ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
สมถะวิปัสสนา
ความเบิกบานแห่งจิตเป็นไฉน
บุคคลย่อมศึกษาว่า จักให้จิตเบิกบานหายใจออกย่อมศึกษาว่า จักให้จิตเบิกบานหายใจเข้า อย่างไร
ความเบิกบานแห่งจิตเป็นไฉน
เมื่อรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถหายใจออกยาว ความเบิกบานแห่งจิต เกิดขึ้น ความเบิกบาน ความบันเทิง ความหรรษา ความร่าเริงแห่งจิต ความปลื้มจิต ความดีใจ
เมื่อรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถหายใจเข้ายาว ความเบิกบานแห่งจิต เกิดขึ้น ความเบิกบาน ความบันเทิง ความหรรษา ความร่าเริงแห่งจิต ความปลื้มจิต ความดีใจ
เมื่อรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้รู้แจ้งจิตหายใจออก ด้วยสามารถความเป็นผู้รู้แจ้งจิตหายใจเข้า ความเบิกบานแห่งจิตย่อมเกิดขึ้น ความเบิกบาน ความบันเทิง ความหรรษา ความร่าเริงแห่งจิต ความปลื้มจิต ความดีใจ นี้เป็นความเบิกบานแห่งจิต วิญญาณจิต ด้วยสามารถความเป็นผู้ยังจิตให้เบิกบาน หายใจออก หายใจเข้า ปรากฏ สติด้วยอนุปัสนาญาณ จิตปรากฏ ไม่ใช้สติ สติปรากฏด้วย เป็นตัวสติด้วย บุคคลย่อมพิจารณาจิตด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้นเพราะเหตุดังนี้ท่านจึงกล่าวว่าสติปัฏฐานภาวนา คือการพิจารณาจิตในจิต
บุคคลย่อมศึกษาว่า จักตั้งจิตมั่นหายใจออกย่อมศึกษาว่า จักตั้งจิตมั่นหายใจเข้า
ก็สมาธินทรีย์เป็นไฉน ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถลมหายใจออกยาว
เป็นสมาธิ
ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถลมหายใจเข้ายาว เป็นสมาธิ
ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้มีจิตตั้งมั่นหายใจออก เป็นสมาธิ ความตั้งอยู่ ความตั้งอยู่ดี ความตั้งมั่น ความไม่กวัดแกว่ง ความไม่ฟุ้ง่าน แห่งจิต ความมีใจไม่กวัดแกว่ง ความสงบ สมาธินทรีย์ สมาธิพละ สัมมาสมาธิ วิญญาณจิต ด้วยสามารถความเป็นผู้ตั้งจิตมั่นหายใจออกหายใจเข้านี้ปรากฏสติเป็นอนุปัสสนาญาณ จิตปรากฏ ไม่ใช้สติ สติปรากฏด้วย เป็นตัวสติด้วย บุคคลย่อมพิจารณาจิตด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้นเพราะเหตุดังนี้ท่านจึงกล่าวว่าสติปัฏฐานภาวนา คือการพิจารณาจิตในจิต