ข้อเขียน นิยาย สารคดี บทกวี เรื่องสั้น >>
นิยาย-เรื่องสั้น
ผมเกือบได้เป็น นักแต่งเพลงชื่อดังเสียแล้ว
เรื่องสั้น : ภูเกรียงไกร หน่อรักมิตร : เขียน
» บทน้ำจิ้ม
» อดีตว่าที่นักแต่งเพลง
» ก้าวที่ไม่กล้า
» ก้าวที่ไม่กลัว
» บทเพลงในถังขยะ
» แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
» ถึงที่หมาย
» เพลงแรก
» เพลงสุดท้าย
บทน้ำจิ้ม
ผมเกือบได้เป็นนักแต่งเพลงชื่อดังหรือเปล่าก็ไม่แน่ ประวัติการแต่งเพลงของผมเริ่มขึ้น ตอนสัก ม.ศ.2 (มัธยมศึกษาปีที่ 2) แค่เพิ่งจะหัดเล่นกีต้าร์ก็ฉายแววเสียแล้ว ขนาดไม่มีกีต้าร์เป็นของตัวเอง
ช่วงนั้นเริ่มหันมาฟังเพลงลูกกรุง หนีสายันต์ ศรชัย ไพวัลย์ ฯลฯ เจอสุเทพ ธานินทร์ ชรัมย์ ฯลฯ กำลังคลั่งชรัมย์ เทพชัยช่วงนั้น กับเพื่อนคนหนึ่ง ร้องได้ทุกเพลงของชรัมย์ อาศัยฟังจากวิทยุที่เรียกว่าทรานซิสเตอร์ หนังสือเพลงเล่มเล็กๆ ของชรัมย์พกติดตัวจนปกเปื่อยกันเลยทีเดียว
แอบแต่งเพลงอยู่เงียบๆ คนเดียวแบบพี่เบิร์ดก็ไม่ปาน 2 เพลงรวด ตั้งใจว่าจะให้ธานินทร์ อินทรเทพร้อง เพราะธานินทร์ดังมากช่วงนั้น อันที่จริงของธานินทร์ผมก็ร้องได้ทุกเพลง
ร้องอัดใส่เทปในห้องน้ำ ปิดเทอมใหญ่เข้ากรุงมุ่งสามแยกไฟฉาย เด็กบ้านอกคนหนึ่งแต่งตัวก็คงจะแบบบ้านนอกๆ ใครเขาก็คงรู้แหละ ไปหานักจัดรายการเพลงคนหนึ่งซึ่งฟังอยู่ประจำชื่อเทวัญ นามสกุลอะไรจำไม่ได้เสียแล้ว
ติดตามฟังมานานจนรู้ว่าเขาอยู่ที่ห้องอาหารหนึ่งแถวปิ่นเกล้า ถือตลับเทปเปื่อยๆ บุกเดี่ยวเข้าไปถามหา พร้อมแจ้งความจำนงค์บอกเป็นแฟนรายการ
ผมแต่งเพลงมา 2 เพลง อยากให้ธานินทร์ อินทรเทพร้องครับ ผมจะต้องทำอย่างไรบ้าง"
ประมาณมาขอคำแนะนำ อยากให้เขาขอฟังเพลงใจจะขาด ประหม่า
เคอะเขินบ้านนอกอย่างบอกไม่ถูก จำได้ว่าคุณเทวัญนักจัดรายการคนนั้นเขายังชม
ประมาณว่าเก่งนะยังเด็กอยู่เลยอะไรทำนองนั้น ทำไปได้...
"ถ้าการที่ได้ใช้ชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง คือคำว่าประสบความสำเร็จ ความพอเพียงคือความสุขแท้จริงที่จีรังยั่งยืนเป็นหมื่นปี หมื่นๆ ปี ทั้งยาจก นักปราชญ์ ราชบัณฑิต ยากดีมีจน สองมือว่างเปล่าถ้าไม่ไขว่คว้าไว้ ก็เกรงว่าจะทุรนทุรายตายเปล่าเป็นแน่นอน..."