สุขภาพ ความงาม อาหารและยา สมุนไพร สาระน่ารู้ >>
การแกว่งแขน รักษาโรค
การแกว่งแขนกับการเปลี่ยนแปลงของชีพจร
การจับชีพจรเพื่อวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ซึ่งชาวจีนเรียกว่า "แมะ" นั้นเป็นการค้นพบที่สำคัญอย่างยิ่งของแพทย์จีนแผนโบราณแพทย์จีนในสมัยโบราณได้ศึกษาเกี่ยวกับหลักการเต้นของชีพจรไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และมีผลงานเป็นเกียรติประวัติเป็นที่แพร่หลายกว้างขวางจากการเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงของชีพจรทำให้สามารถรู้ถึงสภาพของร่างกายว่าแข็งแรง หรืออ่อนแอประการใด เหตุที่การแกว่งแขนสามารถรักษาโรคได้ก็เพราะการแกว่งแขน สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขสภาพของร่างกายเมื่อแก้ไขสภาพของร่างกายได้ ผลสะท้อนก็จะแสดงออกไปยังชีพจร ด้วย
ตัวอย่างเกี่ยวกับการจับชีพจรเพื่อวินิจฉัยโรค
๑. โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โดยทั่วไปชีพจรจะลอยสูงเต้นเร็วเกินไป ความดันโลหิตยิ่งสูง ชีพจรก็จะยิ่งเต้นเร็วเป็นเงาตามตัว ดังนั้นโรคหัวใจกับความดันโลหิตสูง จึงเกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด ชีพจรของคนปกติจะเต้นอยู่ระหว่าง ๖๐-๘๐ครั้งต่อนาที มีการเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอเต้นอย่างลึก ๆและอย่างมีแรง ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจผู้สูงอายุ และผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ การเต้นของชีพจรจะอยู่ในระหว่าง ๖๐ ครั้งต่อนาที แต่เต้นอ่อน และผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำการเต้นของชีพจรก็จะมีกำลังอ่อนเช่นกัน
๒. โรคประสาท โรคจิต โรคไต ชีพจรจะเต้นเร็วบ้างช้าบ้างไม่สม่ำเสมอ
๓. โรคเกี่ยวกับโลหิต เกี่ยวกับน้ำเหลือง ชีพจรเต้นช้ามีแรงอ่อนมาก จนกระทั่งบางรายคลำดูไม่รู้สึกว่าเต้น บางรายชีพจรทางซ้ายกับขวาเต้นไม่เหมือนกัน เมื่อชีพจรทางซ้ายและขวาขัดกันเช่นนี้ การหมุนเวียนของโลหิตก็จึงติดขัด
๔. โรคอัมพาต คนที่เป็นลม มักมีชีพจรทั้ง ๒ ข้างต่างกันบางราย การเต้นของชีพจรแต่ละข้างต่างกันถึง ๒๐ ครั้งต่อนาทีซึ่งเกี่ยวโยงกับโรคไขข้ออักเสบเหมือนกัน เมื่อข้างหนึ่งทางเดินของเลือดติดขัดไม่สะดวก อีกข้างหนึ่งก็จะมีกำลังกดดันมากขึ้น
โรคดังกล่าวเหล่านี้ล้วนสามารถรักษาให้หายได้โดยกายบริหารแกว่งแขนทั้งสิ้น
กายบริหารแกว่งแขนสามารถควบคุมการเต้นของชีพจรให้เป็นปกติได้อย่างไร?
โรคชีพจรเต้นเร็ว การที่ชีพจรเต้นเร็วก็เพราะโลหิตในร่างกายของเราไม่สามารถบังคับการไหลของโลหิตให้เป็นปกติเมื่อบังคับและควบคุมไม่ได้ ลมก็เสย สาเหตุเนื่องจากปริมาณโลหิตไม่เพียงพอ เมื่อทำกายบริหารแกว่งแขนจะทำให้สามารถเสริมสร้างบำรุงโลหิต และยังบังเกิดผลในการบังคับควบคุมได้ด้วย
การออกกำลังด้วยการบริหารแบบนี้ สามารถบำรุงและเสริมสร้างโลหิตได้ก็เพราะเมื่อกระเพาะและลำไส้ได้รับการออกกาลังจึงเสมือนกับได้รับการนวดเฟ้น ก็จะเริ่มเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้สามารถรับเอาอาหารไปบำรุงร่างกายได้อย่างเต็มที่ สำหรับผู้ที่มีชีพจรเต้นช้ากว่าปกติ ก็เพราะการหมุนเวียนของโลหิตติดขัด และ ปริมาณของโลหิตไม่เพียงพอ การบริหารแกว่งแขนจะทำให้มือและเท้าได้รับการบริหารและหลังของเราก็พลอยได้รับการเคลื่อนไหวด้วยสิ่งกีด ขวางทางเดินของเลือดลมในทรวงอกและช่องท้องจะถูกขจัดไปโลหิตที่คั่งก็จะกระจายหายคั่ง เมื่อนั้น ชีพจรจึงจะเต้นเป็นปกติ
การแก้ไขชีพจรให้ดีได้ ก็โดยถือหลักของแพทย์จีนแผนโบราณที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นว่า "ชีพจรขึ้นมาจากสันเท้า"เวลาทำ กายบริหารแกว่งแขนน้ำหนักการทรงตัวทั้งหมดอยู่ที่เท้าเมื่อเท้าได้รับการออกแรงก็เปรียบเหมือนต้นไม้ที่ใช้รากยึดเกาะอยู่ถึงพื้นดิน และคล้ายกับการตอกเสาเข็มซึ่งตอกลึกลงไปๆทำให้เกิดมีอาการบีบนวดเลือดลมที่บริเวณเท้า แล้วส่งกระจายออกไปทั่วร่างกาย เมื่อเป็นเช่นนี้ กล้ามเนื้อ ผิวหนัง กระดูกไขข้อ ก็จึงไม่ ยากที่จะแก้ไขได้
ดังนั้นกายบริหารแกว่งแขน จึงมีประสิทธิภาพในการบำบัดโรคภัยเรื้อรังและร้ายแรงต่างๆ ได้อย่างเกินความคาดฝันทีเดียว
ประวัติความเป็นมาของ
"กายบริหารแกว่งแขน"
เหตุใดการบริหารแกว่งแขนจึงสามารถบำบัดโรคต่างๆได้
หลักสำคัญพื้นฐานของกายบริหารแกว่งแขน
เคล็ดวิชา ๑๖ ประการ
ของกายบริหารแกว่งแขน
คำอธิบายเคล็ดวิชา ๑๖
ประการ ของกายบริหารแกว่งแขน
เคล็ดลับพิเศษของกายบริหารแกว่งแขน
การแกว่งแขนกับการเปลี่ยนแปลงของชีพจร
กายบริหารแกว่งแขน
เพื่อรักษาโรคอัมพาต
กายบริหารแกว่งแขนเพื่อพิชิตโรคมะเร็ง
กายบริหารแกว่งแขนรักษาโรคตับ
กายบริหารแกว่งแขน
กับการรักษาโรคตา
แนะนำอีก 2 เคล็ดวิชาในตำนาน ที่น่าสนใจ
- ตำรายืดหดเส้นเอ็น
ล้างพิษเพิ่มไขกระดูก
โดย : ท่านปรมจารย์ตักม้อโจวซือ (พระโพธิธรรมมหาเถระ)
- พลังโอสถทิพย์
สายปัจฉิม : สำนักเต๋าประเทศจีน