ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
ทฤษฎีการสร้างพลังอำนาจ
(Empowerment Theories)
บทสรุป
ทฤษฎีการสร้างพลังอำนาจเป็นประโยชน์ในการให้พื้นฐานเชิงทฤษฎีที่บ่งบอกว่า การสังคมสงเคราะห์เป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมทางสังคม ความเข้มแข็งของมนุษย์และการรอดพ้นจากการกดขี่ ทฤษฎีสตรีนิยมให้ฐานคิดที่ลึกซึ่งกับการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ ถึงแม้ว่า การสร้างพลังอำนาจในชาวเกย์และเลสเบี้ยนยังได้รับความสนใจน้อย พวกเขาและเธอก็ได้รับการยอมรับในด้านการศึกษาและการปฏิบัติงานในระดับหนึ่ง ทฤษฎีการสร้างพลังอำนาจในการสังคมสงเคราะห์เป็นทฤษฎีที่เน้นการกระทำจริง งานของจูดิธ ลี บาร์บาร่า โซโลมอน และลอเรน กิวเทียร์เร่ซ์ สะท้อนให้เห็นว่า ทฤษฎีและการปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้
ทฤษฎีการสร้างพลังอำนาจจะเป็นที่ดึงดูดใจเป็นพิเศษ สำหรับนักสังคมสงเคราะห์ที่มองว่างานของตนคือการส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคมให้กับประชาชนผู้ตกขอบและถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบ รวมทั้งดึงดูดใจกับผู้ที่สนใจการทำงานเพื่อพิทักษ์สิทธิให้กับชาวเกย์และเลสเบี้ยน ในขณะที่วงการศึกษาและวิชาชีพต่างๆ กำลังให้ความสนใจกับการสร้างพลังอำนาจอย่างมาก ทฤษฎีการสร้างพลังอำนาจน่าจะเป็นแนวโน้มที่วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการนำไปปฏิบัติ การวิจัยและการพัฒนาองค์ความรู้
ประวัติความเป็นมา
หลักสำคัญของแนวคิด
การจำแนกแยกชั้นชน
การกดขี่เอารัดเอาเปรียบ
ทฤษฎีสตรีนิยม
ทฤษฎีการสร้างพลังอำนาจในเกย์และเลสเบี้ยน
ทฤษฎีการสร้างพลังอำนาจของวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ประเด็นร่วมสมัย
การให้นิยามความหมายของการให้ความช่วยเหลือ
ประเด็นวิจารณ์
พลังทางสังคม
วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ
ความสอดคล้องกับปัจเจก
กลุ่ม ครอบครัว องค์กร สถาบันและชุมชน
ความสอดคล้องกับค่านิยมและจรรยาบรรณของการสังคมสงเคราะห์
ปรัชญาที่ใช้ค้ำยันทฤษฎี
ประเด็นวิธีวิทยาและข้อมูลประจักษ์
บทสรุป