ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม
» พระสูตร
พระไตรปิฎกฉบับประชาชน
พระอภิธรรมปิฎก เล่ม ๗
เล่มที่ ๔๐
อนุโลมติกปัฏฐาน
ปัจจัยแห่งธรรมะหมวด ๓ กล่าวไปตามลำดับ
กุสลติกะ หมวด ๓ แห่งกุศล
๑. ปฏิจจาร วาระว่าด้วยการอาศัย
ก. อุทเทส บทตั้ง เพราะอาศัยกุศลธรรม กุศลธรรมพึงเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุก็มี. กุศลธรรม อัพยากตธรรมพึงเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุก็มี เพราะอาศัยกุศลธรรม ทั้งกุศลธรรมและอัพยากตธรรมพึงเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุก็มี ฯ ล ฯ
ข. นิทเทส บทอธิบาย เพราะอาศัยกุศลธรรม กุศลธรรมย่อมเกิดขึ้น เพราะเครื่องเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ คือเพราะอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ขันธ์ ๓ ย่อมเกิดขึ้น ( คือในขันธ์หรือส่วนที่เป็นนาม อันได้แก่ เวทนา , สัญญา , สังขาร , และ วิญญาณ ถ้าอาศัยขันธ์ใดขันธ์หนึ่งใน ๔ ขันธ์นี้ อีก ๓ ข้อที่เหลือก็เกิดขึ้น ). เพราะอาศัยขันธ์ ๓ ขันธ์ ๑ ย่อมเกิดขึ้น ( โดยทำนองเดียวกัน ถ้าอาศัยขันธ์ ๓ ข้อใด ๆ ก็ตาม ขันธ์อีกข้อหนึ่งใน ๔ ข้อที่ไม่พ้องกับขันธ์ ๓ ย่อมเกิดขึ้น ). เพราะอาศัยขันธ์ ๒ ขันธ์ ๒ ย่อมเกิดขึ้น ( อาศัยขันธ์ ๒ ข้อ ใน ๔ ข้อ อีก ๒ ข้อที่ไม่พ้องกันย่อมเกิดขึ้น ).
เพราะอาศัยกุศลธรรม อัพยากติธรรมย่อมเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ คือเพราะอาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นกุศล รูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐานย่อมเกิดขึ้น .
เพราะอาศัยกุศลธรรม ทั้งกุศลธรรมและอัพยากติธรรมย่อมเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ คือเพราะอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ขันธ์ ๓ และรูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐานย่อมเกิดขึ้น. เพราะอาศัยขันธ์ ๓ คือ ขันธ์ ๑ และรูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐานย่อมเกิดขึ้น . เพราะอาศัยขันธ์ ๒ ขันธ์ ๒ และรูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐานย่อมเกิดขึ้น.
(หมายเหตุ? ทั้งบทตั้งและบทอธิบายได้นำมาแสดงพอเป็นตัวอย่าง . ในอุทเทสหรือบทตั้งนั้น ถอดไว้อย่างข้างบนนี้ก็ได้ อย่างเป็นคำถามก็ได้ เช่น ถามว่า เพราะอาศัย ....ก็มี ใช่หรือไม่ ? ครั้นถึงนิทเทสหรือบทอธิบาน ก็เท่ากับเป็นคำตอบไปในตัว แต่จะสังเกตุว่า ได้มีการไม่ตอบอยู่ข้อหนึ่ง คือข้อที่ว่า อาศัยกุศลธรรม เกิดอกุศลธณรมก็มีนั้น คืออย่างไร ? เมื่อไม่มีคำตอบ จึงทำให้บางท่านสันนิษฐานว่า สภาพเช่นนั้นไม่มี. แต่ก็น่าจะไม่มี โดยฐานะเป็นเหตุปัจจัย คงอยู่ในฐานะเป็นปัจจัยอย่างอื่น เช่น อุปนิสสยปัจจัย เพราะในอุปนิสสยปัจจัยนั้น มีคำอธิบายไว้บางตอนว่า กุศลธรรมก่อน ๆ เป็นปัจจัยแห่งอกุศลธรรมหลัง ๆ บางชนิด โดยฐานะเป็นอุปนิสสยปัจจัย ซึ่งอรรถกถายกตัวอย่างว่า อาศัยความดี เช่น ทาน , ศีล , สุตะ, ปัญญา แล้วเกิด มานะ ความถือตัว และทิฏฐิ ความเห็นผิด หรือเกิด ราคะ , โทสะ, โมหะ เป็นต้นได้. บางตอนมีคำอธิบายอุปนิสสยปัจจัยไว้ว่า อกุศลธรรมก่อน ๆ เป็นปัจจัยแห่งกุศลธรรมหลัง ๆ บางชนิด โดยฐานะเป็นอุปนิสสยปัจจัย ซึ่งอรรถกถายกตัวอย่างว่า อาศัย ราคะ ก็มีการ ให้ทาน รักษาศีล รักษาอุโบสถ ทำฌาน ทำวิปัสสนา ทำมรรค ทำอภิญญา ทำสมาบัติ ให้เกิดขึ้น. ตกลงว่า ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ และ ปัตถนา ( ความปรารถนา ) เป็นปัจจัย โดยฐานะอุปนิสสยปัจจัยแห่งศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญาก็มี หรือบางคนฆ่าสัตว์แล้วพยายามให้ทานแก้ตัวก็มี . แต่คำอธิบายและตัวอย่างดังกล่าวมานี้ พบเฉพาะในอุปนิสสยปัจจัยเท่านั้น ).
๒. สหชาตวาร วาระว่าด้วยธรรมที่เกิดร่วมกัน
เพราะอาศัยกุศลธรรม กุศลธรรมที่เกิดร่วมกันย่อมเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ. ( คำอธิบายเรื่องอาศัยขันธ์ ๑ เกิดขึ้น ๓ เป็นต้น เหมือนปฏิจจวารข้างต้น ).
๓. ปัจจยวาร วาระว่าด้วยปัจจัยคือเครื่องสนับสนุน
เพราะกุศลธรรมเป็นปัจจัย กุศลธรรมย่อมเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ. คำอธิบายเรื่องอาศัยขันธ์ ๑ เกิดขันธ์ ๓ เป็นต้น เหมือนปฏิจจวารข้างต้น ).
๔. นิสสยวาร วาระว่าด้วยธรรมเป็นที่อาศัย
เพราะอาศัยกุศลธรรม กุศลธรรมย่อมเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ . ( คำอธิบายเหมือนข้างต้น).
๕. สังสัฏฐวารวาระว่าด้วยธรรมที่ระคนกัน
เพราะอาศัยกุศลธรรม กุศลธรรมที่ระคนกันย่อมเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ ( คำอธิบายเหมือนข้างต้น ).
๖. สัมปยุตตวาร วาระว่าด้วยธรรมที่ประกอบกัน
เพราะอาศัยกุศลธรรม กุศลธรรมที่ประกอบกัน ( เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์และวัตถุอันเดียวกัน ) ย่อมเกิดขึ้น เพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ . ( คำอธิบายเหมือนข้างต้น ).
๗. ปัญหาวาร วาระว่าด้วยคำถาม
หัวข้อวาระนี้น่าจะใช้คำว่า วาระว่าด้วยการตอบปัญหา กล่าวคือไม่มีคำถามปรากฏ มีแต่คำตอบอรรถกถาอธิบาย คำตอบบ่งถึงคำถามอยู่แล้ว ).
กุศลธรรมเป็นปัจจัยแห่งกุศลธรรม โดยฐานะเหตุปัจจัย คือเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ คือเหตุที่เป็นกุศล , เป็นปัจจัยแห่งขันธ์ที่ประกอบกัน ( สัมปยุตตขันธ์ ขันธ์ที่เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน ) โดยฐานะเป็นเหตุปัจจัย .
กุศลธรรมเป็นปัจจัยแห่งอัพยากตธรรม โดยฐานะเป็นเหตุปัจจัย คือเหตุที่เป็นกุศล คือเหตุที่เป็นกุศล เป็นปัจจัยแห่งรูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน โดยฐานะเป็นเหตุปัจจัย.
กุศลธรรมเป็นปัจจัยที้งของกุศลธรรมและอัพยากตธรรม โดยฐานะเป็นเหตุปัจจัย คือเหตุที่เป็นกุศล เป็นปัจจัยแห่งสัมปยุตตขันธ์ และแห่งรูปอันมีจิตเป็นสมุฏฐานในฐานะเป็นเหตุปัจจัย ฯ ล ฯ
เวทนาติกะ หมวด ๓ แห่งเวทนา
๑. ปฏิจจาร วาระว่าด้วยการอาศัย
อาศัยธรรมที่สัมปยุตตด้วยสุขเวทนา เกิดธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา เพราะเหตุปัจจัย คือเพราะเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ. อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา เกิดขันธ์ ๒ , อาศัยขันธ์ ๒ , เกิดขันธ์ ๑ , ในขณะแห่งปฏิสนธิอาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา เกิดขันธ์ ๒ , อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขันธ์ ๑ .
( ข้อนี้อรรถกถามิได้อธิบายไว้ ผู้เขียนขออธิบายตามความเห็นส่วนตัว คือในเรื่องนี้ เมื่อกันเวทนาออกมา ในฐานะที่ถูกสัมปยุต จึงเหลือขันธ์ อยู่เพียง ๓ คือ สัญญา , สังขาร , และ วิญญาณ. คำว่าอาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยเวทนา เช่น อาศัยวิญญาณขันธ์ เกิดขันธ์ ๒ คือเกิดสัญญาขันธ์และสังขารขันธ์. คำว่า อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ๑ เช่น อาศัยสัญญาขันธ์และสังขารขันธ์ เกิดวิญญาณขันธ์ ).
๒. สัมปยุตตวาร วาระว่าด้วยธรรมที่ประกอบกัน
ความจริงแบ่งวาระได้เช่นเดียวกับ กุสสติกะ คือ ๗ วาระ แต่ลีลาในการอธิบายคล้าย ๆ กัน ท่านจึงรวบรัดด้วยเครื่องหมายเปยยาล หรือ ฯ เป ฯ อันเท่ากับ ฯลฯ แล้วกล่าวถึงสัมปยุตตวารอย่างย่อ ๆ ).
อาศัยธรรมที่สัมปยุต ( เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน ) ด้วยสุขเวทนา เกิดสัมปยุตตธรรม คือสัมปยุตด้วยสุขเวทนา เพราะเหตุปัจจัย คือเพราะอาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา เกิดขันธ์ ๒ ที่สัมปยุต , อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขันธ์ ๑ ที่สัมปยุต.
๓. ปัญหาวาร วาระว่าด้วยคำถาม
ธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา โดยฐานะเป็นเหตุปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ คือเหตุที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา เป็นปัจจัยแห่งสัมปยุตตขันธ์โดยฐานะเป็นเหตุปัจจัย. ในขณะแห่งปฏิสนธิ เหตุที่สัมปยุตด้วยสุขเสทนา ย่อมเป็นปัจจัยแห่งสัมปยุตตขันธ์โดยฐานะเป็นเหตุปัจจัย ฯล ฯ
วิปากติกะ หมวด ๓ แห่งวิบาก
๑. ปฏิจจวาร วาระว่าด้วยการอาศัย
อาศัยธรรมที่เป็นวิบาก ธรรมที่เป็นวิบากย่อมเกิดขึ้น เพราะอาศัยเหตุปัจจัย คือเพราะเครื่องสนับสนุนเป็นเหตุ ( ต่อจากนั้นพูดถึงเรื่องขันธ์ ๑ ขันธ์ ๓ ทำนองเดียวกับ กุสสติกะ ).
วาระอื่น ๆ เช่น สหชาตวาร , ปัจจยวาร , นิสสยวาร เป็นต้น ก็แบบเดียวกับ กุสสติกะ ที่กล่าวมาแล้ว ).
อุปาทินนติกะ หมวด ๓ แห่งธรรมที่ถูกยึดถือ
๑. ปฏิจจวาร วาระว่าด้วยการอาศัย
อาศัยธรรมที่ถูกยึดถือ และเป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือ เกิดธรรมที่ถูกยึดถือ และธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือ เพราะเหตุปัจจัย คือเพราะเครื่องสนับสนุนเป็นเหตุ . ( ต่อจากนั้นพูดถึงเรื่องขันธ์ ๑ ขันธ์ ๓ ทำนองเดียวกับ กุสสติกะ )
วาระอื่น ๆ ก็ทำนองเดียวกับที่กล่าวแล้ว).
สังกิลิฏฐติกะ หมวด ๓ แห่งธรรมที่เศร้าหมอง
๑. ปฏิจจวาร วาระว่าด้วยการอาศัย
อาศัยธรรมที่เศร้าหมอง และเป็นที่ตั้งแห่งความเศร้าหมอง เกิดธรรมที่เศร้าหมอง และธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความเศร้าหมอง เพราะเหตุปัจจัย คือเพราะเครื่องสนับสนุนเป็นเหตุ ( ต่อจากนั้นพูดถึงเรื่องขันธ์ ๑ ขันธ์ ๓ ทำนองเดียวกับ กุสสติกะ ).
วาระอื่น ๆ ก็ทำนองเดียวกับที่กล่าวแล้ว ).
จบพระไตรปิฏก เล่มที่ ๔๐
- ปัจจยวิภังควาร
- อนุโลมติกปัฏฐาน