ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
รวมธรรมบรรยายของ หลวงพ่อชา สุภัทโท
ฝึกจิตให้มีกำลัง
แสดงเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2513 ณ วัดป่าวิเวกธรรมชาน์
ญาติโยมทั้งหลาย ต่อไปนี้ จงเตรียมกายเตรียมใจฟัง ธรรมให้ดี การเทศน์วันนี้ จะต้องใช้เวลานานหน่อย จงพากันทำใจให้เย็น อย่าใจร้อนกระวนกระวาย วันนี้มีพระเณรมาจากสาขาต่างๆ พร้อมทั้งมีญาติโยมจำนวนมาก ได้มารวมกันที่วัดใหม่นี้ การฟังธรรมในวันนี้ ต่างจากที่เคยได้ฟังมา การทำบุญนั้นก็ต่างจากที่เคยทำมา เมื่อเราตั้งใจมา ก็ให้มาทำบุญจริงๆ บุญในวัดป่าเท่าที่เคยทำมานั้น ไม่มีมหรสพดนตรี ไม่มีสุรายาเมาอะไรญาติโยมทั้งหลายทุกๆ บ้านที่มารวมกัน ก็จะต้องอาศัยตัวเอง เวลาฟังธรรมก็ให้ตั้งใจให้ดี วางมือลงบนตักให้สบาย ในทางที่ดีนั้น กระทำจิตให้เป็นหนึ่ง นั่งหลับตาทำสมาธิไปด้วย อย่าคุยกัน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เว้นไว้แต่ปวดศรีษะ ปวดท้อง ก็ให้พูดกันบ้างเบาๆ มันจึงจะรู้เรื่อง
การฟังเทศน์นี้ก็ต้องฟังให้รู้เรื่อง ถ้าไม่รู้เรื่องมันไม่มีประโยชน์
เช่นเดียวกับเราเลี้ยงควาย ถ้าหากควายหายเข้าไปในป่า เราตามหาควาย
ก็จะต้องหยุดฟังเสียงเกราะมันดังมาจากคอควาย จึงจะรู้ว่าควายเราอยู่ที่ไหน
ถ้าเราวิ่งไปเรื่อยๆ พูดไปเรื่อยๆ ก็จะไม่ได้ยินเสียงเกราะดังตามหาควายเลยไม่พบ
ในปีนี้ สาขาบ้านม่วงของเรานี้ เป็นสาขาที่ 7 เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ไม่กี่เดือนมานี้
ได้ส่งพระมหาอมรมาเป็นประธานพร้อมทั้งมีพระเณรติดตามมาด้วย
มีญาติโยมชาวม่วงสามสิบอยากได้ จึงให้มา อาตมาจะพูดอะไรให้ฟังว่า
ทำไมจึงอยากสร้างแต่วัดป่า อาตมามีอุดมคติอันหนึ่งอยู่ในใจ
จะพูดให้ฟังเพราะพระพุทธเจ้าเรานั้น เมื่อเกิดท่านก็เกิดอยู่ป่าตรัสรู้
ท่านก็ตรัสรู้อยู่ป่า
ท่านนิพพานก็นิพพานอยู่ในป่าท่านตรัสรู้ธรรมะก็ตรัสรู้ในความหลง มันหลงที่ตรงไหน
ท่านก็ไปรู้ตรงนั้น ฉะนั้นการสร้างวัดป่า จึงเป็นอุดมคติของอาตมา
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว มีความนึกคิดอยู่อย่างนี้
จึงได้ชักชวนลูกศิษย์ลูกหาผู้เป็นกัลยาณมิตรสร้างข้อวัตรปฏิบัติขึ้นมา
เมื่อก่อนนั้นอาตมาเคยเรียนปริยัติธรรมมา เรียนอยู่แถวๆ บ้านเค็งใหญ่
บ้านหนองหลักนี่แหละ เรียนไปๆ
จึงเลื่อนจากการศึกษาเล่าเรียนมาสร้างข้อประพฤติปฏิบัติ
รวมแล้วมี 7 สาขา รวมเป็น 8 ทั้งวัดป่าพง ส่วนสาขาเล็กๆ น้อยๆ ยังไม่ได้นับเข้า
การทำบุญให้ทานต่างๆ และการประพฤติปฏิบัตินั้น อาตมาคิดแล้วมีความเชื่อพระศาสนา
เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้ามาก ทำไมจึงเชื่อท่านมาก เพราะมันเป็นความจริง
คำสอนที่พระศาสดาตรัสไว้นี้ มีความจริงอยู่มาก ที่อาตมามาเทศน์ให้ฟังนี้
ก็มิได้เอาธรรมะของตัวเองเป็นแต่เพีงมาซ้ำรอยเก่าของพระพุทธเจ้าของเรา
นอกจากจะเอาความดีมาฝากแล้วอันที่ยิ่งกว่าความดีนั้นอีกไม่มีมันก็สุขก็สุขอยู่กับความดีนี้
สุขอยู่กับของจริง จึงนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ถูกแล้วแน่แล้ว จริงแล้วมมาบอก
แต่เรายังไม่ได้ประพฤติปฏิบัติตามเป็นจริงกัน ข้อใดที่พระองค์ทรงอนุญาตไว้
ก็เป็นจริงอยู่ตามนั้น สิ่งใดที่พระพุทธองค์ทรงบอกว่าไม่ดี
มันก็ไม่ดีจนถึงทุกวันนี้ แต่ว่าเราทั้งหลายไม่ได้นำมาปฏิบัติตาม เช่นว่า
หน้าถัดไป >>
» ตามดูจิต
» ธาตุ 4
» มรรค 8