ข้อเขียน นิยาย สารคดี บทกวี เรื่องสั้น >>
พาตัวตนออกจากสถานที่อันจองจำ ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้ ไปประกาศอิสรภาพด้วยกัน
สะพายเป้ แบกกล้อง
ท่องโลก
โดย : จอมยุทธ แห่งบ้านจอมยุทธ
เสียมเรียบ นครวัด นครธม
นครธม (Angkor Thom)
วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2555
Early Bird ตื่นก่อนไก่โห่ ตี 5 ครึ่ง ล้างหน้าแปรงฟัน เสื้อผ้าที่ตากลมไว้ที่ระเบียงเกือบแห้งสนิท เก็บสัมภาระเรียบร้อย เปลี่ยนเสื้อยืดตัวใหม่ สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวตัวเดิม กางเกงยีนก็ตัวเดิม หมวก แว่นกันแดด กล้อง ที่กังวลคือวันนี้ตอนบ่ายๆ ฝนอาจจะเทลงมาอีกเหมือนเมื่อวาน อันนี้พยากรณ์เอาเองไม่เกี่ยวกับกรมอุตุนิยมฯของกัมพูชาแต่อย่างใด
รีบลงมาทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ วันนี้รู้สึกเจริญอาหารมากกว่าเมื่อวาน อาจเป็นเพราะไม่ได้เมาค้าง ประกอบกับวันนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมว่า มื้อต่อไปจะได้ตกถึงท้องกันเมื่อไร
ไหว้วานเจ้าหน้าที่ของโรงแรมติดต่อเช่ารถตุ๊กตุ๊ก ที่จอดรอผู้โดยสารอยู่ด้านหน้าให้คันหนึ่ง แบบเช่าเหมาเต็มวัน เสร็จแล้วตอน 5 โมงเย็นให้เลยไปส่งที่สนามบิน สนนราคา 500 บาท โดยไม่มีการต่อรองราคา เพราะเห็นว่าสามารถจ่ายได้ และคิดว่าสมน้ำสมเนื้อ จะต่อเหลือ 300-400 บาท ก็ดูว่าจะคิดเล็กคิดน้อยเกินไป ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวกัมพูชา
7 โมงออกเดินทางจากโรงแรมแวะเติมน้ำมัน จากนั้นไปทำบัตรนักท่องเที่ยวใหม่แบบ 1 วัน เพราะของเมื่อวานที่บริษัททำให้เป็นแบบหนึ่งวันซึ่งหมดอายุแล้ว
ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ผู้คนล้นหลามขนาดยังเช้าอยู่แท้ๆ เข้าคิวถ่ายรูปรวดเร็วเหมือนเดิม รอรับบัตรกันตรงนั้นเลย 20 Usd จ่ายเป็นเงินบาทก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จ่ายใบละ 1000 บาทไป ได้เงินทอนกลับมาเป็นใบละ 10 Usd 1 ใบ ขาดทุนประมาณหนึ่ง แต่ก็ช่างเถอะ...
นั่งดูแผนที่ท่องเที่ยวที่เตรียมมาจากบ้าน พูดคุยทำความรู้จัก แนะนำตัวกับคนขับรถรับจ้าง สลายช่องว่างระหว่างกันอย่างเป็นทางการ วางแผนเดินทางโดยยึดแผนที่เป็นหลัก เป็นอันเข้าใจกันดีด้วยภาษาอังกฤษแบบพอเอาตัวรอดได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ผ่านการตรวจบัตรนักท่องเที่ยวก่อนจะเลี้ยวออกถนนสายหลัก จากนั้นมุ่งหน้าไปปราสาทพระขรรค์ เป็นแห่งแรก ผ่านนครวัดตรงไปเข้าสู่นครธม
ซุ้มประตูทางเข้าสู่นครธม เมื่อวานผ่านมาแล้วรอบหนึ่งตอนไปปราสาทบายน ได้แต่มองตาปริบๆ เพราะฝนตกหนัก
ประติมากรรมกลางแจ้งแท้เชียว กวนเกษียรสมุทร ณ ราวสะพานข้ามคูเมืองทั้งสองฝั่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย
ที่ชำรุดทรุดโทรมหนักหน่อยก็ตรงลำตัวพญานาค ส่วนมากได้หักพังลงเกือบหมด
นครธม เป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้าย และเป็นเมืองที่เข้มแข็งที่สุดของอาณาจักรขอมโบราณสถาปนาขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ 9 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของนครวัดภายในเมืองมีสิ่งก่อสร้างมากมายนับตั้งแต่สมัยแรกๆ ที่สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และรัชทายาท ใจกลางพระนครเป็นปราสาทหลักของพระเจ้าชัยวรมัน คือปราสาทบายน
ช่วงกลางสะพานทั้งสองฝั่ง น้ำใสนิ่งราวกระจก ได้พระอาทิตย์สักดวงมุมนี้จะดีไม่น้อยเลยเชียว
อันไหนเทวดาอันไหนยักษ์ก็ดูไม่ออกเหมือนกัน
ช่วงท้ายสวนหางพญานาค
ซุ้มประตูทางเข้ามี 3 ปรางค์ สลักเป็นใบหน้าทั้ง 4 ด้าน
พ้นจากนี้ไปคงเลิกกินหินไปอีกนาน
มหัศจรรย์กระไรเยี่ยงนี้มนุษย์ชาติ
รูปปั้นสลักหินที่อยู่ท้ายสุดฝั่งนี้มีหลายหน้ามาก เท่าที่เห็นก็ 8 หน้า ส่วนด้านบนที่หักไปไม่ทราบอีกกี่หน้า
สมัยโบราณน่าจะมีทหารยามถือหอกดาบรักษาประตู ตรวจคนเข้าพระนคร
มุมซุ้มประตูข้างกำแพงด้านล่างเป็นรูปช้างทั้งสองฝั่ง
เข้ามาข้างในตรงกลางมีช่องบันไดทางขึ้นทั้งซ้าย-ขวา สมัยโบราณคงคึกคักน่าดูแถวนี้
ผ่านเลยเข้ามาด้านในก็คล้ายๆกัน จัดว่าสมบูรณ์มากซุ้มปรางค์ปราสาทนี้ ถ้าเน้นรายละเอียดตรงดวงตาให้เสมือนจริงกว่านี้หน่อยคงน่าเกรงขามถึงน่ากลัวประมาณหนึ่ง โดยเฉพาะที่ปราสาทบายน ตรงนี้อาจผ่านกระบวนการขบคิดของสถาปนิกยุคนั้นแล้วก็เป็นได้
ชุดสีเขียวที่กำลังกวาดใบไม้อยู่ เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความสะอาด พบเห็นได้ทั่วไป ต้องขอชื่นชมในเรื่องนี้ เพราะไม่ว่าที่ไหนในเขตแหล่งท่องเที่ยวไม่มีขยะให้เห็นเลย จอมถากถางอย่างผมถึงกับต้องเปลี่ยนแนวในทริปนี้...
» เสียมเรียบ (เสียมราฐ)
» นครวัด
» ปราสาทบายน
» ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน
» ปราสาททวิเมียนอากาศ (พิมานอากาศ)
» ปราสาทตาพรหม
» นครธม
» ปราสาทพระขรรค์
» ปราสาทนาคพัน (ปราสาทเนี๊ยกปอน)
» ปราสาทตาโสม
» ปราสาทแม่บุญตะวันออก (ปราสาทเมบอน)
» ปราสาทแปรรูป
» ปราสาทตาแก้ว
» ปราสาทเจ้าสายเทวดา
» ปราสาทธมมานน
» ปราสาทบาปวน