ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้กับกล้อง SLR
แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้กับกล้อง SLR 35 มม . แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. แฟลชระบบธรรมดา
ปกติจะมีขนาดเล็กราคาไม่แพงใช้พลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ขนาด 1.5 โวลท์ จำนวน 2 หรือ 4
ก้อนให้ความสว่างพอสมควรใช้ถ่ายภาพ ในระยะห่างมากไม่ค่อยได้ผลนัก
ที่ตัวแฟลชจะมีตารางแนะนำขนาดของรูรับแสง
โดยตั้งเทียบกับความไวแสงของฟิล์มและระยะห่างในการถ่ายภาพ แฟลชชนิดนี้เหมาะ
ในการนำติดตัวไปใช้ในงานที่ไม่ต้องการกำลังไฟฟ้าสว่างมากนัก
หรืออาจนำไปใช้เป็นแฟลชประกอบกับแฟลชตัวอื่นได้
2. แฟลชระบบอัตโนมัติ เป็นแฟลชที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน
มีหลายชนิดหลายแบบให้เลือกตามต้องการ และตามลักษณะการใช้งานตั้งแต่
ระดับมือสมัครเล่นจนถึงมืออาชีพแฟลชชนิดนี้จะปรับกำลังความสว่างของแสงโดยอัตโนมัติ
ให้พอดีกับระยะความห่างของแต่ละช่วง ระยะที่แฟลชกำหนดมาปกติจะ กำหนดมาประมาณ 3-4
ระยะ อาจใช้สีต่าง ๆ แทนช่วงระยะห่างของแต่ละช่วง
แฟลชชนิดนี้ทำงานด้วยระบบที่เรียกว่า ไธริสเตอร์ (Thyristor)
ซึ่งเป็นเซลล์ไวแสงทำหน้าที่อ่านปริมาณของแสงแฟลชที่ส่งออกไปกระทบกับวัตถุที่ถ่ายแล้ว
สะท้อนกลับมายังเซลล์ไวแสง เมื่อปริมาณที่ส่องออกไปพอดี
สวิทซ์ภายในระบบไธริสเตอร์ก็จะตัดกระแสไฟที่จ่ายไปยังไส้หลอดไฟแฟลชออกอย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติ
จะทำให้ปริมาณแสงที่ส่องออกไปพอดีกับขนาดของรูรับแสง ที่กำหนดไว้และที่ตัวประจุไฟ
(Capacitor) ในตัวแฟลชจะมีกำลังไฟสำรองไว้ตลอดเวลา
สามารถให้แสงต่อเนื่องกันอย่างรวดเร็วและมากครั้งกว่าแฟลชระบบธรรมดา
นอกจากนั้นแฟลชชนิดนี้ยังมีระบบการให้แสงแบบธรรมดาเหมือนแบบแรกได้ด้วย
แฟลชชนิดนี้แบ่งตามขนาดได้ 3 ชนิด คือ
- แฟลชขนาดเล็ก เป็นแฟลชที่มีลักษณะกระทัดรัด ใช้กับแบตเตอรี่ชนิด 1.5
โวลท์ 2 หรือ 4 ก้อน มีระบบอัตโนมัติที่ปรับความสว่างของแสง
ให้สัมพันธ์กับขนาดรูรับแสงที่กำหนดได้ประมาณ 2 ระดับ
มีไกด์นัมเบอร์เมื่อใช้ระบบธรรมดาระหว่าง 45-90
ต่อระยะเป็นฟุตกับฟิล์มที่มีความไวแสง 100 แฟลช
ประเภทนี้ส่วนมากจะใช้เสียบกับฐานแฟลชบนกล้องได้เลยโดยไม่ต่อสายเพราะเป็นระบบปุ่มสัมผัสบนฐาน
แฟลช (Hot Shoe) นอกจากนั้นอาจปรับหัวแฟลชให้ หันซ้าย - ขวา ก้มเงย
เพื่อการสะท้อนแสงได้ด้วย
- แฟลชขนาดกลาง เป็นแฟลชที่มีลักษณะการใช้งานกว้างขึ้น
มีระบบอัตโนมัติปรับความสว่างของแสงให้สัมพันธ์กับขนาดรูรับแสงที่กำหนดได้
ประมาณ 2-4 ระดับบางรุ่นอาจได้ถึง 6 ระดับ ใช้กับแบตเตอรี่ชนิด 1.5 โวลท์ 4 ถึง
6 ก้อน มีไกด์นัมเบอร์เมื่อใช้ระบบธรรมดาระหว่าง 80 -135
ต่อระยะเป็นฟุตกับฟิล์ม ที่มีความไวแสง 100 นอกจากสามารถปรับ ซ้าย - ขวา ก้มเงย
หัวแฟลชเพื่อการสะท้อนแสงและมีระบบปุ่มสัมผัสบนฐานแฟลช (Hot Shoe)
แล้วยังมีสวิทซ์ที่ปรับเปลี่ยน การใช้กำลังไฟส่องสว่างได้หลายระดับอีกด้วย
ซึ่งอาจบอกเป็นสัญญานไฟ ตัวเลขดิจิตอล หรือตารางการเปลี่ยนแปลง
และยังสามารถปรับมุมสว่างของแสงให้กว้าง และแคบได้
แฟลชชนิดนี้บางรุ่นยังมีดวงไฟสำหรับให้แสงถึง 2 ดวงในตัวเดียวกัน คือ
ดวงใหญ่ที่หัวแฟลช ดวงเล็กที่หน้าแฟลชเพื่อช่วยให้แสงลบเงาได้ภาพที่ดีขึ้น
- แฟลชขนาดใหญ่มีด้ามจับ เป็นแฟลชที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากขึ้นมีด้ามจับต่อจากหัวแฟลช เพื่อใช้ยึดติดกับแขนรองรับร่วมกับตัวกล้อง หรืออาจจับ ด้ามถือแยกจากตัวกล้องได้ ความสว่างของแสงแรงกว่า 2 แบบแรก แฟลชประเภทนี้ รุ่นเก่ามีหม้อแบตเตอรี่แยกออกจากหัวแฟลช แต่ปัจจุบันนี้ได้ออกแบบให้อยู่ที่ตัวด้าม จับใช้แบตเตอรี่ขนาด 1.5 โวลท์ ประมาณ 4,6 หรือ 8 ก้อน มีระบบอัตโนมัติที่ปรับความสว่างของแสงให้สัมพันธ์กับขนาดรูรับแสงที่กำหนดได้ 2-6 ระดับมีไกด์นัมเบอร์ เมื่อใช้ระบบธรรมดาระหว่าง 100-190 ต่อระยะเป็นฟุตกับฟิล์มที่มีความไวแสง 100 มีวงจรประหยัดไฟให้แสงได้ต่อเนื่องรวดเร็วทันใจและมากครั้งขึ้น บางรุ่นมีที่ปรับมุมส่องสว่างให้กว้างหรือแคบได้ และปรับหัวแฟลชให้หันซ้าย - ขวา ก้มเงยได้ตามต้องการ และอาจมีอุปกรณ์ประกอบแฟลชมากยิ่งขึ้น
ได้กล่าวไว้ว่าชั้นที่ 2 เป็นชั้นของเยื่อไวแสงที่บันทึกภาพ ถ้าเป็นฟิล์มขาวดำ แต่ถ้าเป็นฟิล์มสีและฟิล์มสไลด์สีจะบันทึกสีต่าง ๆ สามสีด้วยกัน คือสีน้ำเงิน สีเขียวและสีแดงตามวัตถุสีที่ถ่ายนั้น อย่างไรก็ตามวัตถุที่ถ่ายอาจมีสีอื่น ๆ นอกจาก สามสีที่กล่าวมาแล้ว แต่สีต่าง ๆ นั้นก็เป็นการรวบรวมตัวของสีทั้ง 3 เช่น สีไชยัน (Cyan) หรือสีฟ้าก็เป็นการรวมตัวของสีน้ำเงินและสีเขียว สีม่วง หรือสีมาเยนต้า (Magenta) ก็เป็นการรวมตัวของสีน้ำเงินกับสีแดง สีเหลือง (Yellow) ก็เป็นการรวมตัวของสีเขียวและสีแดง ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นทฤษฎีสีของแสง
นอกจากแฟลชอิเล็กทรอนิกส์ระบบอัตโนมัติที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า แฟลชระบบดิดีเคท (Dedicate) นอกจากจะมีระบบเหมือนกับที่กล่าวมาแล้ว ยังมีระบบพิเศษที่ควบคุมการทำงานให้สัมพันธ์กับการทำงานของกล้อง แต่ละรุ่นที่มีระบบการทำงานร่วมกันได้ โดยเมื่อติดแฟลชแล้วกล้องจะปรับความเร็วชัตเตอร์ ให้สัมพันธ์กับไฟแฟลชเอง โดยอัตโนมัติและแสดงสัญญานไฟที่จอภาพหรืออาจมีเสียงสัญญานเตือนเมื่อแฟลชพร้อมที่จะใช้งาน นอกจากนั้นกล้องบางรุ่น ยังมีระบบวัดแสง แฟลชผ่านเลนส์ (Through the Len Auto Flash) ทำงานร่วมกับแฟลช โดยกล้องจะปรับรูรับแสงเอง หรือแฟลชจะปรับการส่องสว่างของแสงเอง โดยอัตโนมัติแฟลชแบบนี้ยังสามารถใช้กับกล้องที่ไม่ทำงานสัมพันธ์กับแฟลชได้อีกด้วย ดังนั้นแฟลชที่จำหน่ายในปัจจุบันจึงนิยมนำระบบ Dedicate เพื่อให้สัมพันธ์กับกล้องบางรุ่นด้วยแต่ก็ยังมีแฟลชที่ไม่สัมพันธ์ในระบบดังกล่าวกับกล้องรุ่นใดเลย หากแต่ใช้เป็นระบบอัตโนมัติและระบบธรรมดาเท่านั้น
» การเก็บข้อมูลทางมนุษย์ศาสตร์ และสังคมศาสตร์ด้วยภาพถ่าย
» ข้อเสนอแนะการบันทึกข้อมูลด้วยภาพถ่าย
» คุณลักษณะของภาพถ่ายที่ดี ทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
» ส่วนประกอบที่สำคัญของกล้องถ่ายรูป
» การใช้และการเก็บรักษากล้องถ่ายรูป
» การพิจารณาเลือกกล้องถ่ายรูปแบบเลนส์เดี่ยว
» ลักษณะของเลนส์ของกล้องถ่ายรูป
» การใช้และการระมัดระวังรักษาเลนส์
» ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อฟิล์ม
» แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้กับกล้องSLR
» ความสัมพันธ์ของชัตเตอร์กับขนาดรูรับแสง
» การใช้อุปกรณ์อื่นวัดแสงแทนเครื่องวัดแสง
» การเลือกองค์ประกอบพื้นฐานของการจัดภาพ
» เทคนิคพิเศษทางการถ่ายภาพและทำภาพ
» หลักการถ่ายภาพให้ได้ภาพสีที่ดี