เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การใช้ไส้เดือนฝอยควบคุมหนอนกินใต้ผิวเปลือกลำต้นลองกอง
ศูนย์บริหารศัตรูพืชโดยชีวสงขลา สำนักงานส่งเสริมการเกษตรภาคใต้
ไส้เดือนฝอยเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ตัวอ่อนมี 4 วัย ขนาด 0.2-0.5 มิลลิเมตร
ตัวเต็มวัยยาว 1-2 มิลลิเมตร เจริญเติบโตและขยายพันธุ์อยู่ภายในตัวแมลง
เมื่ออาหารในตัวแมลงหมด ไส้เดือนฝอยวัย 3 จะออกจากแมลงมาสู่ธรรมชาติ
เพื่อหาแหล่งอาหารใหม่ต่อไป
ไส้เดือนฝอยวัย 3 จะเข้าสู่ตัวแมลง
ปล่อยเชื้อแบคทีเรียออกมาตามช่องเปิดตามธรรมชาติเข้าไปอยู่ในช่องว่างของตัวแมลง
ปล่อยเชื้อแบคทีเรียออกมา
แมลงอาศัยจะตายและไส้เดือนฝอยจะเจริญเป็นตัวเต็มวัยวางไข่และฝักเป็นตัวอ่อน
ไส้เดือนฝอยรุ่นที่ 2 จะเจริญวัยเป็นตัวเต็มวัยและขยายพันธุ์ได้ไส้เดือนฝอยวัย 3
อีก
อัตราการใช้
ลองกองต้นเล็ก ใช้ไส้เดือนฝอยที่ผสมน้ำแล้ว 3-5 ลิตร/ต้น
ซึ่งจะมีไส้เดือนฝอยประมาณ 6-10 ล้านตัว
ลองกองต้นใหญ่ ใช้ไส้เดือนฝอยที่ผสมน้ำแล้ว 5-7 ลิตร/ต้น
ซึ่งจะมีไส้เดือนฝอยประมาณ 10-14 ล้านตัว
ฉีดพ่น 2 ครั้ง ห่างกัน 15 วัน จะสามารถลดปริมาณหนอนได้ 80%
วิธีการใช้
- ตัดถุงพลาสติกออก
- เทฟองน้ำในถุงใส่ในน้ำตามอัตราที่ใช้
- ขยำฟองน้ำ (ควรแบ่งขยำเป็น 3 ครั้ง) ให้ไส้เดือนฝอยออกจากฟองน้ำมาอยู่ในน้ำให้หมดแล้วเอาฟองน้ำออก
- เทน้ำที่มีไส้เดือนฝอยใส่ในเครื่องฉีดพ่นที่สะอาด
- ฉีดพ่นตามกิ่งและลำต้นที่มีหนอนเข้าทำลาย โดยปรับหัวฉีดอย่าให้กระจายมากและควรเขย่าถังขณะฉีด เพื่อมิให้ตกตะกอน
ข้อควรระวัง
- แสงแดด จะทำให้ไส้เดือนฝอยเสื่อมประสิทธิภาพจึงควรฉีดพ่นในตอนเย็น
- หากใช้ในช่วงอากาศแห้งแล้ง ควรฉีดพ่นน้ำก่อน ฉีดพ่นไส้เดือนฝอย
ข้อดีของการใช้ไส้เดือนฝอย
- ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิ
- ไม่มีพิษตกค้างในพืชผล
- หนอนำไม่สร้างความต้านทานต่อไส้เดือนฝอย
- ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่เป็นพิษต่อผิวหนัง
- ทนทานต่อสารเคมีหลายชนิด จึงใช้กับเครื่องที่ใช้ฉีดพ่นสารเคมีได้
- ใช้ได้กับเครื่องฉีดพ่นสารเคมี ทั้งแบบสะพายหลัง และแบบเครื่องยนต์แรงสูง
- ช่วยอนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติที่มีประโยชน์
หนอนกินไต้ผิวเปลือกลำต้นลองกอง
- สีน้ำตาลแดงยาว 3-4 เซนติเมตร ระบาดมากในฤดูฝนซึ่งมีความชื้นสูงอาศัยอยู่ทั้งบริเวณโคนต้น และส่วนบน
- สีครีมยาว 1-1.5 เซนติเมตร เมื่อถูกรบกวนจะทิ้งตัวลงดิน โดยการทิ้งใย ระบาดมากในฤดูร้อน ทนต่อสภาพแห้งแล้ง ชอบอาศัยอยู่บริเวณกิ่งอ่อนที่มีใบปกคลุม
- หนอนจะกินอยู่ใต้ผิวเปลือกลำต้นที่ลึก 2-8 มิลลิเมตร ทำให้เกิดลักษณะตะปุ่มตะป่ำ ถ้าอยู่ใกล้บริเวณตาดอกทำให้ดอกถูกทำลายผลผลิตลดลง ถ้าทำลายรุนแรงทำให้กิ่งแห้งต้นแคระแกรน โตช้าและตาย