ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการถ่ายภาพ

ประเภทของวิธีการวัดแสง

วิธีการวัดแสงสามารถกระทำได้ 2 วิธี คือ

1. การวัดแสงสะท้อน (Reflected metering)
2. การวัดแสงตรง (Incident metering)

1. การวัดแสงสะท้อน (Reflected metering) เป็นการวัดแสงที่สะท้อนออกจากวัตถุที่ต้องการถ่ายภาพ ซึ่งมีวิธีการวัดอยู่ 3 แบบ คือ

  1. แบบวัดเฉพาะส่วนตรงกลาง (Center Spot) แบบนี้จะวัดแสงเฉพาะในเนื้อที่เล็ก ๆ ตามต้องการ และจะวัดได้ถูกต้องแม่นยำมาก แต่ถ้าหากไม่เข้าใจวิธีการวัด หรือไม่ชำนาญ อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย เครื่องวัดแสงเฉพาะอาจจะวัดเพียง 1 หรือ 2 องศา เรียกว่าเครื่องวัดแสงเฉพาะจุด (Spot Reading) ช่วยให้งานการถ่ายภาพมีความสะดวกสบายขึ้นมาก
  2. แบบเฉลี่ยแสงทั่วทั้งภาพ (Full Area Averaging) แบบนี้จะวัดทุกจุดในภาพ ซึ่งแต่ละจุดจะสะท้อนแสงไม่เท่ากันเช่นจุดที่สว่างมาก ส่วนจุดที่ดำมืดจะสะท้อนแสงออกมาได้น้อย แต่เครื่องวัดแสงชนิดนี้จะเฉลี่ยปริมาณแสงทั่วทั้งบริเวณ แล้วบอกปริมาณที่เฉลี่ยได้เพื่อนำไปใช้ในการตั้งความเร็วชัตเตอร์ และหน้ากล้องต่อไป บางครั้งการวัดแสงเฉลี่ยนี้จะเกิดข้อผิดพลาดได้ โดยเฉพาะการถ่ายภาพที่มีฉากหลังสว่างมาก ๆ หรือภาพคนหรือวัตถุที่อยู่ในร่ม แต่มีฉากหลังที่สว่างไสวกว่าภาพวัตถุ หรือคนอาจจะมืดในขณะที่ฉากหลังสว่างพอดี ดังนั้นบางครั้งจึงต้องวัดแสงเฉพาะจุดที่เราต้องการให้แสงพอดีโดยการเข้าไปวัดใกล้ ๆ เฉพาะส่วนที่ต้องการ เท่านั้น
  3. แบบเฉลี่ยแสงส่วนกลางภาพ (Center Wighted) แบบนี้จะวัดแสง โดยการผสมกันระหว่างวิธีการวัดเฉพาะส่วนกับวิธีเฉลี่ยแสงทั่วทั้งภาพเข้าด้วยกันซึ่งค่อนข้างมีความแม่นยำสูง ถูกต้องมาก วิธีนี้ใช้กับกล้องรุ่นใหม่ ๆ แบบนี้อาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อต้องการวัดแสงบางส่วนโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การวัดแสงสะท้อนนี้อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายเพราะวัตถุมีผิวต่างกันก็สะท้อนต่างกันได้ ดังนั้นจึงมีแผ่นกระดาษสีเทา 18 เปอร์เซนต์ (Gray Card) เพื่อช่วยการวัดแสงที่แม่นยำ เพียงแต่ใช้เครื่องวัดแสงวัดการสะท้อนของกระดาษนี้เท่านั้นก็สามารถหาความเร็วชัตเตอร์ และหน้ากล้องได้ถูกต้อง

2. การวัดแสงตรง (Incident metering) เป็นการวัดปริมาณของแสงที่ไปตกกระทบวัตถุถ่ายภาพนั้น ดังนั้นในบางครั้งเรียกการวัดแสงชนิดนี้ว่าการวัดแสงตกกระทบเครื่องวัดแสงที่ต้องการวัดแสงตกกระทบต้องอยู่ที่ตำแหน่งของวัตถุที่ต้องการถ่ายภาพ แล้วหันโดมพลาสติครูปครึ่งวงกลม (Spherical Diffu-ser) รับแสงจากแหล่งกำเนิดแสง เราก็จะได้ค่าของแสงที่ไปตกกระทบและนำค่านี้ไปใช้ในการหาความเร็วชัตเตอร์และขนาดรูรับแสงต่อไปสำหรับจอภาพในกล้อง 35 มม. ที่ใช้ส่องดูภาพ (View Finder) เพื่อดูภาพจะประกอบภาพอย่างไร และวัดแสงได้เท่าใด แบ่งออกเป็นลักษณะดังนี้

  1. จอภาพแบบไม่มีเครื่องวัด (Meterless) เป็นจอภาพที่ไม่มีเครื่องหมายสัญญาณใด ๆ เลย ดังนั้นต้องใช้เครื่องวัดแสงภายนอกเพื่อหาความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสงหรืออาจใช้การคาดคะเนก็ได้
  2. จอภาพแบบบอกค่าแสงด้วยเข็มสัมพันธ์ (Match Needle) เมื่อมองที่ช่องมองภาพจะสังเกตเห็นเข็ม และเครื่องหมายวงกลมอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของจอภาพ การวัดแสงและปรับค่าแสงให้พอดี โดยการปรับแสงและวงกลมให้ซ้อนทับกัน นั่นคือปรับเปลี่ยนหน้ากล้อง และความเร็วชัตเตอร์จนกว่าเข็ม และวงกลมจะทับกันก็จะได้แสงที่ถูกต้องอย่างไรก็ตามในจอภาพจะไม่มีตัวเลขบอกเอฟสต๊อปและความเร็วชัตเตอร์ ผู้ใช้กล้องต้องคอยดูจากตัวเลนส์และตัวกล้องว่าใช้เอฟสต๊อปอะไร และความเร็วของชัตเตอร์ใด
  3. จอภาพแบบบอกค่าแสงด้วยเข็มสัญญาณตรงกลาง (Center Needle) แบบนี้ทำงานเหมือนกับแบบที่สอง แต่แทนที่เข็มจะซ้อนทับวงกลมเข็มจะถูกปรับให้อยู่กึ่งกลางช่องเหมือนช่องหน้าต่างที่อยู่ด้านใดด้านหนึ่งของจอภาพ แบบนี้ใช้ง่าย แต่ช่องและเข็มจะมองเห็นได้ยาก ในสภาพที่แสงน้อย ๆ
  4. จอภาพแบบบอกค่าแสงด้วยจุดสัญญาณไฟ (Center Diode) แบบนี้มีสัญญาณไฟอยู่ห่างจอภาพ 3 จุด การวัดแสงที่พอดีโดยการปรับหน้ากล้องและความเร็วชัตเตอร์ให้สัญญาณไฟสว่างที่จุดกึ่งกลาง แบบนี้ใช้ได้ในสภาพแสงสลัว ๆ แต่มีข้อเสียตรงที่เปลืองแบตเตอรี่ และถ้าเกิดการคลาดเคลื่อนเล็กน้อย สัญญาณไฟอาจจะไม่เปลี่ยนได้
  5. จอภาพแบบบอกตัวเลขความเร็วชัตเตอร์ และขนาดหน้ากล้อง แบบนี้มีจุดสัญญาณไฟ หรือตัวเลข อย่างหนึ่งอย่างใดช่วยให้สามารถเลือกตั้งความเร็วชัตเตอร์ และขนาดหน้ากล้องได้โดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ ดังนั้นจึงเป็นระบบที่ให้ความสะดวกสบายไม่น้อยทีเดียว
  6. จอภาพแบบบอกเข็มสัญญาณบอกระดับความเร็วชัตเตอร์ แบบนี้มีตัวเลขบอกระดับความเร็วชัตเตอร์ และเข็มสัญญาณอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของจอภาพ ใช้กับกล้องระบบปรับความเร็วชัตเตอร์โดยอัตโนมัติ มีเข็มชี้บอกตัวเลข ความเร็วที่กล้องปรับระดับความเร็วชัตเตอร์ในสภาพแสงนั้น ๆ แบบนี้ใช้ง่ายหากแต่มีข้อเสียตรงที่ตัวเลข และเข็มมองเห็นได้ยาก ในสภาพที่มีแสงน้อย
  7. จอภาพแบบเข็มสัญญาณบอกหน้ากล้อง แบบนี้มีระบบการทำงานเหมือน แบบที่ 6 แต่มีตัวเลขบอกขนาดรูรับแสง หรือเอฟสต๊อป และเข็มสัญญาณข้างๆ จอภาพใช้กับกล้องระบบปรับหน้ากล้องอัตโนมัติแบบนี้ใช้ง่ายและมีข้อเสียเช่นเดียวกันกับแบบที่ 6
  8. จอภาพแบบจุดสัญญาณไฟบอกระดับความเร็วชัตเตอร์ แบบนี้มีระบบการทำงานเหมือน แบบที่ 6 แต่แทนที่จะใช้เข็มบอกความเร็วชัตเตอร์ที่กำลังใช้ ปกติจะใช้จุดสัญญาณไฟกำกับอยู่ในตัวเลขความเร็วชัตเตอร์แทน ใช้ในกล้องระบบปรับความเร็วชัตเตอร์อัตโนมัติมีข้อดีตรงที่สามารถมองเห็นได้ง่าย ในสภาพที่มีแสงน้อยแต่เปลืองไฟแบตเตอรี่ และถ้าหากเกิดการคลาดเคลื่อนเล็กน้อยอาจทำให้สัญญาณไฟค้าง หรือไม่เปลี่ยนเลยก็ได้
  9. จอภาพแบบบอกจุดสัญญาณไฟบอกหน้ากล้อง แบบนี้ใช้กับกล้องระบบที่ปรับขนาดหน้ากล้องโดยอัตโนมัติ ปกติจะใช้จุดสัญญาณไฟกำกับอยู่ตามตัวเลข ขนาดของหน้ากล้อง มีข้อดีกับข้อเสียเช่นเดียวกับแบบที่ 8
  10. จอภาพแบบรายละเอียดอื่น ๆ ในกล้องบางรุ่นโดยเฉพาะรุ่นใหม่ ๆ อาจมีเครื่องหมายสัญญาณพิเศษอื่น ๆ บอกการใช้ระบบต่าง ๆ ไว้บนจอภาพด้วย เช่น เครื่องหมายบอกการใช้ระบบธรรมดา ระบบอัตโนมัติ ความพร้อมของแฟลชอัตโนมัติหรือ อื่น ๆ แล้วแต่รุ่นของกล้อง

» การเก็บข้อมูลทางมนุษย์ศาสตร์ และสังคมศาสตร์ด้วยภาพถ่าย

» พยานอันซื่อสัตย์

» บทบาทของภาพถ่าย

» ภาพที่ควรบันทึกเป็นหลักฐาน

» ข้อเสนอแนะการบันทึกข้อมูลด้วยภาพถ่าย

» คุณลักษณะของภาพถ่ายที่ดี ทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

» ชนิดของกล้องถ่ายรูป

» ส่วนประกอบที่สำคัญของกล้องถ่ายรูป

» อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับกล้อง

» การใช้และการเก็บรักษากล้องถ่ายรูป

» การพิจารณาเลือกกล้องถ่ายรูปแบบเลนส์เดี่ยว

» การบรรจุฟิล์มเข้ากล้อง

» ลักษณะของเลนส์ของกล้องถ่ายรูป

» ชนิดของเลนส์

» การใช้และการระมัดระวังรักษาเลนส์

» ฟิล์ม (Film)

» โครงสร้างของฟิล์ม

» ชนิดของฟิล์ม

» ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อฟิล์ม

» ประเภทของแฟลช

» แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้กับกล้องSLR

» การคำนวนหาแฟลชไกด์นัมเบอร์

» แฟลชอิเล็กทรอนิกส์

» เทคนิคการถ่ายภาพด้วยแฟลช

» ฟิลเตอร์ (Filter)

» ทฤษฎีสีของแสง

» แสงสีและฟิลเตอร์

» ฟิลเตอร์หรือแว่นกรองแสง

» ชนิดของฟิลเตอร์

» วิธีระมัดระวังรักษาฟิลเตอร์

» ประเภทของชัตเตอร์

» ความเร็วของชัตเตอร์

» การปรับความเร็วชัตเตอร์

» ความสัมพันธ์ของชัตเตอร์กับขนาดรูรับแสง

» การหาค่าของแสง

» เซลล์วัดแสงชนิดต่าง ๆ

» ประเภทของวิธีการวัดแสง

» การใช้อุปกรณ์อื่นวัดแสงแทนเครื่องวัดแสง

» การจัดองค์ประกอบภาพ

» การเลือกองค์ประกอบพื้นฐานของการจัดภาพ

» หลักการวิจารณ์ภาพถ่าย

» การล้างฟิล์ม

» เทคนิคพิเศษทางการถ่ายภาพและทำภาพ

» เทคนิคการทำภาพ

» เทคนิคการทำโฟโต้สเก๊ตชิ่ง

» การสำเนาภาพ

» วิธีใช้แท่นถ่ายสำเนา

» การนำภาพออกแสดง

» หลักการถ่ายภาพให้ได้ภาพสีที่ดี

» วิธีการถ่ายภาพให้ได้ภาพที่คมชัด

» หลักในการถ่ายภาพกลางแจ้ง

» เสนอแนะงานถ่ายภาพ

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย