ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
พุทธประวัติ ฉบับสำหรับยุวชน
พุทธทาสภิกขุ แปลและเรียบเรียงจาก ฉบับภาษาอังกฤษ ของ ภิกษุสีลาจาระ (J.F. Mc kechnie)
ตอนที่ 11
สิงคาลมาณพ
หลังจากที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงส่งพระอรหันตสาวก 60 รูป
ออกไปเพื่อเผยแพร่พระศาสนาตามทิศทางต่างๆ แล้ว
พระองค์เองก็ได้เสด็จออกจากป่าอิสิปตนะ
ตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้สู่ประเทศมคธ
และในที่สุดก็ได้เสด็จมาถึงตำบลอุรุเวลา ณ
ที่นั้นพระองค์ได้เสด็จไปพำนักอยู่กับพวกชฎิลจำนวนหนึ่ง ประมาณพันรูป
ซึ่งมีชฎิลชื่อว่า กัสสปะสามคนพี่น้องเป็นหัวหน้า
พระองค์ได้ทรงทำลายทิฏฐิมานะของชฎิลเหล่านั้นสิ้นเชิง แล้วทรงอธิบายหลักธรรม
ที่ทรงค้นพบได้ใหม่ให้หัวหน้าชฎิลเหล่านั้นฟังจนมีความพอใจรับเอาคำสอนของพระองค์
และขอบวชเป็นภิกษุในศาสนาของพระองค์
และได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในเวลาต่อมาด้วยกันทุกรูป ทั้งหัวหน้าและบริวาร
พระพุทธองค์ได้เสด็จจากอุรุเวลาไปสู่นครราชคฤห์ตามที่เคยได้สัญญาไว้กับพระเจ้าพิมพิสารว่า
เมื่อพระองค์บรรลุธรรมแล้ว
จักเสด็จกลับมาสั่งสอนพระราชาและประชาชนแห่งนครนั้นให้รู้ตามด้วย
พระเจ้าพิมพิสารและชาวนครราชคฤห์ได้ทำการต้อนรับพระองค์
ด้วยความยินดีอย่างสูงสุดในข้อที่ว่าพระองค์ได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วเสด็จมาโปรดเขาเหล่านั้น
ณ ที่สวนตาลหนุ่มแห่งหนึ่ง
พระองค์ได้ทรงสั่งสอนชี้แจงด้วยพระหฤทัยอันเต็มไปด้วยพระกรุณา โดยวิธีต่างๆ
จนกระทั่งพระราชาและประชาชนเหล่านั้น มีความเข้าใจในธรรม
ประกาศตนเป็นพระสาวกของพระองค์
พระเจ้าพิมพิสารได้ทรงแสดงความเคารพนับถือในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
ให้ปรากฏออกมาโดยการทรงถวายอุทยานเวฬุวัน ให้เป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสงฆ์
มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
เช้าวันหนึ่ง พระองค์เสด็จออกจากอุทยานเวฬุวัน
เพื่อไปบิณฑบาตในนครราชคฤห์
ในระหว่างทางพระองค์ได้ทรงพบชายหนุ่มคนหนึ่งเนื้อตัวเปียกชุ่มไปหมด
ราวกะว่าเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ ยืนอยู่กลางถนน ทำอาการโค้งตัวนบไหว้ทิศทั้งสี่ คือ
ทิศตะวันออก ทิศใต้ ทิศตะวันตก ทิศเหนือ แล้วไหว้แหงนขึ้นไปบนฟ้า
และไหว้ลงไปทางพื้นดินแทบเท้าของตนในที่สุด และได้โปรยเมล็ดข้าวไปทุกทิศ
ในขณะที่ตนกำลังทำการนบไหว้
พระองค์ได้ทรงทอดพระเนตรดูชายหนุ่มคนนั้น
ซึ่งกระทำพิธีอันแปลกประหลาดอยู่บนทางสาธารณะจนเสร็จแล้ว ได้ตรัสถามเขาว่า
ทำไมเขาจึงทำอย่างนั้น ชายหนุ่มคนนั้นได้ทูลตอบว่า
เขาทำเช่นนั้นตามคำสั่งของบิดาซึ่งได้สั่งให้เขากระทำทุกๆ เวลาเช้า
เพื่อเป็นการป้องกันสิ่งชั่วร้ายทุกประการมิให้มาสู่ตัวเขา จากทิศทั้งสี่
และจากเทวดาในเบื้องบนและจากปีศาจในเบื้องต่ำ
บิดาของเขาได้ขอร้องเขาเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อกำลังจะสิ้นชีพให้เขาทำเช่นนั้น
ดังนั้น เขาจึงไม่อาจฝ่าฝืนความประสงค์ของบิดา
นับตั้งแต่วันที่บิดาของเขาสิ้นชีพเป็นต้นมา
เขาได้ปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด โดยไม่มีขาดสักวันเดียว
พระพุทธองค์ได้ทรงฟังคำตอบของเขาดังนั้นแล้วได้ตรัสว่า เป็นการถูกต้องอย่างยิ่ง
สำหรับท่านที่รักษาคำมั่นสัญญาอันได้ให้ไว้กะบิดาขณะที่จะสิ้นชีพอย่างซื่อสัตย์
แต่ว่าสิ่งที่ท่านกระทำนั้น ยังไม่ตรงตามที่บิดาของท่านมุ่งหมาย
ข้อที่บิดาของท่านสั่งให้ท่านทำการนบไหว้และโปรยอาหารไปทางทิศตะวันออกนั้น
บิดาของท่านหมายความว่าท่านจะต้องแสดงความเคารพสักการะต่อบุคคล
ซึ่งให้กำเนิดชีวิตแก่ท่านโดยเฉพาะ ก็คือมารดาบิดานั่นเอง การนบไหว้าทางทิศใต้นั้น
บิดาของท่านหมายถึงการเคารพสักการะครูบาอาจารย์ ซึ่งสั่งสอนวิชาความรู้ให้ท่าน
การนบไหว้ทางทิศตะวันตกนั้น หมายถึงการทนุถนอมเลี้ยงดูบุตรและภรรยา
การนบไหว้ทางทิศเหนือ หมายถึงการเคารพนับถือสงเคราะห์วงศ์ญาติและมิตรสหาย
การนบไหว้ทางทิศเบื้องบน หมายถึงการสักการบูชาบุคคลผู้มีความดี ความงาม
ความประเสริฐ เช่น สมณะและพราหมณ์ เป็นต้น
สำหรับการไหว้ลงทิศเบื้องต่ำทางพื้นดินนั้น
หมายถึงการยอมรับนับถือสิทธิในการแสวงสุข และการมีชีวิตของสัตว์ต่างๆ ทุกประเภท
แม้แต่สัตว์ที่ถือกันว่าเล็กและเลวที่สุด ซึ่งอาศัยอยู่ในแผ่นดิน
บิดาของท่านมุ่งหมายอย่างนี้ จึงได้สั่งให้นบไหว้เช่นนั้น
และเป็นการป้องกันอันตรายทุกอย่างอันจะมาถึงท่านจากทุกทิศทุกทางได้จริง
พระองค์ได้ทรงอธิบายให้ชายหนุ่มคนนี้ ซึ่งมีนามว่า สิงคาละ
เข้าใจโดยละเอียด ในสิ่งที่เขาจะต้องประพฤติต่อตนเองและต่อบุคคลอื่น
เพื่อให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
พระองค์ได้ทรงแนะให้สิงคาละเว้นจากการฆ่า เว้นจากการลักขโมย
จากการล่วงเกินคนรักของบุคคลอื่น จากการพูดเท็จ และการดื่มน้ำเมาทุกชนิด
พระองค์ทรงแนะนำให้เขาทำงานด้วยความขยันหมั่นเพียร
เพื่อการสะสมทรัพย์และในการรักษาทรัพย์ซึ่งหามาได้แล้ว
แต่ก็อย่าได้หลงละโมภหรือบริโภคใช้สอยทรัพย์นั้นเพื่อประโยชน์แก่ตนแต่ผู้เดียว
และไม่ใช้ทรัพย์ไปในทางสุรุ่ยสุร่ายอย่างโง่เขลา
ทรงแนะให้ใช้ทรัพย์จำนวนหนึ่งในสี่เพื่อการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว
หนึ่งในสี่ในการขยายการงานอาชีพของตนให้กว้างขวางออกไป
หนึ่งในสี่ในการช่วยเหลือคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ
และอีกหนึ่งในสี่เก็บไว้เป็นทุนสำรอง
เมื่อคราวภัยพิบัติเกิดขึ้นจักได้ใช้สอยทันท่วงที
สิงคาละได้ตั้งใจฟังคำแนะนำของพระองค์ด้วยความเคารพ
และได้กราบทูลแก่พระองค์ว่าเมื่อบิดาของเขายังมีชีวิตอยู่นั้น
เขาเองได้กล่าวกะบิดาของเขาอยู่บ่อยๆ
ถึงข่าวเล่าลืออันเกี่ยวกับพระองค์ว่าทรงเป็นศาสดาเอก
และได้พยายามขอร้องให้บิดาของเขาไปเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อรับคำสั่งสอน
แต่บิดาของเขาได้ปฏิเสธเสียทุกคราวไป โดยพูดว่าลำบากเกินไปบ้าง เหนื่อยเปล่าบ้าง
ไม่มีเวลาบ้าง ไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในการเดินทางบ้าง กล่าวดังนี้แล้ว
ชายหนุ่มชื่อสิงคาละนั้น ได้ทูลขอร้องให้พระพุทธองค์ทรงยกโทษให้แก่บิดาของเขา
และตัวเขาเอง ขอสมัครเป็นสาวกของพระองค์ยืนยันในการที่จะทำการไหว้ทิศทั้งหก
ตามวิธีที่พระองค์แนะนำโดยครบถ้วนจนตลอดชีวิต
ข้อความที่พระพุทธองค์ได้ตรัสแก่สิงคาลมานพอย่างไรโดยละเอียดนั้น
อาจจะอ่านดูได้จากสิคาโลวาทสูตร ในคัมภีร์ฑีฆนิกาย
» วัยกุมาร
» เทวทัต