เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การตรวจสอบคุณภาพน้ำนม
กองปศุสัตว์สัมพันธ์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
การตรวจสอบทางจุลชีววิทยา
จุลินทรีย์ในน้ำนมที่ตรวจเป็นงานประจำได้แก่ บักเตรี ยีสต์ และรา จำนวนจุลินทรีย์ในน้ำนมจะมีปริมาณมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่ การปฏิบัติต่อโคนมในขณะรีดนม การทำความสะอาด การจัดการสุขาภิบาลในคอก และการปนเปื้อนจากภาชนะที่ใช้ในการรีดนมหรือผู้รีดนม
การตรวจทางจุลชีววิทยาที่จะกล่าวในที่นี้
สามารถแบ่งเป็นการตรวจนับจำนวนบักเตรีทั้งหมด การตรวจหาบักเตรีกลุ่มโคไลฟอร์ม
การตรวจนับบักเตรีที่ทนความร้อน การตรวจนับบักเตรีที่ชอบความเย็น
วิธีในการตรวจนับทางจุลชีววิทยา จะทำโดยใช้อาหารเลี้ยงเชื้อซึ่งเป็นวุ้น
ผสมกับน้ำนมหรือน้ำนมที่เจือจางแล้ว ให้เข้ากันในจานอาหารเลี้ยงเชื้อ
จากนั้นจะเพาะจานอาหารเลี้ยงเชื้อไว้ โดยบ่มที่อุณหภูมิระดับต่าง ๆ
ตามแต่ชนิดของการตรวจสอบ
การตรวจนับจำนวนบักเตรีทั้งหมด
น้ำนมที่สะอาดคุณภาพยอดเยี่ยมจะมีจุลินทรีย์เพียง 1,000 เซลล์ต่อน้ำนม 1
มิลลิลิตร ในประเทศไทยให้คุณภาพน้ำนมเกรดหนึ่งที่จำนวน 100,000 เซลล์ต่อน้ำนม 1
มิลลิลิตร บักเตรีในน้ำนมนี้สามารถตรวจนับได้หลังจากบ่มที่อุณหภูมิ 32 องศา ซ.
เป็นเวลา 48 ชั่วโมง
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ได้กำหนดให้น้ำนมดิบที่นำมาผลิตนมสดมีจุลินทรีย์ทั้งหมดในน้ำนมไม่เกิน 400,000 เซลล์ ต่อน้ำนม 1 มิลลิลิตร
การตรวจหาบักเตรีกลุ่มโคไลฟอร์ม
บักเตรีกลุ่มนี้พบได้ในลำไส้ของคนและสัตว์ ในอุจจาระ
ในโคนมที่เป็นโรคเต้านมอักเสบ ในภาชนะรีดนม หรือในคอกซึ่งล้างทำความสะอาดไม่ทั่วถึง
หากตรวจพบจุลินทรีย์กลุ่มนี้มากกว่า 100 เซลล์ ต่อน้ำนม 1 มิลลิลิตร
แสดงว่าสุขลักษณะของการรีดนมปฏิบัติได้ไม่ถูกต้อง
จึงมีการปนเปื้อนของบักเตรีกลุ่มนี้
วิธีการตรวจสอบทำโดยใช้อาหารเลี้ยงเชื้อสำหรับหาจุลินทรีย์กลุ่มนี้ผสมกับน้ำนม
แล้วบ่มที่อุณหภูมิ 37 องศา ซ. เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
หลังจากนั้นตรวจนับจำนวนจุลินทรีย์
ที่มีลักษณะเฉพาะที่ขึ้นในจานอาหารเลี้ยงเชื้อนั้น
การตรวจนับบักเตรีที่ทนความร้อน
บักเตรีสามารถแบ่งเป็นชนิดตามอุณหภูมิที่เจริญเติบโต ในน้ำนมจะมีบักเตรี
ที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ภายหลังขบวนการพาสเจอร์ไรซ์ซึ่งบักเตรีนี้จะอยู่ตามเต้านม
และภาชนะใส่นม
ในน้ำนมที่มีจำนวนบักเตรีทั้งหมดมากมีบักเตรีชนิดนี้อยู่มากและมีผลทำให้อายุการเก็บน้ำนมนั้นสั้นลง
การตรวจบักเตรีในกลุ่มนี้ จะต้องทำน้ำนมให้ร้อนเสียก่อนที่อุณหภูมิ 62 องศา ซ.
เป็นเวลา 30 นาที จากนั้นนำตัวอย่างน้ำนมนั้น
มาตรวจโดยใช้วิธีเดียวกับการตรวจนับจำนวนบักเตรีทั้งหมด
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ระบุให้น้ำนมพาสเจอร์ไรซ์ มีบักเตรีได้ไม่เกิน 10,000 เซลล์
ต่อน้ำนม 1 มิลลิลิตร
การตรวจนับบักเตรีที่ชอบความเย็น
ยังมีบักเตรีอีกกลุ่มหนึ่งในน้ำนมซึ่งเจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิต่ำบักเตรีกลุ่มนี้จะพบได้ในเต้านมและในถังนม
ซึ่งมีอุณหภูมิที่ลดต่ำ 2-7 องศา ซ.
ส่วนใหญ่ของจุลินทรีย์กลุ่มนี้สามารถถูกทำลายได้ด้วยความร้อน หากยังมีอยู่ในน้ำนม
จะทำให้คุณภาพของน้ำนมนั้นลดลง
มักทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เพราะจุลินทรีย์พวกนี้จะสร้างน้ำย่อย
ย่อยโปรตีนและไขมันในน้ำนม ทำให้น้ำนมเสื่อมคุณภาพและเน่าเสียได้
การตรวจนับบักเตรีกลุ่มนี้ จะบ่มที่อุณหภูมิ 7 องศา ซ. เป็นเวลา 10 วัน
»
การตรวจสอบคุณภาพน้ำนมเบื้องต้นที่ศูนย์รวมน้ำนม
»
การตรวจสอบคุณภาพน้ำนมในห้องปฏิบัติการ
»
การประมาณจำนวนจุลินทรีย์โดยดูการเปลี่ยนสีของน้ำยา
» การตรวจสอบทางจุลชีววิทยา
»
ส่วนประกอบน้ำนม
»
การตรวจนับจำนวนเซลล์โซมาติก
»
การตรวจสารตกค้าง