ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
แนวพระราชดำริเกี่ยวกับป่าไม้
- ปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกแผ้วถางและพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม
- ปลูกป่าบนภูเขาสูงเนื่องจากสภาพป่าบนเขาสูงทรุดโทรมซึ่งจะมีผลกระทบต่อลุ่มน้ำตอนล่าง
- ปลูกป่าต้นน้ำลำธารไม่มีคนบุกรุก อย่าให้คนเข้าไปตั้งหลักแหล่งใหม่ หากไม่มีคนก็ดีแล้ว อย่าได้นำเข้าไปอีก ปลูกป่าแซมบ้างในบางส่วนที่เสื่อมโทรม ในกรณีเขาสูง อาจจะใช้ไม้จำพวกที่มีเมล็ดทั้งหลายขึ้นไปปลูกบนยอดที่สูง เมื่อโตแล้วออกเมล็ด เมล็ดก็จะลอยตกลงมาแล้วงอกเองในที่ต่ำต่อไป เป็นการขยายพันธุ์โดยธรรมชาติ
- ในสภาพป่าเต็ง รัง ป่าเสื่อมโทรมนั้นความจริงไม่ต้องทำอะไร เพราะตอไม้ก็จะแตกกิ่งออกมาอีก ถึงแม้ต้นไม่สวยแต่ก็เป็นต้นใหญ่ได้ ตามพื้นที่ก็มีต้นไม้เล็ก ๆ หรือเมล็ดที่งอกงามขึ้นมาอีก อย่าให้ใครเข้าไปบุกรุกทำลายอีก ป่าก็จะกลับคืนสภาพได้
- วัชพืชที่คลุมพื้นที่อยู่อย่าเอาออก เพราะจะเป็นสิ่งป้องกันการเซาะพังทลายของหน้าดินเป็นอย่างดี และเก็บความชื้นไว้ได้ด้วย ถ้าจะปลูกแซมก็เพียงแต่เจาะวงกลมประมาณ 50 ซม. แล้วก็ปลูกต้นไม้วัชพืชที่อยู่รอบ ๆ ก็จะบังไพรกันแดดได้ด้วย โดยไม่ต้องทำที่กันแดดให้สิ้นเปลือง
- จำแนกสมรรถนะของที่ดินให้เหมาะสม ที่ดินที่สามารถทำประโยชน์ทางด้านเกษตรกรรมได้ ก็ให้ใช้ทำเกษตรกรรมและพื้นที่ใดไม่สามารถทำเกษตรกรรมได้ก็ให้มีการรักษาสภาพป่าไม้ โดยให้มีการปลูกป่า โดยใช้ไม้ 3 ชนิด ได้แก่ ไม้สำหรับใช้สอย ไม้ผล และไม้สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง
- การปลูกป่าธรรมชาติหรือปลูกป่าต้นน้ำลำธาร ควรศึกษาดูก่อนว่าพืชพันธุ์ไม้ดั้งเดิมมีอะไรบ้าง แล้วปลูกซ่อมแซมตามรายการชนิดต้นไม้ที่ศึกษามาได้ ไม้ควรนำไม้แปลกปลอมต่างพันธุ์ ต่างถิ่นเข้ามาปลูก โดยยังไม่ได้ศึกษาอย่างแน่ชัดเสียก่อน อย่างไรก็ตามในพื้นที่บางพื้นที่อาจจะใช้ไม้โตเร็วที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย เช่น ต้นยางพารา ปลูกเป็นต้นไม้นำก่อนก็ได้
- ให้ชาวบ้านร่วมกิจกรรมตั้งแต่ต้น และควรมีประโยชน์จากกิจกรรมด้วย เช่น ให้เพาะกล้าแล้วซื้อจากเขาแทนที่จะต้องผลิตต้นกล้าภายในพื้นที่ของตนเองแล้ว ทางราชการหรือเอกชนไปซื้อจากชาวบ้านให้ชาวบ้านมีรายได้ด้วย
- ปลูกป่าเพื่อให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยให้ราษฎรในท้องที่นั้น ๆ เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจให้ราษฎรเห็นความสำคัญของป่าและการปลูกป่า
- อย่าได้ใช้ยาฆ่าวัชพืชหรือยาฆ่าหญ้ามาใช้เป็นอันขาด เพราะร้ายแรงมาก นอกจากฆ่าหญ้าแล้วยังตกค้างเป็นพิษอยู่ในพื้นดินเป็นเวลานาน
- วัชพืชขนาดใหญ่และหนา เช่น ดงหญ้าคา คงต้องกำจัดบ้างก่อนปลูกป่า แต่วัชพืชใน ป่าเต็ง รัง ในป่าต้นน้ำลำธารไม่ต้องขจัดออก
- ในป่าต้นน้ำลำธารไม่ควรให้มีสิ่งปลูกสร้างอะไรทั้งสิ้น ควรรักษาควบคุมให้ได้
- ปลูกป่าเสริมธรรมชาติ เป็นการเพิ่มที่อยู่อาศัยแก่สัตว์ป่า
- ควรปลูกแฝกเพื่อป้องกันดินพังทลายพร้อมทั้งรักษาหน้าดิน และสร้าง Top Soil เก็บความชุ่มชื้นพร้อมกับการปลูกป่า อาจจะปลูกจากร่องน้ำขึ้นไป และร่องน้ำเองอาจจะปลูกเป็นรูปตัว V คว่ำ เพื่อชลอน้ำและกระจายความแรงออกไปพร้อมทั้งดักตะกอนไว้ได้ด้วย
- การปลูกป่าควรศึกษาพื้นที่พร้อมระบบเรื่องน้ำด้วย ในพื้นที่ภูเขาควรจะสร้างฝายแม้ว หรือ Check Dam เพื่อกักน้ำไว้สร้างความชุ่มชื้นให้ยาวนานขึ้น และเป็นระบบกันไฟเปียกด้วย ดังตัวอย่างที่ศูนย์ศึกษาฯ ห้วยฮ่องไคร้ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
***รวบรวมโดย นายเมธี ศรีบุญเรือง นักวิชาการป่าไม้ 7ว กลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16