สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
ภาวะวิกฤตทางสังคมไทย
ในปัจจุบันสังคมไทยอยู่ในภาวะวิกฤตหรือวิปริต
เพราะความไม่สมดุลของการพัฒนาที่ทำให้เกิดการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน
ความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุที่ทำให้คนตกเป็นทาสของวัตถุนิยม (materialism)
และบริโภคนิยม (consumerism) มีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น เห็นแก่ผู้อื่นน้อยลง
ค่านิยมของสังคมได้เปลี่ยนแปลงไป
การพัฒนาประเทศไทยในระยะ 30 ปีผ่านมา แม้เศรษฐกิจจะเจริญก้าวหน้า
ประชาชนมีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น แต่ปัญหาสังคมก็มีมากขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้น เช่น
ปัญหามลภาวะเป็นพิษ ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ปัญหาเยาวชน ปัญหาครอบครัว ปัญหายาเสพติด ปัญหาโรคเอดส์
ปัญหาความเสื่อมโทรมในด้านศีลธรรม จริยธรรม และค่านิยม
คนมีความเห็นแก่ตัวมากขึ้นเห็นแกผู้อื่นน้อยลง
ปัจจุบันเราอยู่ในโลกของยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งเป็นโลกที่ไร้พรมแดน
เป็นโลกที่มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมากมายและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
แต่ก็เน้นความเจริญรุ่งเรืองทางด้านวัตถุ
แต่ด้านจิตใจหาได้รุ่งเรืองไปตามความเจริญของโลกไม่
ในสมัยก่อนความเจริญด้านจิตใจรุ่งเรืองเหนือความเจริญด้านวัตถุ
แต่ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ความรุ่งเรืองด้านวัตถุเหนือความเจริญด้านจิตใจ
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ผู้มีชื่อเสียงของโลก
ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องวิทยาศาสตร์และศาสนาว่า
"วิทยาศาสตร์ที่ปราศจากศาสนาเป็นความพิการ ศาสนาที่ปราศจากวิทยาศาสตร์เป็นการตาบอด"
ในปัจจุบันโลกเรามีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แต่ความสนใจในเรื่องศาสนาได้น้อยลง ศาสนาได้ถูกละเลย
บางคนยังมีทัศนคติที่ผิดและไม่ดีต่อศาสนา เห็นว่าศาสนาเป็นยาเสพติด
เป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศ บางคนก็นับถือศาสนาด้วยความเชื่อที่งมงาย
ด้วยความคลั่งศาสนา ไม่ใช่ด้วยความเคร่งศาสนา
ปราศจากเหตุผลและปัญญาตามหลักวิทยาศาสตร์ สงคมของเราในปัจจุบันจึงเป็นสังคมที่พิการ
สำหรับการไม่มีศาสนา และเป็นสังคมที่ตาบอด
สำหรับการนับถือศาสนาอย่างงมงายปราศจากเหตุผลและปัญญา
ในปัจจุบันค่านิยมบางอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป
ก่อนนี้สังคมเคยยกย่องคนที่มีคุณธรรม คนที่ประพฤติผิดศีลธรรม ทุจริตคดโกง
จะถูกประณามและไม่มีใครอยากคบหาด้วย แต่ในปัจจุบันนี้ สังคมกลับยกย่องคนที่มีเงิน
คนที่มีตำแหน่งสูง มีอำนาจวาสนา มีชื่อเสียง แม้ว่าคนเหล่านั้นจะประพฤติผิดศีลธรรม
ได้เงินมาโดยทางทุจริต
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับค่านิยม มีข้อความดังนี้
"ในบ้านเมืองของเราทุกวันนี้มีเสียงกล่าวกันว่าความคิดจิตใจของคนเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อม ความประพฤติที่เป็นความทุจริตหลายอย่างมีทีท่าที่จะกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปพากันยอมรับและสมยอมให้กระทำได้เป็นธรรมดา สถานการณ์เช่นนี้ ย่อมทำให้วิถีชีวิตของแต่ละคนมืดมัวลงไป เป็นปัญหาใหญ่ที่เหมือนกระแสคลื่นอันไหลบ่าเข้ามาท่วมทั่วไปหมด จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการช่วยกันฝืนคลื่นที่กล่าวนั้น"
"การทำสิ่งที่ดีงามนั้นไม่ใช่ของที่พ้นสมัยหรือน่ากระดากอาย หากเป็นของที่ทุกคนทำได้ไม่ยาก และให้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า เพราะความดีนั้นทรงค่าและทรงผลดีอยู่ตลอดกาลมิได้เปลี่ยนแปลง มีแต่ค่านิยมในความดีเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง"
ในสัมคมยุคโลกาภิวัตน์ ปรากฏว่ามีการฆ่าฟันกันมากขึ้น มีการเบียดเบียนกันมากขึ้น มีการทำผิดและทำชั่วมากขึ้น คนเป็นโรคเครียดและโรคประสาทมากยิ่งขึ้น การฆ่าตัวตายเพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมทั้งคนหนุ่มสาว จึงมีผู้สงสัยว่ายุคนี้เป็นยุคโลกาภิวัตน์จริงหรือ หรือว่าเป็นยุคโลกาพิบัติหรือโลกาวิบัติ ซึ่งจะนำไปสู่โลกาวินาศ
กระแสโลกาภิวัตน์เป็นกระแสโลกและกระแสทางวัตถุนิยม ทำให้คนตกเป็นทาสของวัตถุนิยมและบริโภคนิยม ที่เรียกว่าสามิสสุข มีความเห็นแก่ตัวมากยิ่งขึ้น เห็นแก่ผู้อื่นน้อยลง ขาดความเอื้ออาทรและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เห็นความสำคัญของศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ในที่สุดกระแสโลกาภิวัตน์จะนำสังคมไปสู่โลกาพิบัติหรือโลกาวินาศในที่สุด
ในท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ เราจะต้องช่วยกันสร้างกระแสธรรม หรือกระแสธรรมาภิวัตน์หรือธรรมานุวัตร ให้เข้มแข็งและแผ่กระจายให้กว้างขวาง นอกจากส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ซึ่งเป็นเรื่องของนามธรรมเกี่ยวกับความคิด จิตใจ และพฤติกรรม จิตใจซึ่งเป็นนามธรรม เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ก็มีบทบาทที่สำคัญในการกำหนดความคิดและพฤติกรรมของคน จิตใจจึงควรได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษ หากจิตใจไม่ได้รับการพัฒนา การพัฒนาในด้านต่าง ๆ ย่อมไม่ประสบผลสำเร็จ ตามคำกล่าวที่ว่า "จะพัฒนาอะไรก็ติด ถ้าจิตไม่พัฒนา"
ในขณะนี้ ความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุก้าวหน้าไปกว่าความเจริญทางจิตใจมาก โลกจึงมีแต่ความมั่งคั่งทางจิตใจ (material wealth) แต่ขาดแคลนความมั่งคั่งทางจิตใจ (spiritual wealth) จึงทำให้การพัฒนาขาดความสมดุล ความยั่งยืน ก่อให้เกิดปัญหาสังคมที่มากขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้นอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องส่งเสริมกระแสธรรมนุวัตรและพุทโธโลยี ให้มีความเจริญก้าวหน้าควบคู่กับกระแสโลกาภิวัตน์ และเทคโนโลยี
ภาวะสังคมในสหรัฐอเมริกา
ภาวะวิกฤตทางสังคมไทย
วิกฤตสังคมไทยยุคโลกาภิวัตน์และทางออก
การขัดเกลาทางสังคม