ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ความหมายและความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์
มนุษย์คือใคร: ทัศนะด้านศาสนา
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาอินดู
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาพุทธ
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาคริสต์และอิสลาม
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาขงจื้อ
มนุษย์คือใคร : ทัศนะด้านปรัชญา
มนุษย์คือใคร : ทัศนะด้านวิทยาศาสตร์
มนุษย์คือใคร : ทัศนะด้านสังคมศาสตร์
ความหมายของการใช้เหตุผล
สมองกับพัฒนาการการใช้เหตุผลของมนุษย์
สมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา
ความเป็นมาและรูปแบบของการใช้เหตุผล
ความสำคัญและประโยชน์ของการใช้เหตุผล
การคิดและการใช้เหตุผลของตะวันตกและตะวันออก
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาคริสต์และอิสลาม
มนุษย์คือใคร? คัมภีร์ของศาสนาคริสต์ได้บันทึกอย่างชัดเจนว่า
มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น
และสร้างให้เป็นมนุษย์โดยตรงไม่ใช่วิวัฒนาการ พระคัมภีร์ยังได้บอกอีกว่า
ในท่ามกลางสรรพสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสร้างนั้น
มนุษย์เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมหรือสุดยอดที่สุดในการสร้างของพระเจ้า
เพราะมนุษย์ถูกสร้างให้เหมือนกับพระเจ้า แต่ไม่ใช่เป็น พระเจ้า
(http://www.ChristianThai.net)
มนุษย์ตามทัศนะของคริสต์ศาสนานั้นถูกสร้างให้อยู่เพื่อสิ่งมีความหมายบางอย่าง
ซึ่งคัมภีร์คริสต์ศาสนาได้ระบุความหมายที่แท้จริงของมนุษย์ในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ว่า
วัตถุประสงค์ของพระเจ้าในการทรงสร้างมนุษย์ไว้ในโลก็เพื่อเขาจะสำแดงพระลักษณะของพระองค์ออกมาหรือพูดง่ายๆ
หน้าที่ของมนุษย์ในโลกนี้ก็คือ การดำเนินชีวิตให้เหมือนกับพระเจ้า
สอดคล้องกับกฎมาตรฐานศีลธรรมอันดีที่พระรเจ้าทรงกำหนดไว้และมีความสัมพันธ์กับพระองค์
(แหล่งเดิม, อ้างแล้ว)
ส่วนศาสนาอิสลามเชื่อและศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าที่มีพระนามว่า อัลเลาะฮ์
พระองค์เป็นผู้สร้างโลกและมนุษย์
ชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดจนสิ้นชีวิตล้วนแต่เป็นไปตามพระบัญชาของพระองค์
มนุษย์ไม่อาจขัดพระบัญชาของพระองค์ได้
ข้อความโดยละเอียดเกี่ยวกับการสร้างมีระบุไว้ในคัมภีร์ไบเบิลส่วนที่เป็นพันธสัญญาเดิม
(Old Testament) ดังนี้
เดิมทีไม่มีอะไร มีแต่ความมืดมิด พรเจ้าก็อยู่ในความมืดมิดนี้
พระองค์จึงได้ทรงสร้างสรรพสิ่งขึ้นภายใน 6 วัน คือ วันที่ 1
ทรงสร้างแสงสว่างขึ้นก่อน วันที่ 2 ทรงสร้างแผ่นดิน ท้องฟ้า และอากาศ วันที่ 3
ทรงสร้างน้ำและทะเล วันที่ 4 ทรงสร้างพระอาทิตย์และพระจันทร์ วันที่ 5
ทรงสร้างนกและปลา และวันที่ 6 ทรงสร้างผู้ชายคนแรก ส่วนวันที่ 7 เป็นวันสะปาโต
พระเจ้าทรงหยุดสร้าง
สิ่งที่น่าสนใจในการสร้างของพระเจ้าในที่นี้คือ ความคิดเรื่องการเกิดขึ้นของมนุษย์ สำหรับมนุษย์คนแรกนั้น พระเจ้าทรงหยิบผงดิน (Dust of the ground) จากพื้นดินขึ้นแล้ว ทรงสร้างมนุษย์ผู้ชายคนแรกจากผงดินนั้น แล้ก็เป่าลมชีวิต (Breath of life) เข้าไปทางจมูกของเขา เพียงเท่านั้น มนุษย์ผู้ชายคนแรกก็เริ่มต้นชีวิตขึ้นในโลกและสุดท้ายก็คือพระเจ้าได้สร้างมนุษย์ผู้หญิง (อีวา) ขึ้นมาจากกระดูกซี่โครงของผู้ชายคนแรก (อดัม) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือ มนุษย์คือ พระฉายา (Image) ของพระเจ้านั่นเอง (ดูรายละเอียดใน เสรี พงศ์พิศ, 2531: 147-157)
ส่วนในศาสนาอิสลามก็มีความเชื่อที่ไม่แตกต่างจากศาสนาคริสต์นัก คือ มุสลิมเชื่อว่า พระอัลเลาะฮ์สร้างมนุษย์ขึ้นมา โดยทรงนำดินมาปั้นเป็นรูปคนแล้วทรงทำให้ดินเป็นอสุจิ แล้วให้เจริญเป็นก้อนเลือด จากก้อนเลือดเป็นก้อนเนื้อ แล้วทรงทำให้ก้อนเนื้อมีกระดูกและให้มีเนื้อหุ้มกระดูก แล้วทรงเป่าลมหายใจเข้าไปในรูปปั้นนั้นกลายเป็นคนมีชีวิตขึ้นมา มนุษย์คนแรกที่ทรงสร้างขึ้นคืออาดัม ต่อมาทรงเห็นว่าอาดัมเหงาเพราะอยู่โดดเดี่ยวจึงทรงถอดซี่โครงด้านซ้ายของอาดัมซึ่งนอนหลับอยู่ซี่หนึ่งมาสร้างเป็นผู้หญิงชื่อฮาวา ให้เป็นภรรยาของอาดัมอยู่ในสวนสวรรค์เอเดน (ฟื้น ดอกบัว, 2544: 284)