เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การปลูกงาและการดูแลรักษา
การป้องกันกำจัดวัชพืชในแปลงงา
1. ใช้วิธีเขตกรรม
- เลือกช่วงเวลาของการปลูกงา ในช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือนกุมภาพันธุ์-เมษายน
จะปัญหาเรื่องวัชพืชน้อยเพราะอากาศแห้งแล้ง ดินมีความชื้นน้อย
วัชพืชงอกได้ในปริมาณไม่มากนัก ถ้าปลูกในช่วงปลายฝนระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
จะมีวัชพืชมากจนอาจเก็บเกี่ยวงาไม่ได้เลยถ้าไม่มีการกำจัดวัชพืช
- ปลูกงาให้ขึ้นสม่ำเสมอ แปลงงาที่งอกสม่ำเสมอจะไม่ค่อยมีปัญหาวัชพืช
แต่แปลงที่งางอกห่างจะมีวัชพืชขึ้นมากโดยเฉพาะการปลูกงาแบบโรยเป็นแถวหรือหยอดเป็นหลุมดังนั้นจึงต้องมีการพรวนดินดายหญ้าบ้าง
- ไถเตรียมดินก่อนปลูกให้ดี โดยเฉพาะในการปลูกงาปลายฝนจะต้องไถเตรียมดินให้ดีกว่าในช่วงต้นฝน
2. ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดวัชพืช ได้แก่
- พาราควอท จำนวน 300 ซีซี. ต่อไร่ พ่นวัชพืช ให้ตายก่อนปลูกงา
- อะลาคลอร์ เช่น แลสโซ่ อโรซาล หรืออลาเน็ท ในอัตรา 350-550 ซีซี.ต่อไร่ หรือเมโทลาคลอร์ เช่น ดูอัลในอัตรา 400-600 ซีซี.ต่อไร่ ฉีดพ่นหลังจากปลูกงาเสร็จแล้วประมาณ 3-5 วัน ก่อนงาและวัชพืชจะงอกขึ้นมา
คุณค่าทางโภชนาการของงา
งาเป็นพืชที่มีคุณค่างทางโภชนาการสูงชนิดหนึ่ง เมล็ดงามีไขมันประมาณ 35-57
เปอร์เซ็นต์ และมีโปรตีนประมาณ 17-25 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเปรียบเทียบงากับถั่วเหลืองและไข่แล้วพบว่า งามีไขมันสูงกว่าถั่วเหลืองประมาณ
3 เท่า และสูงกว่าไข่ ประมาณ 4-6 เท่า มีโปรตีนสูงกว่าไข่ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์
แต่ต่ำกว่าถั่วเหลืองประมาณ 2 เท่า
นอกจากนี้โปรตีนในงายังแตกต่างจากพืชตระกูลถั่วและพืชให้น้ำมันอื่น ๆ
เพราะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นซึ่งพืชดังกล่าวขาดแคลน เช่น เมธไธโอนินและซีสติน
แต่งามีไลซีนต่ำ ดังนั้นอาจใช้งาเป็นอาหารเสริมพวกอาหารถั่วต่าง ๆ
เมื่อใช้เป็นอาหาร หรือใช้เสริมโปรตีนจากเนื้อสัตว์ซึ่งมีราคาแพง
นอกจากนี้ยังใช้เสริมอาหารพวกธัญพืชกล้วย และอาหารแป้งอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี
»
สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม
»
ชนิดพันธุ์งาและแหล่งปลูก
»
ฤดูปลูก
»
วิธีการปลูกงา
»
การเก็บเกี่ยว
»
โรคของงา
»
แมลงศัตรูงา
» การป้องกันกำจัดวัชพืชในแปลงงา