ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ประวัติของพระพุทธเจ้า
พระพุทธศาสนา
องค์ประกอบของพระพุทธศาสนา
สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
ปรัชญา
ความแตกต่างระหว่างศาสนากับปรัชญา
ความแตกต่างระหว่างพระพุทธศาสนากับปรัชญา
ลักษณะเชิงปรัชญาของพระพุทธศาสนา
สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
ในธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร ซึ่งเป็นเทศนากัณฑ์แรกที่พระพุทธเจ้าแสดงโปรดเบ็ญจวัคคีย์ทั้ง5 นั้น แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้และตรัสรู้อย่างไร พร้อมทั้งวิธีการที่ทรงปฏิบัติซึ่งมีเนื้อหาให้ละเว้นหนทาง 2 อย่าง คือ
(1) การประกอบตนอยู่ในกามสุขทั้งหลาย และ
(2) การประกอบตนให้ทรมานลำบาก
ข้อปฏิบัติทั้งสองนั้น
เป็นหนทางที่ไม่สามารถทำให้บรรลุเป้าหมาย คือ การหลุดพ้นจากความทุกข์ได้
วิธีการที่พระองค์ทรงแนะนำให้ปฏิบัติ ก็คือทางสายกลาง ที่เรียกว่า
มัชฌิมาปฏิปทา ซึ่ง ได้แก่หนทาง 8 ประการที่เรียกว่า มรรคมีองค์ประกอบ8 ประการ
ได้แก่
(1) ความเห็นชอบ (สัมมาทิฏฐิ)
(2) ความดำริชอบ (สัมมาสังกัปปะ)
(3) การเจรจาชอบ (สัมมาวาจา)
(4) การทำงานชอบ (สัมมากัมมันตะ)
(5) การเลี้ยงชีวิตถูกต้อง (สัมมาอาชีวะ)
(6) ความเพียรชอบ (สัมมาวายามะ)
(7) ความระลึกชอบ (สัมมาสติ)
(8) ความตั้งใจมั่นชอบ (สัมมาสมาธิ)
หนทางทั้ง 8 ประการนี้จะทำให้เกิดความหยั่งรู้ เป็นไปเพื่อความสงบระงับ
เป็นไปเพื่อพระนิพพานเมื่อแสดงวิธีปฏิบัติแล้ว
พระองค์ก็แสดงความจริงที่ผู้ประเสริฐพึงรู้
หรือความจริงที่ทำให้ผู้รู้เป็นผู้ประเสริฐ ที่เรียกว่า อริยสัจ 4 ประการคือ
(1) ทุกข์
(2) เหตุให้ทุกข์เกิด (ทุกขสมุทัย)
(3) ความดับทุกข์(ทุกข นิโรธ)
(4)
วิธีปฏิบัติให้เข้าถึงความดับทุกข์
(ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา)
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่ปรากฏในพระสูตรหลายสูตร
ที่พระองค์ตรัสแสดงสิ่งที่พระองค์ทรงตรัสรู้ไว้อย่างชัดเจน เช่นในธรรมนิยามสูตร
ที่แสดงว่า
พระตถาคตจะอุบัติขึ้นหรือไม่ก็ตาม ธาตุคือความตั้งอยู่ตามธรรมดามีอยู่แล้ว
มีอยู่ตามธรรมชาติของมัน มีความเป็นไปอย่างแน่นอนตามธรรมชาติของมัน ตถาคตรัสรู้
บรรลุธาตุนั้นว่าสังขารทั้งปวงไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ธรรมล้วนอนัตตา ครั้นแล้วจึงบอก
แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผยจำแนก ทำให้เข้าใจง่าย
ตามใจความในพระสูตร สิ่งที่เรียกว่าธาตุหมายถึง
สิ่งที่ดำรงอยู่ตามสภาพของมัน มีอยู่แล้วและมีสภาพเปลี่ยนแปลง ไม่คงที่
และเป็นอนัตตา
พระพุทธองค์และพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในอดีตเป็นแต่เพียงผู้ค้นพบธาตุเหล่านั้น
และทรงนำมาสอนตามที่พระองค์ทรงรู้เห็นเท่านั้นดังนั้น สิ่งที่พระองค์ตรัสรู้
จึงเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติซึ่งพระพุทธศาสนา เรียกว่าธาตุ และธาตุนั้น
ก็ดำรงอยู่ในลักษณะที่เรียกว่า
ธรรมฐิติ กล่าวคือ มีอยู่หรือดำรงอยู่ตามธรรมดาหรือธรรมชาติของมัน
ไม่มีใครสร้างหรือควบคุมเป็นสิ่งที่มีความแน่นอนในความเป็นไปหรือมีความเป็นไปอย่างแน่นอน
ตามธรรมชาติของมัน ไม่มีใครคอยกำกับควบคุม (ธรรมนิยาม) และ สภาวะที่เรียกว่า
ไตรลักษณ์ หรือสามัญญลักษณะ และอิทัปปัจจยตา หรือปฏิจจสมุปบาท นั่นเอง(ธัมมฐิติ)
การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า จึงเป็นการค้นพบความจริงที่มีอยู่แล้ว
แต่เป็นการค้นพบนั้นเป็นการเห็นด้วยญาณที่เรียกว่า ญาณทัศนะ
ซึ่งเป็นการเห็นอย่างถูกต้องตามความเป็นจริง
การเห็นในลักษณะเช่นนี้เรียกว่ายถาภูตญาณทัศนะแปลว่า
การเห็นด้วยความรู้ตามที่มีที่เป็น
หรือการเห็นด้วยความรู้ตามความเป็นจริงการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้านั้น
ยังเป็นการยืนยันว่า
มนุษย์เป็นบุคคลผู้สามารถฝึกฝนได้และสามารถเข้าถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิตได้ด้วยการฝึกฝนนั้น