ข้อเขียน นิยาย สารคดี บทกวี เรื่องสั้น >>
พาตัวตนออกจากสถานที่อันจองจำ ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้ ไปประกาศอิสรภาพด้วยกัน
สะพายเป้ แบกกล้อง
ท่องโลก
โดย : จอมยุทธ แห่งบ้านจอมยุทธ
เสียมเรียบ นครวัด นครธม
ปราสาทตาแก้ว (Prasat Takeo)
ออกจากปราสาทแปรรูปด้วยความโหยหิว และอ่อนล้า และร้อน... มุ่งหน้าไปต่อที่ปราสาทตาแก้ว ตกลงกับนายตู๊ดสารถี ว่าจะไปหาข้าวกินกันที่ปราสาทตาแก้ว ใช้พลังงานมากจริงๆวันนี้
ระหว่างทางยังคงมีแต่ท้องทุ่ง ผ่านบ้านผู้คนบ้างประปราย อยู่ห่างๆกัน
ผ่านที่เรียกว่าสระสรง เห็นผู้คนทั้งเด็กผู้ใหญ่ เกาะกลุ่มเล่นน้ำดับร้อนกันอย่างสนุกสนาน
สระสรง เป็นสระที่มีน้ำขังมานับพันปี มีบันไดลงไปถึงพื้นน้ำ สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีขนาดกว้างประมาณ 400 เมตร ยาว 800 เมตร เคยใช้เป็นที่สรงน้ำของพระมหากษัตริย์
น่าจะเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจของชาวเสียบเรียบ และนักท่องเที่ยวทั่วไป ด้านหนึ่งของฝั่งถนนเป็นชุมชนขนาดย่อมๆ มีทั้งบ้านอยู่อาศัยและร้านรวงต่างๆ รวมถึงร้านอาหาร บรรยากาศสวนๆ ร่มรื่น
ผ่านมาแถวนี้รู้สึกคุ้นๆตา ป่าไม้เริ่มรกทึบทั้งสองฟากฝั่งถนน
ผ่านด้านหน้าปราสาทตาพรหม ยังคงมีแอ่งน้ำขังอยู่ตรงทางเข้า ผ่านเป็นรอบที่เท่าไรแล้วปราสาทตาพรหม 2 หรือ 3
ถึงปราสาทตาแก้วอยู่ติดถนน นายสารถีพาไปกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่ง ข้าวผัดคนละจานมาแบบพูนๆ นายตู๊ดซัดเรียบชนิดที่ว่าไม่เหลือข้าวติดจานสักเม็ด ข้าวผัดหน้าตาประหลาดๆ ผัดด้วยซอสพริกสีออกส้มเข้มๆ รสชาติเผ็ดนำ ใส่ผักรวมมิตร กินจนเหลือติดจานไว้เกินครึ่ง ตอนเรียกมาเอาเงินไปเก็บ แจ้งว่าจะจ่ายเป็นเงินบาท ก็ไม่มีปัญหายินดีรับที่ 200 บาท แกล้งย้อนถามไปว่า ถ้าจ่ายเป็นเงินดอลล่าร์คิดเท่าไร เพราะเกิดนึกขึ้นมาได้ว่ามีติดตัวอยู่ 10 ดอลล่าร์ เป็นเงินทอน จากค่าทำบัตรนักท่องเที่ยว น่าจะนำมาเล่นแร่แปรธาตุเสียหน่อย 4 ดอลล่าร์ เลขคณิตคิดในใจฉบับสายฟ้าแลบ ประมาณ 120 บาท ก็เลยจ่ายเป็นเงินดอลล่าร์ไป เหมือนจะหัวหมอหน่อยๆ หรือเปล่า... รับเงินทอนมา 6 ดอลล่าร์ ซะงั้น...
เสร็จแล้วเดินข้ามฝั่งถนนมาที่ปราสาทตาแก้ว
ปราสาทตาแก้ว สร้างในปีพุทธศตวรรษที่ 16 (พ.ศ. 1511 1544)รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 5เป็นศิลปะแบบคลัง ศาสนาฮินดู ไศวนิกาย สร้างเพื่ออุทิศให้แด่พระศิวะในศาสนาฮินดู ซึ่งพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ทรงเลื่อมใส แต่ก็ทรงให้ความอุปถัมภ์แก่พุทธศาสนานิกายมหายานอย่างเปิดเผยด้วยเช่นกัน
ปราสาทตาแก้วเป็นปราสาทแรกที่ทดลองนำหินทรายมาสร้าง มีลักษณะเป็นปราสาท 5 หลัง ก่อด้วยหินเป็นชั้น 5 ชั้น สูง 20 เมตร ในชั้นที่ 2 มีระเบียงคตยาวติดต่อล้อมรอบ เป็นปราสาทที่ถูกเรียกว่าปราสาทโกลน หมายความว่าเป็นปราสาทที่ยังสร้างไม่เสร็จ
ต่อมา พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ขึ้นครองราชย์ จึงทรงสร้างปราสาทตาแก้วต่อจนสิ้นรัชกาลก็ยังไม่เสร็จ สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะหินทรายที่นำมาก่อสร้างนั้นมีความแข็งจนยากต่อการแกะสลักภาพก็เป็นได้ หรืออาจเกิดสงครามจึงต้องเกณฑ์ผู้คนไปทำการรบ ทำให้การก่อสร้างขาดช่วงไป หรือกระทั่งการเกิดฟ้าผ่า ซึ่งเป็นความเชื่อว่าไม่เป็นที่ปรารถนาของเทพเจ้าจึงต้องหยุดการสร้างปราสาทไป
ด้านหน้ากำลังอยู่ระหว่างซ่อมบำรุง ประมาณว่าอันตรายห้ามเข้า
เดินเลาะเลียบกำแพงปราสาท ไปตามป้ายเส้นทางเดินนักท่องเที่ยว
ผ่านร้านขายภาพนูนสูงนูนต่ำ ไม่มีนักท่องเที่ยวแม้แต่สักคนเดียว
รู้สึกหวาดๆเหมือนกัน ปราสาทออกใหญ่โต บรรยากาศก็ดูเงียบเหงาวังเวงพิกล อุปาทานไปเลยเถิด....
» เสียมเรียบ (เสียมราฐ)
» นครวัด
» ปราสาทบายน
» ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน
» ปราสาททวิเมียนอากาศ (พิมานอากาศ)
» ปราสาทตาพรหม
» นครธม
» ปราสาทพระขรรค์
» ปราสาทนาคพัน (ปราสาทเนี๊ยกปอน)
» ปราสาทตาโสม
» ปราสาทแม่บุญตะวันออก (ปราสาทเมบอน)
» ปราสาทแปรรูป
» ปราสาทตาแก้ว
» ปราสาทเจ้าสายเทวดา
» ปราสาทธมมานน
» ปราสาทบาปวน