เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การสาวไหมพุ่ง
ด้วยเครื่องสาวไหมแบบปรับปรุง
เครื่องสาวไหมพุ่งแบบมอเตอร์
เป็นเครื่องสาวไหมที่ย่อส่วนมาจากเครื่องสาวไหมแบบกึ่งอัตโนมัติหรือแบบมัลติเอน มี 2 หัวสาว โดยทำการสาวไหมเข้าอักสาวก่อนแล้วจึงนำไปทำการถ่ายเส้นไหมจากอักสาวไปสู่เหล่งเพื่อทำไจไหม โดยใช้เครื่องสาวดังกล่าวเป็นตัวกลไกในการควบคุมการทำงานทั้งสิ้น เครื่องสาวชนิดนี้เหมาะที่จะใช้กับไหมพันธุ์ไทยลูกผสมและพันธุ์ลูกผสมต่างประเทศ
ขั้นตอนการสาวไหมพุ่งด้วยเครื่องสาวไหมพุ่งแบบมอเตอร์
1. การเตรียมรังไหม รังไหมที่จะทำการสาวนั้น อาจจะเป็นรังไหมพันธุ์ลูกผสมต่างประเทศหรือพันธุ์ไทยลูกผสม ซึ่งรังไหมที่จะใช้สาวนั้นอาจจะเป็นรังไหมสดหรือรังไหมอบแห้งก็ได้ ก่อนที่จะนำรังไหมมาทำการสาวนั้น จะต้องมีการคัดแยกรังไหมที่มีคุณภาพดีและไม่ดีออกจากกันก่อน เพื่อทำให้เส้นไหมที่จะสาวได้มีคุณภาพดีเป็นที่ต้องการของตลาด จากนั้นก็นำรังไหมที่เตรียมไว้ไปทำการต้มและสาวต่อไป การต้มรังไหมเพื่อทำการสาวไหม จะมีวิธีการต้มที่แตกต่างกันระหว่างรังไหมสดและรังไหมแห้ง คือ
- การต้มรังไหมสด การต้มรังไหมสดก่อนที่จะทำการสาวไหม
จะต้องมีการต้มในอุณหภูมิ 3 ระดับ คือ n หม้อต้มที่ 1
ต้มรังไหมในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 90-95 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1
นาทีสำหรับไหมพันธุ์ไทยลูกสม และ 2 นาทีสำหรับไหมพันธุ์ลูกผสม n หม้อต้มที่ 2
ต้มรังไหมในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60-65 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 35
วินาทีสำหรับไหมพันธุ์ไทยลูกผสม และ 40 วินาทีสำหรับไหมพันธุ์ลูกผสม n
หม้อต้มที่ 3 ต้มรังไหมในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 90-95 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2
นาทีสำหรับไหมพันธุ์ไทยลูกผสม และ 4 นาทีสำหรับไหมพันธุ์ลูกผสม 1.2
การต้มรังไหมอบแห้ง การต้มรังไหมอบแห้งก่อนที่จะทำการสาวไหม
ก็มีวิธีการต้มคล้ายคลึงกับการต้มรังไหมสด แต่จะแตกต่างกันที่ระยะเวลาของการต้ม
ในระดับอุณหภูมิต่าง ๆ กันเท่านั้น
- หม้อต้มที่ 1 ต้มรังไหมในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 90-95 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4 นาทีสำหรับไหมพันธุ์ไทยลูกผสม และ 6 นาทีสำหรับไหมพันธุ์ลูกผสม n หม้อต้มที่ 2 ต้มรังไหมในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60-65 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 50 วินาทีสำหรับไหมพันธุ์ไทยลูกผสม และ 1 นาที 20 วินาทีสำหรับไหมพันธุ์ลูกผสม
- หม้อต้มที่ 3 ต้มรังไหมในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 90-95 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาทีสำหรับไหมพันธุ์ไทยลูกผสม และ 12 นาที สำหรับไหมพันธุ์ลูกผสม
ในกรณีการต้มรังไหมก่อนที่จะทำการสาวไหมโดยวิธีการดังกล่าวข้างต้นนั้น ก็จะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการต้มรัง เพราะรังไหมแต่ละชนิดและสายพันธุ์จะมีความแตกต่างกัน
2. การสาวไหม นำเอารังไหมที่ต้มเรียบร้อยแล้วมาใส่ลงในอ่างสาวโดยให้ความร้อนของน้ำในอ่างสาวไหมมีอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส แล้วทำการดึงเส้นไหมเพื่อหาเงื่อน วิธีการสาวไหมด้วยเครื่องสาวชนิดนี้จะสาวเข้าอักสาวไหม ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีเส้นรอบวง 68 เซนติเมตร โดยมี 2 อักสาวไหมต่อเครื่อง แต่ละหัวสาวจะต้องใส่รังไหมเพื่อทำการสาวไหมโดยเฉลี่ยประมาณ 80 รัง เพื่อให้ได้เส้นไหมที่มีขนาดประมาณ 150-200 ดีเนียร์
การทำงานของเครื่องสาวไหม ในการขับเคลื่อนจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 0.5 แรงม้า โดยอักสาวไหมจะมีความเร็วประมาณ 200 เมตร/นาที ในการสาวไหมนั้น รังไหมที่จะทำการสาวควรจะมีการลอกปุยออกให้สะอาด และทำการสาวเอาเส้นใยไหมรอบนอกของรังไหมออกไปสาวที่บริเวณอ่างสาวไหมซึ่งจะมีอ่างที่ใส่รังไหมเพื่อสาวไหมกับอ่างพักรังไหมที่ต้มเรียบร้อยแล้ว และรอการสาวต่อไป
การเริ่มสาวไหมนั้น จำนวนรังไหมที่ใช้เริ่มต้นสาวอยู่ในระหว่าง 80-85 รัง และผู้ควบคุมเครื่องสาวจะต้องมีความชำนาญ ประสบการณ์และการสังเกตเป็นอย่างดี เพราะเมื่อสาวไปได้ระยะหนึ่งจำนวนรังไหมในอ่างสาวจะลดลงก็ให้ทำการเติมรังไหม โดยนำเอารังไหมจากอ่างพักเติมลงไปทดแทนรังที่หายไปจากการสาวไหม เพื่อให้เส้นไหมที่สาวได้มีขนาดที่สม่ำเสมอ
การควบคุมการทำงานของเครื่องสาวไหม เครื่องสาวไหมนี้จะประกอบไปด้วยสองหัวสาว ในระยะแรก ๆ หากผู้สาวยังไม่มีความชำนาญพออาจจะเริ่มโดยการสาวไหมเพียงหัวสาวเดียวก่อน เมื่อฝึกจนกระทั่งเกิดความชำนาญ มีทักษะ ก็สามารถที่จะเปิดสาวได้พร้อมกันทั้งสองหัวสาว ผู้สาวไหมจะต้องหมั่นตรวจเช็คขนาดของเส้นไหมอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากตัวเครื่องไม่มีตัวควบคุมขนาดของเส้นไหมในขณะที่ทำการสาว นอกจากนี้เครื่องสาวไหมชนิดนี้จะมีดุมติดอยู่ที่เครื่องสาวเพื่อป้องกันไม่ให้เศษดักแด้และเส้นไหมติดไปกับเส้นไหมที่สาวได้ ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพเส้นไหมโดยตรง
»
การสาวไหมในระดับเกษตรกร
»
เครื่องสาวไหมแบบปรับปรุงโดยใช้แรงคน
»
ลักษณะส่วนประกอบของพวงสาวไหมแบบปรับปรุงโดยใช้แรงคน
» เครื่องสาวไหมพุ่งแบบมอเตอร์
»
การกรอไหมและทำเข็ด
»
การสาวไหมในระดับโรงงานอุตสาหกรรม