ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
การหาค่าของแสง
(Metering)
ชนิดของเครื่องวัดแสงในกล้องถ่ายรูป
นักถ่ายภาพใช้เครื่องวัดแสงเพื่อให้ได้ค่าของแสงที่ถูกต้อง
เพื่อใช้ตั้งความเร็วชัตเตอร์และกำหนดรูรับแสง หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ
การให้แสงที่ถูกต้องหากแบ่งชนิดของเครื่องวัดแสงและกล้องถ่ายภาพแล้วพอแยกได้ดังนี้
คือ
- ระบบธรรมดาไม่มีเครื่องวัดแสง เป็นแบบที่เริ่มแรก
โดยไม่มีเครื่องวัดแสงอยู่ในตัวกล้องเลยผู้ใช้ต้องหาเครื่องวัดแสงแบบมือถือ
(Hand Held Meter) กำหนดความเร็วชัตเตอร์และขนาดรูรับแสง
- ระบบมีเครื่องวัดแสงสัมพันธ์กับระบบกล้องบางส่วนกล้องชนิดนี้
จะทำงานเมื่อตั้งความเร็วชัตเตอร์แล้วเครื่องวัดแสงภายในกล้องจะบอกขนาดหน้ากล้องผู้ใช้ต้องปรับขนาดหน้ากล้องที่ตัวเลนส์ตามที่เครื่องวัดแสงกำหนด
การวัดแสงแบบนี้เป็นแบบไม่ผ่านเลนส์ และมีใช้กับกล้องรุ่นเก่า ๆ
- ระบบปรับความเร็วชัตเตอร์อัตโนมัติ
แบบนี้ผู้ใช้จะเลือกตั้งขนาดหน้ากล้องและกล้องจะเลือกปรับความเร็วชัตเตอร์โดยอัตโนมัติให้สัมพันธ์กับขนาดของหน้ากล้องที่เลือกใว้
ระบบนี้ผู้ใช้ต้องมีความคุ้นเคยบ้างและต้องระมัดระวังความเร็วชัตเตอร์ที่ช้า
เพราะจะได้ภาพไหวพร่ามัว
- ระบบมีเครื่องวัดแสงแต่ไม่สัมพันธ์กับกล้อง แบบนี้เหมือนแบบที่หนึ่ง
หากแต่มีเครื่องวัดแสงด้วยมือมาติดไว้บนตัวกล้องอ่านขนาดหน้ากล้องและความเร็วชัตเตอร์ได้ที่ช่องบอก
แล้วค่อยตั้งค่าต่าง ๆ ตามที่ได้นั้นกล้อง 35 มม.
ที่ผลิตจากประเทศรัสเซียส่วนมากจะมีลักษณะนี้
- ระบบมีเครื่องวัดแสงผ่านเลนส์ และสัมพันธ์กับระบบกล้อง
ระบบนี้มีระบบวัดแสงอยู่ในตัวกล้องอ่านแสงที่ผ่านเลนส์เข้าไป
จะวัดแสงได้ถูกต้องโดยการปรับความเร็วชัตเตอร์และขนาดหน้ากล้องให้เข็มสัญญาณหรือไฟสัญญาณต่าง
ๆ เกิดความสัมพันธ์กันพอดี
ระบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบระบบอัตโนมัติที่ผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรเลย
- ระบบหน้ากล้องโดยอัตโนมัติ
เป็นแบบผู้ที่ใช้เลือกตั้งความเร็วชัตเตอร์และกล้องจะเลือกปรับขนาดหน้ากล้องให้สัมพันธ์กันโดยอัตโนมัติ
เป็นระบบที่ใช้ง่าย แต่ต้องใช้กับเลนส์เทเลโฟโต้แบบสะท้อนระยะ(Mirror lens)
และกับท่อต่อเลนส์หรือเบลโลว์ (Bellow) หรือใช้กับกล้องจุลทัศน์
- ระบบอัตโนมัติผสม
เป็นแบบที่เลือกใช้ระบบปรับความเร็วชัตเตอร์อัตโนมัติหรือระบบปรับหน้ากล้องโดยอัตโนมัติอย่างใดอย่างหนึ่ง
หรือได้ทั้งสองอย่าง บางรุ่นมีระบบปรับตั้งโปรแกรม
เพื่อให้ทำงานโดยอัตโนมัติพร้อม ๆ กัน
และอาจมีระบบธรรมดาอยู่ด้วยก็ได้เป็นกล้องที่มีระบบต่าง ๆ
มากมายจนบางครั้งทำให้เกิดความสับสนเหมาะ
- ระบบโปรแกรมอัตโนมัติ เป็นระบบที่กล้องเลือกปรับความเร็วชัตเตอร์
และขนาดหน้ากล้องทั้งสองอย่างให้สัมพันธ์กันโดยอัตโนมัติ รับแสงพอดี
เหมาะสำหรับการถ่ายภาพฉับพลัน ผู้ใช้อาจชอบ และสนุกในตอนแรก
เพราะไม่ต้องใช้ความคิด เพราะกล้องควบคุมระบบต่าง ๆ
ให้หมดแต่อาจเบื่อหน่ายเมื่อใช้ไปนาน ๆ
แบบนี้เหมาะกับนักถ่ายภาพที่เพิ่มเริ่มเรียนการถ่ายภาพ
- ระบบอัตโนมัติตายตัวอย่างเดียว เป็นระบบที่กำหนดไว้ตายตัวเพียงอย่างเดียว
ของความเร็วชัตเตอร์เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นถ่ายภาพ
เพื่อเพียงแต่ให้ได้ภาพเท่านั้น การใช้ง่ายสดวกมีช่วงการปรับแสงอัตโนมัติกว้าง
- กล้องที่ใช้ระบบธรรมดาได้ทุกระดับ
เป็นกล้องอัตโนมัติที่สามารถตั้งความเร็วชัตเตอร์หรือขนาดหน้ากล้องในระบบธรรมดาได้ทุกระดับด้วยตามค่าแสงที่เครื่องวัดแสงอ่านได้
ช่วยให้การควบคุมการถ่ายภาพได้ตามต้องการจึงเป็นระบบอัตโนมัติที่ช่างภาพมืออาชีพนำมาใช้มาก
- ระบบปรับแสงชดเชยอัตโนมัติ กล้องอัตโนมัติ จะปรับให้รับแสงพอดีอย่างเดียว
เมื่อใช้ ระบบปรับแสงชดเชยอัตโนมัติ จะช่วยควบคุมให้ภาพรับแสงมากน้อยต่างกันได้
ประมาณ 2 สต๊อป เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพในที่ต่าง ๆ กันทั่วไป
เมื่อเลิกใช้ต้องตั้งกลับตำแหน่งธรรมดา
- ระบบบันทึกความจำแสง เป็นระบบที่ช่วยให้การถ่ายภาพย้อนแสงได้ผลดีโดยวิธีการวัดแสงสิ่งที่ต้องการถ่ายในระยะใกล้ ๆ แล้วกดปุ่มบันทึกความจำไว้ ระบบความจำแสงก็จะ บันทึกความจำของทิศทางแสงนั้น ๆ เมื่อถอยออกมาเลือกมุมภาพตามที่ต้องการแล้วถ่ายภาพก็จะรับแสงได้พอดีในทิศทางของแสงที่ได้วัดไว้แล้วนั้น
เครื่องวัดแสง
» การเก็บข้อมูลทางมนุษย์ศาสตร์ และสังคมศาสตร์ด้วยภาพถ่าย
» ข้อเสนอแนะการบันทึกข้อมูลด้วยภาพถ่าย
» คุณลักษณะของภาพถ่ายที่ดี ทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
» ส่วนประกอบที่สำคัญของกล้องถ่ายรูป
» การใช้และการเก็บรักษากล้องถ่ายรูป
» การพิจารณาเลือกกล้องถ่ายรูปแบบเลนส์เดี่ยว
» ลักษณะของเลนส์ของกล้องถ่ายรูป
» การใช้และการระมัดระวังรักษาเลนส์
» ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อฟิล์ม
» แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้กับกล้องSLR
» ความสัมพันธ์ของชัตเตอร์กับขนาดรูรับแสง
» การใช้อุปกรณ์อื่นวัดแสงแทนเครื่องวัดแสง
» การเลือกองค์ประกอบพื้นฐานของการจัดภาพ
» เทคนิคพิเศษทางการถ่ายภาพและทำภาพ
» หลักการถ่ายภาพให้ได้ภาพสีที่ดี