สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
สารอาหารของผู้สูงอายุ
รุจิรา สัมมะสุต
ความต้องการพลังงานและสารอาหารของคนทั่วไปแตกต่างกันไปตามเพศ วัย ขนาดของร่างกาย สุขภาพและการใช้พลังงานของแต่ละคน ผู้สูงอายุมักมีการใช้พลังงานน้อยลงอันเนื่องมาจาก ความเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกาย การเคลื่อนไหว การใช้พลังงานในการทำงาน สิ่งเหล่านี้มีส่วนทำให้พลังงาน ความต้องการพลังงานของผู้สูงอายุลดลงเมื่อเทียบกับวัยเจริญเติบโต หรือวัยหนุ่ม-สาว
ทั้งนี้เนื่องจากการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานลดน้อยลง คณะกรรมการร่วม FAO/WHO เสนอแนะให้ลดพลังงานจากอาหารลง 5% ต่อทุก 10 ปี ของอายุที่เพิ่มขึ้นจนถึงอายุ 59 ปี เมื่ออายุ 60-69 ปี ให้ลดพลังงานจากอาหารลง 10% และเมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไป ให้ลดพลังงานลงไปอีกเป็น 20% ของพลังงานที่ต้องการในวัยหนุ่ม-สาว
สำหรับคนไทย กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ได้แนะนำให้ลดพลังงานลงโดยเฉลี่ย 100 กิโลแคลอรีต่อทุกอายุ 10 ปีที่เพิ่มขึ้น
และในผู้ที่มีอายุ 60 ปี ควรได้รับพลังงานประมาณ 2,200
กิโลแคลอรีต่อวันและไม่ควรได้รับพลังงานต่ำกว่า 1,200 กิโลแคลอรีต่อวัน
เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารวิตามินและเกลือแร่บางชนิดไม่เพียงพอ
แก่ความต้องการของร่างกายได้ สำหรับผู้สูงอายุที่มีการออกกำลังเป็นประจำ
จำเป็นต้องได้รับ
พลังงานสูงกว่าผู้สูงอายุทั่วไปที่ไม่ได้มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หรือผู้สูงอายุ ที่น้ำหนักตัวมากกว่าปกติ หรือเกินมาตรฐานควรได้รับพลังงานลดลง
เพื่อลดน้ำหนักตัวลง ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
โปรตีน
โปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยในการเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
มีการถกเถียงถึงปริมาณโปรตีนที่ควรรับประทานในวัยสูงอายุว่าควรเป็นเท่าใด
บางคนว่าต้องได้รับมากขึ้น และบางคนว่าต้องน้อยลงจากที่เคยได้รับในวัยหนุ่ม-สาว
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมการร่วมของ FAO/WHO/UNU
ได้เสนอแนะปริมาณโปรตีนในวัยสูงอายุว่า ควรเป็น 10-12%
ของพลังงานที่ได้รับหรือประมาณ 0.75-0.8 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
จากข้อกำหนดปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับสำหรับคนไทยนั้น ได้กำหนดไว้ว่า
ผู้สูงอายุควรได้รับสารอาหารโปรตีนวันละ 44-51 กรัม
สารอาหารโปรตีนได้มาจากเนื้อสัตว์ต่างๆ ถั่วเมล็ดแห้ง ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนม
เนื้อสัตว์ควรรับประทานประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน
ไม่ติดหนัง เช่น เนื้อปลา อกไก่ หมูสันในที่ไม่ติดมัน เป็นต้น
ถั่วเมล็ดแห้งให้โปรตีนสูง
นำมาทำอาหารให้ผู้สูงอายุเป็นการเปลี่ยนลักษณะและรสชาติอาหาร ได้เป็นอย่างดี เช่น
น้ำนมถั่วเหลือง เต้าหู้ ถั่วต้มน้ำตาล เป็นต้น ไข่ เป็นอาหารที่ให้โปรตีนที่ดี
ทำอาหารได้หลายชนิด ผู้สูงอายุรับประทานสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง
ในกรณีที่มีปัญหาของไขมันสูงในเลือด
สามารถเลือกรับประทานเฉพาะไข่ขาวได้เพราะไข่ขาวไม่มีโคเลสเตอรอล นมเป็นอาหารอีกชนิด
ที่ผู้สูงอายุควรดื่มทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว เพราะให้ทั้งโปรตีนและแคลเซียมสูง
ช่วยซ่อมแซม และเสริมความแข็งแรงให้กระดูก
ไขมัน
โปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยในการเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
มีการถกเถียงถึงปริมาณโปรตีนที่ควรรับประทานในวัยสูงอายุว่าควรเป็นเท่าใด
บางคนว่าต้องได้รับมากขึ้น และบางคนว่าต้องน้อยลงจากที่เคยได้รับในวัยหนุ่ม-สาว
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมการร่วมของ FAO/WHO/UNU
ได้เสนอแนะปริมาณโปรตีนในวัยสูงอายุว่า ควรเป็น 10-12%
ของพลังงานที่ได้รับหรือประมาณ 0.75-0.8 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
จากข้อกำหนดปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับสำหรับคนไทยนั้น ได้กำหนดไว้ว่า
ผู้สูงอายุควรได้รับสารอาหารโปรตีนวันละ 44-51 กรัม
สารอาหารโปรตีนได้มาจากเนื้อสัตว์ต่างๆ ถั่วเมล็ดแห้ง ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนม
เนื้อสัตว์ควรรับประทานประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน
ไม่ติดหนัง เช่น เนื้อปลา อกไก่ หมูสันในที่ไม่ติดมัน เป็นต้น
ถั่วเมล็ดแห้งให้โปรตีนสูง
นำมาทำอาหารให้ผู้สูงอายุเป็นการเปลี่ยนลักษณะและรสชาติอาหาร ได้เป็นอย่างดี เช่น
น้ำนมถั่วเหลือง เต้าหู้ ถั่วต้มน้ำตาล เป็นต้น ไข่ เป็นอาหารที่ให้โปรตีนที่ดี
ทำอาหารได้หลายชนิด ผู้สูงอายุรับประทานสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง
ในกรณีที่มีปัญหาของไขมันสูงในเลือด
สามารถเลือกรับประทานเฉพาะไข่ขาวได้เพราะไข่ขาวไม่มีโคเลสเตอรอล นมเป็นอาหารอีกชนิด
ที่ผู้สูงอายุควรดื่มทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว เพราะให้ทั้งโปรตีนและแคลเซียมสูง
ช่วยซ่อมแซม และเสริมความแข็งแรงให้กระดูก
คาร์โบไฮเดรต
เป็นสารอาหารที่ได้จากอาหารประเภทข้าว แป้ง เผือก มัน ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
จากธัญพืชและน้ำตาล เป็นต้น
ข้าวและผลิตภัณฑ์เป็นอาหารหลักของคนไทยที่รับประทานกันทุกครัวเรือนและทุกวัน
ผู้สูงอายุควรได้รับคาร์โบไฮเดรตประมาณ 50-60%
ของพลังงานและควรเลือกคาร์โบไฮเดรตประเภทเชิงซ้อน คือ ข้าว แป้ง เผือก มัน
หรือผลิตภัณฑ์จากธัญพืชอื่น ๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน บะหมี่ มะกะโรนี ฯลฯ
และหลีกเลี่ยงหรือรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวให้น้อยลง ซึ่งได้แก่ น้ำตาล
น้ำหวาน หรืออาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม ขนมหวานต่าง ๆ ทั้งที่เป็นของเชื่อม
ของกวน เพราะอาหารเหล่านี้ทำให้อ้วน และเกิดปัญหาของไขมันสูงในเลือดได้
ถ้ารับประทานมากเกินไป พยายามเลือกรับประทานผลไม้สด แทนขนมหวาน
ซึ่งให้ประโยชน์แก่ร่างกายมากกว่าขนมหวาน เพราะนอกจากจะได้รับคาร์โบไฮเดรตแล้ว
ยังได้รับวิตามิน เกลือแร่ที่มีในผลไม้แต่ละชนิด
ตามปริมาณที่แตกต่างกันไปตามชนิดของผลไม้
วิตามิน
วิตามินเป็นสารอาหารอีกชนิดหนึ่งที่จำเป็นสำหรับร่างกายเพื่อช่วยในการเผาผลาญอาหาร
ที่บริโภคให้เป็นพลังงาน และสามารถนำไปใช้ในร่างกาย
ทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติ
เพิ่มภูมิต้านทานโรคและสร้างสารเคมีที่จำเป็นสำหรับร่างกาย วิตามินมีหลายชนิด
มีหน้าที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งร่างกายต้องการในปริมาณที่ไม่เท่ากัน
ปัญหาการขาดวิตามินในผู้สูงอายุพบได้เสมอ เช่น การขาดวิตามินบีหนึ่ง
ทำให้เกิดโรคเหน็บชา มีอาการชาตามปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า ซึ่งเกิดได้เพราะ
รับประทานอาหารไม่เพียงพอ หรืออาจเกิดจากการรับประทานอาหารซ้ำๆ เป็นเวลานาน
ทำให้ได้รับวิตามินบางตัวน้อยลง วิตามินมีมากในผัก และผลไม้
ควรเลือกผักและผลไม้ที่รับประทานง่าย
ให้ผู้สูงอายุได้รับประทานทุกมื้อและให้มีหลากชนิดในแต่ละวัน
นอกจากได้รับวิตามินแล้ว ผักและผลไม้ยังให้ใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย
ทำให้ไม่เกิดปัญหาท้องผูกในผู้สูงอายุได้อีกด้วย
เกลือแร่
เกลือแร่เป็นสารอาหารอีกชนิดหนึ่งที่พบว่ามีการขาดในผู้สูงอายุ
เกลือแร่ที่ควรให้ความสนใจมากๆ ได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัสและเหล็ก
จากข้อกำหนดสารอาหารสำหรับผู้สูงอายุ กำหนดให้ผู้สูงอายุ
ควรได้รับแคลเซียมและฟอสฟอรัสประมาณ 800 มิลลิกรัม/วัน
แต่มีการศึกษาว่าควรได้รับสูงกว่านี้ คือประมาณ 1,000-1,500 มิลลิกรัม/วัน
โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน เพราะมีการดูดซึมแคลเซียมน้อยลง
จึงทำให้เกิดมีปัญหาของกระดูก เนื่องจากได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ
และทำให้กระดูกเปราะ พรุนและไม่แข็งแรง จึงพบว่าเมื่อประสบอุบัติเหตุ
หรือหกล้มเพียงเล็กน้อย ผู้สูงอายุจะมีอาการของกระดูกหักได้ง่าย
เหล็กเป็นเกลือแร่อีกชนิดหนึ่งที่พบว่ามีการขาดในผู้สูงอายุ
และทำให้เกิดโรคโลหิตจาง ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุเหนื่อยง่าย ความต้านทานโรคน้อยลง
เจ็บป่วยได้ง่าย ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง เกลือแร่มีในอาหารทุกชนิด ทั้งเนื้อสัตว์ นม
ไข่ ผัก ผลไม้ และธัญพืช แต่ในปริมาณมากน้อยแตกต่างกัน
การจัดอาหารให้ผู้สูงอายุได้รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ทุกวัน
ย่อมทำให้ได้รับสารอาหารเกลือแร่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม
ปริมาณที่รับประทานก็มีความสำคัญ
ที่จะให้ได้เกลือแร่เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกายหรือไม่
ผู้จัดอาหารควรนำมาพิจารณาด้วย
น้ำ
น้ำเป็นเครื่องดื่มที่ไม่ให้พลังงาน
แต่มีความจำเป็นแก่ร่างกายในการนำพาสารอาหารต่าง ๆ ไปยังอวัยวะภายในร่างกาย
และทำให้ผิวพรรณสดใสและเกิดความสดชื่น น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำสะอาด บริสุทธิ์
ไตของผู้สูงอายุมีประสิทธิภาพน้อยลงในการขับถ่ายของเสีย การดื่มน้ำมาก ๆ
ช่วยให้มีน้ำ ผ่านไปที่ไตมากพอที่จะช่วยไตขับถ่ายของเสียได้ง่ายขึ้น
ผู้สูงอายุจึงควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
น้ำชาและกาแฟ
ผู้สูงอายุบางคนมีอาการท้องผูกหรือนอนไม่หลับหลังจากดื่มน้ำชา หรือกาแฟ
ลูกหลานหรือผู้สูงอายุเองควรสังเกตอาการหลังจากดื่มชาหรือกาแฟด้วยและควรหลีกเลี่ยง
ถ้าเกิดอาการเช่นนั้น น้ำอัดลมมักทำให้เกิดแก๊สมากในกระเพาะ และทำให้มีอาการอึดอัด
เกิดความไม่สบายหลังการดื่ม จึงควรหลีกเลี่ยง
ในกรณีที่ไม่มีอาการดังกล่าวก็สามารถดื่มได้ แต่ไม่ควรมากหรือบ่อยเกินไป
เพราะเครื่องดื่มชนิดนี้ให้น้ำตาลเพียงอย่างเดียวทำให้อิ่ม
รับประทานอาหารได้น้อยลงและทำให้อ้วนได้ ถ้าดื่มในปริมาณมากและทุกวัน
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
เช่น เหล้า เบียร์ วิสกี้ ฯลฯ แอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มเหล่านี้
สามารถทำลายตับได้ ดังนั้นผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ
จึงพบว่าเป็นโรคตับแข็งและเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการขาดสารอาหาร
วิตามินและเกลือแร่ได้ แต่ถ้าดื่มเพียงเล็กน้อยก่อนอาหาร
เพื่อให้เจริญอาหารย่อมทำได้
ใยอาหาร
ใยอาหารมิได้เป็นสารอาหารและไม่ได้ให้พลังงาน แต่ร่างกายควรได้รับทุกวัน
เพราะช่วยในการขับถ่าย ซึ่งพบว่าผู้สูงอายุมักมีปัญหาท้องผูกอยู่เสมอ
ใยอาหารช่วยเพิ่มปริมาณ ของอุจจาระและอุ้มน้ำไว้
ทำให้อุจจาระไม่แข็งตัวและช่วยกระตุ้นให้เกิดการบีบตัวของลำไส้ใหญ่
ทำให้เกิดการขับถ่ายได้สะดวก ผู้สูงอายุจึงควรได้รับใยอาหารให้เพียงพอด้วย
ใยอาหารได้มาจากข้าวซ้อมมือ ถั่วต่าง ๆ ผักและผลไม้
ปัญหาการบริโภคผักและผลไม้ของผู้สูงอายุก็คือ
ไม่สามารถเคี้ยวผักสดหรือผลไม้ที่แข็งได้
จึงควรดัดแปลงการประกอบอาหารประเภทผักและผลไม้ ให้มีลักษณะอ่อนนุ่ม เคี้ยวได้ง่าย
เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถบริโภคได้สะดวกขึ้น ก็เป็นทางหนึ่ง
ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับใยอาหารเพิ่มขึ้น
ข้อมูล
http://www.elib-online.com/doctors2/senile_food01.html