เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>

ข้อมูลการเกษตร

ปศุสัตว์

การเลี้ยงกระต่าย

ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ สำนักงานส่งเสริมและฝึกอบรม
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นครปฐม
โดย ชมรมกระต่าย คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เกร็ดความรู้

1. กระต่ายกินน้ำตายจริงหรือไม่ ?
ปกติแล้วกระต่ายเป็นสัตว์ที่มีความต้องการน้ำเช่นเดียวกับสัตว์ชนิดอื้น ๆ ถ้ากระต่ายได้รับ น้ำน้อย จะทำให้เติบโตช้า แต่การที่คนส่วนใหญ่เห็นว่ากระต่ายที่เลี้ยงกันนั้นไม่ได้ไห้น้ำเลยให้แต่ผัก หญ้า ก็ยังเห็นกระต่ายปกติดี เนื่องจากว่าในผักและหญ้านั้นมีน้ำมากเพียงพอที่จะทำให้กระต่าย มีชีวิตอยู่ได้ แต่ถ้าให้น้ำเพิ่มด้วยจะทำให้กระต่ายเติบโตเร็วยิ่งขึ้น การที่กระต่ายกินน้ำแล้วตาย อาจเนื่องมาจากภาชนะที่ใส่น้ำเป็นชามที่กระต่ายสามารถทำล้มได้ง่ายทำให้น้ำหกเจิ่งนองพื้น ซึ่งจะทำให้กระต่ายเป็นหวัดหรือปอดบวม และมีโรคอื่น ๆ แทรกช้อนจนทำให้ตายได้

2. จับท้องกระต่ายจะทำให้กระต่ายตายจริงหรือไม่ ?
การจับกระต่ายที่ถูกวิธีและทำด้วยความนุ่มนวลโอกาสที่กระต่ายจะตายนั้นมีน้อยมาก แต่สัญชาติญาณของกระต่ายเมื่อโดนจับบริเวณท้องมันก็จะดิ้น คนที่จับไม่เป็นหรือไม่รู์โดยเฉพาะ เด็ก ๆ เมื้อเห็นมันดิ้นก็จะยิ่งจับหรือบีบให้แน่นยิ่งขื้นเพราะกลัวว่ากระต่ายจะหลุดจากมือ ทำให้อวัยวะภายใน ได้รับอันตรายจนกระทั่งกระต่ายช๊อคตายได้

3. ทำไมกระต่ายสีขาวจะมีตาสีแดง?
การที่กระต่ายจะมีตาสีอะไรขึ้นกับเม็ดสี(Pigment) ที่อยู่ในตา แต่ในกระต่ายสีขาวเช่น พันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์หรือแคลลิฟอร์เนียน ไม่มีเม็ดสี ทำให้เห็นเส้นเลือดสีแดงในตาซึ่งจะ สะท้อนแสงให้เราเห็นตากระต่ายเป็นสีแดง ส่วนในกระต่ายพันธุ์พื้นเมืองนั้นมีตาสีดำ เนื่องจากมันมีเม็ดสีเป็นสีดำในตานั่นเอง

4. กระต่ายเป็นสัตว์ทื่จัดอยูในกลุ่มสัตว์ฟันแทะเช่นเดียวกับหนูใช่หรือไม่ ?
แต่ก่อนนักสัตววิทยาได้จัดให้กระต่ายอยู่ในกลุ่มสัตว์ฟันแทะเช่นเดียวกับหนู ต่อมาได้พบว่ากระต่ายกับหนูนั้นมีข้อแตกต่างกันที่กระต่ายมีฟันตัดหน้าบน 4 ชี่ ส่วนหนู มีเพียง 2 ชี่ ทำให้มีการจัดกลุ่มใหม่ โดยให้กระต่ายอยู่ในอันดับกระต่าย (Order Lagomorpha) และหนูจัดอยู่ในอันดับสัตว์ฟันแทะ (Order Rodentia)

5. ทำไมช่วงที่อากาศร้อนจัด ๆ กระต่ายถืงช็อคตาย ?
เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์ที่ไม่มีต่อมเหงื่อ ทำให้การระบายความร้อนเป็นไปได้ยาก ในช่วงที่อากาศร้อน ๆ กระต่ายจะหายใจถี่ขึ้น โดยสังเกตุที่จมูกจะ สั่นเร็วขึ้น และมีการ ระบายความร้อนที่เส้นเลือดแดงใหญ่กลางหูมากขึ้น แต่ก็ยังระบายความร้อนไม่ทันทำให้ อุณหภูมิในร่างกายสูงมากจนถึงขั้นทำให้ช๊อคตายได้

บรรณานุกรม

  • ชมรมกระต่าย. 2530. "การเลี้ยงกระต่าย" มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (โรเนียว)
  • สังเวียน โพธิ์ศรี. 2528. "การเลี้ยงกระต ่าย" . มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
  • สมศักดิ์ บัณฑุปัย. 2528. "การเลี้ยงกริะต่าย" สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
  • Dale L.Brooks, 1986. Rabbits. Mares, and Pikas (Lagomorpha). In Zoo and Wild Animal Medicine 2 nd edition, W.H. Saunders Company P.711-724.
  • Donaled D., Holmes. 1984. Clinical Laboratory Animal Medicine: and introduction. The Iowa State University. Pas, Amcs. Iowa. p.45-58.
  • National Reseach Council. 1977. Nutrient requirement of rabbits. 2 nd edition, National Academy of Science, Washington D.C.

» โรงเรือนและอุปกรณ์การเลี้ยง
» อาหาร
» ความต้องการโภชนะของกระต่าย
» การให้อาหารกระต่าย
» วิธีจับกระต่าย
» การดูเพศกระต่าย
» การขยายพันธุ์
» การป้องกันและควบคุมโรค
» โรคของกระต่าย
» เกร็ดความรู้

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย