ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
ความหมายและความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์
มนุษย์คือใคร: ทัศนะด้านศาสนา
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาอินดู
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาพุทธ
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาคริสต์และอิสลาม
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาขงจื้อ
มนุษย์คือใคร : ทัศนะด้านปรัชญา
มนุษย์คือใคร : ทัศนะด้านวิทยาศาสตร์
มนุษย์คือใคร : ทัศนะด้านสังคมศาสตร์
ความหมายของการใช้เหตุผล
สมองกับพัฒนาการการใช้เหตุผลของมนุษย์
สมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา
ความเป็นมาและรูปแบบของการใช้เหตุผล
ความสำคัญและประโยชน์ของการใช้เหตุผล
การคิดและการใช้เหตุผลของตะวันตกและตะวันออก
มนุษย์ในทัศนะของศาสนาพุทธ
พุทธศาสนาไม่ยอมรับทัศนะการสร้างมนุษย์ในศาสนาฮินดู พุทธศาสนาถือว่า
มนุษย์มิใช่สิ่งสร้างของพระพรหมและไม่มีส่วนใดคงที่
มนุษย์เกิดจากองค์ประกอบทางกายหรือรูป (ดิน น้ำ ลม ไฟ) และทางจิต (เวทนา สัญญา
สังขาร จิต/วิญญาณ) ทั้งหมดรวมกันเรียกว่า ขันธ์ 5
โดยในส่วนของกายและจิตมีความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมชาติ
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ต่างกันในทัศนะของพุทธศาสนาก็คือ กรรม คนจะดีหรือชั่ว
วัดได้ด้วยกรรมที่แต่ละคนทำ กรรมหรือการกระทำดีหรือชั่วต่างหากที่เป็นเครื่องกำหนด
มิใช่พระพรหม และพุทธศาสนากันสอนเน้นไปที่จิตใจ
โดยสอนให้เห็นความสำคัญถึงความดีทางใจสำหรับการดำเนินชีวิต
ฉะนั้น ตามทัศนะของพุทธศาสนา
มนุษย์เกิดขึ้นโดยไม่ใช้จากการสร้างของพระเจ้าหรือพระพรหม
แต่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของเหตุปัจจัย หรือตามกฎแห่งกรรม ตามหลักการที่ว่า
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับไป สิ่งนี้จึงดับไปด้วย
(พระธรรมปิฎก, 2546: 81)
จากมุมมองตรงนี้ มนุษย์ในทัศนะของพุทธศาสนา
จึงไม่ได้มาจากการสร้างของพระเจ้า หรือพระพรหม ถ้าจะพูดให้กระชับตามภาษาทั่วไปก็คือ
กรรมเป็นตัวกำหนดการเกิดของมนุษย์ ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กรรมลิขิต
ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งที่พุทธศาสนาได้กล่าวไว้คือ องค์ประกอบของการการเกิดขึ้นของชีวิตมนุษย์ ประกอบด้วยขั้นตอน 3 ประการ คือ
- บิดามารดามีเพศสัมพันธ์กัน
- มารดาอยู่ในวัยมีประจำเดือน และมีไข่ตกขณะมีเพศสัมพันธ์กับบิดา
- มีสิ่งที่เรียกว่า คันธัพพะ หรือ วิญญาณ เข้าไปปฏิสนธิในรังไข่ของมารดา
แต่เมื่อว่าโดยธรรมชาติของศักยภาพในการพัฒนาด้านสติปัญญา (IQ) ของมนุษย์ พุทธศาสนาได้แบ่งระดับของบุคคลไว้ 4 จำพวก คือ
- อุคติตัญญู หมายถึงกลุ่มมนุษย์ที่มีความฉลาดมาก เปรียบได้กับชนิดของบัวที่พ้นน้ำแล้ว
- วิปจิตัญญู หมายถึงกลุ่มมนุษย์ที่มีความฉลาดพอควร เปรียบเหมือนบัวประเภทเสมอน้ำ
- เนยยะ หมายถึงกลุ่มมนุษย์ที่ฉลาดปานกลาง เปรียบเหมือนบัวประเภทใต้น้ำ
- ปทปรมะ คือคนประเภทโง่เขลา เปรียบได้กับบัวในโคลนตม จะเห็นว่า บุคคล 3 ประเภทแรกสามารถพัฒนาตนเองได้จากระดับหนึ่งไปสู่อีกระดับหนึ่ง คือมนุษย์ประเภทที่ 2 และ 3 สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ประเภทที่ 1 และ 2 ได้ ยกเว้นประเภทที่ 4 เท่านั้น
เมื่อเทียบกับระดับวรรณะในศาสนาฮินดูแล้ว มนุษย์จะถูกจำกัดศักยภาพของตนเองตามลำดับชั้นของตนเองเท่านั้น ไม่สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ระดับที่สูงกว่าระดับวรรณะของตนเอง นี้เป็นมุมมองเกี่ยวกับมนุษย์ที่แตกต่างกันระหว่างศาสนา โดยศาสนาหนึ่งได้บทสรุปว่า มนุษย์เป็นประเภท พรหมลิขิต ส่วนอีกศาสนาหนึ่งกล่าวว่า มนุษย์เป็นประเภท กรรมลิขิต