ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
ประเภทของชัตเตอร์
ชัตเตอร์เป็นกลไกที่สำคัญในการบังคับเพื่อกำหนดระยะเวลาของการเปิดปิดทางที่แสงจะผ่านไปกระทบกับฟิล์ม
ความไวในการเปิดและปิดชัตเตอร์เรียกว่าเวลาฉายแสง (Exposure Time)
แสงจะไปตกลงบนฟิล์มมากน้อยเท่าใด ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับชัตเตอร์
และอีกส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของรูรับแสง
โดยปกติชัตเตอร์แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1. ชัตเตอร์แบบกลีบ (Leaf
Shutter)
บางครั้งเรียกว่า ชัตเตอร์ ไดอะแฟรม (Diaphrgm) หรือ ชัตเตอร์แผ่น แบ่งออกเป็น
2 ประเภท คือ
- แบบมีแผ่นโลหะแผ่นเดียว (Single Blade) เป็นชัตเตอร์ที่อยู่หน้าเลนส์
ทำหน้าที่เปิด-ปิดหน้ากล้อง ปกติจะใช้ความเร็วได้ประมาณ 1/30 ถึง 1/50 วินาที
มักใช้กับกล้องราคาถูก
- แบบมีแผ่นโลหะหลายแผ่น (Mutli-blade) โดยทั่วไปจะติดตั้งให้อยู่ระหว่างเลนส์ (Between-lens Shutter) มีลักษณะเป็นแผ่นโลหะบาง ๆ หลาย ๆ แผ่น วางซ้อนกันเป็นกลีบ ยึดด้วยสปริงก่อนการเปิดปิดหน้ากล้องจะกระทำสองจังหวะ คือจังหวะแรก โดยต้องขึ้นชัตเตอร์ก่อนกดปุ่ม (Preset-Type) และจังหวะที่สอง เมื่อถูกกดปุ่มชัตเตอร์จะเปิดและปิดด้วยความเร็วสูง และคงที่ สามารถใช้ความเร็วได้ประมาณ 1/30 ถึง 1/125 วินาที สำหรับกล้องที่มีราคาถูก และประมาณ 1/500 วินาที สำหรับกล้องที่มีราคาแพงขึ้นและอาจถึง 1/1000 วินาที ก็ได้สำหรับกล้องในปัจจุบัน เพราะนอกจากใช้สปริงยึดตัวชัตเตอร์แล้ว ยังพัฒนามาใช้อิเล็กทรอนิคส์ (Electronic Shutter)ควบคุมได้ด้วย เพื่อเพิ่มความเร็วและลดความเร็ว โดยมีวงจรเวลาทำหน้าที่ควบคุม นอกจากนั้นยังมีการประวิงเวลาในการเปิด ปิดหน้ากล้อง ภายหลังที่กดชัตเตอร์แล้วประมาณ 5-15 วินาทีอีกด้วย ชัตเตอร์ชนิดนี้สัมพันธ์กับช่วงเวลาของความเข้มของแสงสูงสุดของแฟลชได้ดีอีกด้วย
ภาพการทำงานของชัตเตอร์แบบกลีบ
2. ชัตเตอร์แบบม่าน (Focal-Plane Shutter) หรือบางครั้งเรียกว่า ชัตเตอร์ระนาบโฟกัส
การทำงานของชัตเตอร์แบบม่าน
ชัตเตอร์ชนิดนี้ตั้งอยู่ภายในตัวกล้องด้านหลังของเลนส์ ในปัจจุบันแบ่งแยกเป็น 2 ประเภท คือ
- ชัตเตอร์ผ้าหน้าช่องภาพ ชัตเตอร์ชนิดนี้ทำด้วยผ้าชุบยางรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
หรืออาจทำด้วยโลหะผสมสองแผ่นเมื่อกดปุ่มปล่อยชัตเตอร์ม่านดำแผ่นแรกจะเคลื่อนที่ออก
ทำให้แสงตกกระทบฟิล์มได้แล้วม่านดำแผ่นที่สองจะเคลื่อนที่ตามแผ่นแรก
ระยะห่างของเวลาของการเคลื่อนที่นี้ สามารถปรับได้ตามความเร็วชัตเตอร์เพื่อเปิด
ปิดกั้นแสงตามแนวนอนหน้าช่องภาพ โดยทั่วไปจะทำงานสัมพันธ์กับแฟลชได้ไม่เกิน
1/60 วินาที และสามารถใช้กับเครื่องช่วยขับเคลื่อนฟิล์มอัตโนมัติ (Mator Drive)
ได้เร็วถึง 5 ช่องภาพต่อวินาที และใช้งานได้ทนทานที่สุด
- ชัตเตอร์โลหะช่องภาพ ชัตเตอร์ชนิดนี้ทำด้วยแผ่นโลหะบาง ๆ ทำหน้าที่เปิดปิดกั้นแสงตามแนวตั้งหน้าช่องภาพ โดยทั่วไปจะสัมพันธ์กับแฟลชได้เร็วถึง 1/125 วินาที แต่ในปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นให้สัมพันธ์กับไฟแฟลชได้เร็วมากกว่านี้กล้องรุ่นเก่าที่ใช้ระบบชัตเตอร์ชนิดนี้สามารถใช้กับเครื่องช่วยขับเคลื่อนฟิล์มอัตโนมัติได้เร็วเพียง 2 ช่องภาพต่อวินาที แต่ปัจจุบันได้พัฒนาให้ได้เร็วถึง 5 ช่องภาพต่อวินาที ในการกดปุ่มชัตเตอร์นั้น ในสมัยก่อนใช้ระบบกลไกที่ถือว่าเป็นมาตรฐาน มีใช้มานาน ลักษณะปุ่มกดจะมีรูเป็นเกลียว สำหรับต่อสาย ช่วยชัตเตอร์ทำงานโดยไม่ต้องอาศัยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เลย หากแต่ควบคุมการทำงานด้วยการเคลื่อนไหว แบบนาฬิกา ทำงานได้ทุก ๆ สภาวะอากาศ ในปัจจุบันได้พัฒนามาใช้ระบบแม่เหล็กไฟฟ้า และระบบไฟฟ้าซึ่งปุ่มกดจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเหมาะมือ และทำงานได้นุ่มนวลมีที่เสียบสายช่วยกดชัตเตอร์ที่อื่น และยังทำงานได้เที่ยงตรงที่สุดแต่ต้อง ระวังเรื่องพลังไฟฟ้าแบตเตอรี่ เพราะถ้าอ่อนลงจะทำให้การทำงานคลาดเคลื่อน หรือไม่ทำงานได้
» การเก็บข้อมูลทางมนุษย์ศาสตร์ และสังคมศาสตร์ด้วยภาพถ่าย
» ข้อเสนอแนะการบันทึกข้อมูลด้วยภาพถ่าย
» คุณลักษณะของภาพถ่ายที่ดี ทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
» ส่วนประกอบที่สำคัญของกล้องถ่ายรูป
» การใช้และการเก็บรักษากล้องถ่ายรูป
» การพิจารณาเลือกกล้องถ่ายรูปแบบเลนส์เดี่ยว
» ลักษณะของเลนส์ของกล้องถ่ายรูป
» การใช้และการระมัดระวังรักษาเลนส์
» ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อฟิล์ม
» แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้กับกล้องSLR
» ความสัมพันธ์ของชัตเตอร์กับขนาดรูรับแสง
» การใช้อุปกรณ์อื่นวัดแสงแทนเครื่องวัดแสง
» การเลือกองค์ประกอบพื้นฐานของการจัดภาพ
» เทคนิคพิเศษทางการถ่ายภาพและทำภาพ
» หลักการถ่ายภาพให้ได้ภาพสีที่ดี