เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>

ข้อมูลการเกษตร

วิทยาการเกษตร

การผลิตเมล็ดพันธุ์ผัก

» การผลิตเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งจีน
» การปลูกข้าวโพดหวานเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์
» การปลูกผักกาดหอมเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์
» การปลูกแตงกวาเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์

การปลูกผักกาดหอมเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์

การเลือกพื้นที่ปลูก

ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผักกาดหอม ควรเป็นดินร่วนปนทรายมีการระบายน้ำดี ไม่ควรปลูกในดินที่เป็นกรดจัด ค่าความเป็นกรดเป็นด่างที่เหมาะสมประมาณ 6 แต่ไม่ควรใช้ปูนขาวในการปรับระดับความเป็นกรดของดินให้เป็นกลางหรือเป็นด่าง เพราะจะทำให้ผักกาดหอมเกิดอาการใบด่างได้

ฤดูปลูกที่เหมาะสม

ควรปลูกในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีวันยาวและเพื่อให้ผักกาดหอมได้แทงช่อดอกในช่วงที่ไม่มีฝนตก ผักกาดหอมสามารถเจริญเติบโตได้ดีที่อุรหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส จะทำให้การออกดอกมีจำนวนดอกต่อต้นมาก เมล็ดมีคุณภาพดี แต่เมล็ดมีการพักตัวและพัฒนาช้า ส่วนที่อุณหภูมิสูงประมาณ 30 องศาเซลเซียส จะทำให้มีจำนวนดอกต่อต้นน้อย เมล็ดมีคุณภาพต่ำแต่เมล็ดไม่มีการพักตัวและพัฒนาได้เร็ว ซึ่งอุรหภูมิทั่วไปที่เหมาะสมในการผลิตเมล็ดพันธุ์คือ 12-18 องศาเซลเซียส

การเตรียมดิน

  1. สำหรับแปลงเพาะกล้า  เตรียมแปลงเพาะกล้าแล้วหว่านปุ๋ยคอกก่อนหว่านเมล็ด และควรคลุกเมล็ดด้วยสารเคมีป้องกันเชื้อรา เช่น แคปเทน เพื่อป้องกันโรคเน่าคอดิน หว่านเมล็ดให้กระจายสม่ำเสมอโดยใช้เมล็ดพันธุ์ในอัตรา 50 กรัม ต่อไร่ แล้วคลุมด้วยฟางเพื่อช่วยรักษาความชื้นในดิน เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 20-25 วัน จึงทำการย้ายกล้าและควรงดการให้น้ำก่อนย้ายกล้า 2-3 วัน เพื่อให้กล้าแข็งแรงไม่เปราะง่าย ก่อนจะถอนต้นกล้าต้องรดน้ำให้ชุ่มเพื่อป้องกันไม่ให้รากขาด ต้นกล้าและไม่ชะงักการเจริญเติบโต
  2. สำหรับแปลงปลูก  ต้องมีการไถดินเตรียมแปลงปลูก แล้วหว่านปุ๋ยคอกให้ทั่วแปลงในอัตรา 1 ต้นต่อไร่ อาจยกเป็นร่องแปลงหรือปลูกในกระทงนาก็ได้ ใช้ระยะปลูก 50X75 เซนติเมตร ขุดหลุมหลูกแล้วรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ หรือแบ่งใส่อัตรา 1 ฝาน้ำอัดลมต่อหลุม แล้วทำการย้ายกล้าผักกาดหอมมาปลูก

การปลูกและดูแลรักษา

เมื่อย้ายกล้าผักกาดหอมลงแปลงปลูกแล้ว ควรใช้ฟางคลุมหน้าแปลงเพื่อรักษาความชื้นด้วยรวมทั้งทำการสำรวยว่าจำเป็นต้องปลูกซ่อมกล้าผักกาดหอมเพิ่มเติมหรือไม่ ในช่วงการเจริญเติบดตของผักกาดหอมนี้ถ้าปลูกในสภาพดินร่วนซุย ควรให้น้ำทุก ๆ 2-3 วันต่อครั้ง แต่ถ้าเป็นสภาพดินเหนียว และมีการระบายน้ำไม่ดี ควรให้น้ำสัปดาห์ละครั้ง หรือให้สังเกตว่าเมื่อดินเริ่มแห้งจึงจะมีการให้น้ำเข้าไปในแปลง หลังย้ายต้นกล้าลงปลูกได้ 20 วัน (หรือต้นกล้ามีอายุ 40-45วัน) ต้องหมั่นตรวจสอบแปลงเพื่อคัดพันธุ์ปนออกมาโดยสังเกตต้นที่มีรูปร่างของใบสีของใบผิดปกติ ผิวของใบย่นหรือผิวใบเรียบรวมทั้งพวกที่มีขอบใบผิดปกติตรงตามลักษณะประจำพันธุ์ ต้องถอนทิ้ง

เมื่อต้นกล้ามีอายุ 40-45 วัน ให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ และตรวจแปลงเพื่อคัดพันธุ์อื่นที่ปะปนทิ้งซึ่งในระยะนี้เป็นระยะเจริญเติบโตเต็มที่มีการห่อหัว ควรตรวยดูขนาดและความแน่นของหัวด้วย

เมื่อต้นกล้ามีอายุ 70 วัน ซึ่งเป็นระยะแทงช่อดอก ควรตรวจแปลง เพื่อคัดพันธุ์อื่นที่ปะปนโดยเฉพาะต้นที่มีการแทงช่อดอกเร็วผิดปกติ และต้นที่มีสีดอกไม่ตรงตามพันธุ์ให้ถอนทิ้ง

»» โรคที่สำคัญของผักกาดหอม
»» แมลงศัตรูของผักกาดหอม
»» การเก็บเกี่ยว

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย