโรยแตกดับ

อยู่ไปนานวันเข้าก็เริ่มสูญเสียความสมดุล
ระบบการทำงานของร่ายกายก็ช้าลงไปเรื่อยๆ

หลีกหนีไม่พ้นความตายในที่สุด

ร่างกายเน่าเปื่อยผุผัง
ไม่เที่ยงแท้แน่นอน
ไม่มั่นคงยั่งยืน
กลับคืนสภาพเดิมได้ยาก

จากธรรมชาติสู่ธรรมชาติ
ทั้งในสถานะของแข็งของเหลวและก๊าซ

มันเป็นอนิจจัง

รู้แล้วเหยียบไว้
อย่าได้ทำเป็นตื่นตูม.

🐍 งูเขียว หางบอบช้ำ : เขียน

เชิญแวะอ่านสักนิดสักหน่อยก็ยังดี...

🌿 จอมยุทธ แห่งบ้านจอมยุทธ (รวมงานเขียน)
หูข้ารับได้แต่สิริมงคล ตาข้ารับได้แต่สวนดอกไม้ ความรู้สึกนึกคิดข้าสงบเย็น ด้วยแสงแห่งธรรมที่สาดส่อง อาบวิญญาณเปล่าเปลือยและล่อนจ้อน

🌿 ฉายเดี่ยว (รวมงานเขียน)
อย่ารอให้ผีปู่ผีย่าต้องลุกขึ้นมาเอากระโถนน้ำหมากเขกกบาล สยามของท่านให้เราอยู่กิน ไม่ได้ให้มางี่เง่ากันเยี่ยงนี้

🌿 งูเขียว หางบอบช้ำ (รวมงานเขียน)
มีแต่คนรักและหวังดีต่อประเทศชาติ มีแต่คนอยากเห็นประเทศชาติสงบสุขเป็นปึกแผ่น ไม่มีแม้แต่หมาสักตัวบนแผ่นดินนี้ อยากมีอำนาจ

🌿 ขอเป็นตาแก่ขี้บ่นในหัวใจเธอ
สง่างามแบบมนุษย์ๆ ไม่ขี้โกงเอารัดเอาเปรียบกัน ไม่นินทากันลับหลัง ไม่เหยียบย่ำทำลายกัน นั่นย่อมประเสริฐแล้ว

ยังมีอีก »


ชีวิตเริ่มต้นอีกครั้งหลังเกษียณ
ภูจอมยุทธ | Podcast

ชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง หิวก็กินง่วงก็นอน อยากทำอะไรก็ทำ เบียดเบียนสภาพแวดล้อมแต่พองาม ประสบการณ์แบ่งปันผู้คน มากบ้างน้อยบ้าง วัดกับร้านเหล้าถือเป็นสถานอโคจร ที่ต้องรักษาระยะห่าง คลิกดู👆