ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
พระวังคีสเถระ เอตทัคคะ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีปฏิภาณ (ในการกล่าวเป็นคำประพันธ์)
นามเดิม วังคีสะ เพราะเกิดในวังคชนบท และเพราะเป็นใหญ่ในถ้อยคำ
บิดาเป็นพราหมณ์ไม่ปรากฏนาม มารดาเป็นปริพาชิกา ไม่ปรากฏนาม ทั้ง 2
เป็นคนวรรณะพราหมณ์ เกิดที่วังคชนบท เมืองสาวัตถี
ท่านศึกษาจบไตรเพท และท่านมีความชำนาญในถ้อยคำ
เป็นที่พอใจของครูอาจารย์มากเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะการใช้เล็บดีดกะโหลกศีรษะของผู้ที่ตายภายในเวลา 3 ปี แล้วสามารถรู้ได้ว่า
ไปเกิดที่ไหน และท่านได้ลาภเป็นอันมากเพราะการดีดกะโหลกเป็นอุบายหาเลี้ยงชีพ
บิดาเป็นพราหมณ์ ส่วนมารดาเป็นปริพาชก ทั้งสองเป็นพราหมณ์ในเมืองสาวัตถี
วันหนึ่งท่านได้สดับคุณของพระพุทธเจ้า
เกิดความเลื่อมใสศรัทธาอยากจะไปเฝ้าให้ได้ แม้จะถูกคัดค้านจากพราหมณ์ทั้งหลายก็ตาม
เพราะกลัวจะไปนับถือพระองค์นั้นเอง สุดท้ายก็ไปเฝ้าจนสำเร็จ
และได้รับการปฏิสันถารจากพระพุทธองค์เป็นอย่างดี
และก็ได้ประลองวิชาดีดกะโหลกกับพระพุทธองค์ว่ากะโหลกนี้ไปเกิดในนรก,สวรรค์
หรือเทวดาเป็นต้น จนได้รับสาธุการ แต่พอดีดกะโหลกสุดท้าย ซึ่งเป็นพระอรหันต์
ท่านก็ไม่ทราบว่าไปเกิดที่ไหน นั่งเหงื่อไหล พระองค์จึงตรัสว่า
ถ้าเธออยากได้มนต์นี้ ก็จงถือเพศบรรพชิตเท่านั้นจึงรู้ได้
ท่านเป็นผู้มีปฏิภาณในการกล่าวคำเป็นประพันธ์(ฉันท์)สรรเสริญคุณของพระศาสดาเวลาที่ท่านเข้าไปเฝ้าได้ทุกครั้งจนได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์
- ท่านมีความชำนาญในการดีดกะโหลกผู้ตายแล้วทราบว่าไปเกิดที่ไหน
- ท่านได้รับเอตทัคคะว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีปฏิภาณ
พระอัญญาโกณฑัญญเถระ : รัตตัญญู คือ ผู้รู้ราตรีนาน
พระอุรุเวลกัสสปเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีบริวารมาก
พระสารีบุตรเถระ : เป็นเลิศในทางมีปัญญามาก อัครสาวกเบื้องขวา
พระมหาโมคคัลลานเถระ : เป็นผู้เลิศในทางเป็นผู้มีฤทธิ์มาก
พระมหากัสสปเถระ : ผู้ทรงธุดงค์คุณ
พระมหากัจจายนเถระ : อธิบายความย่อให้พิศดาร
พระโมฆราชเถระ : ทรงจีวรเศร้าหมอง
พระราธเถระ : มีปฏิภาณ(ไหวพริบดี)
พระปุณณมันตานีบุตรเถระ : เป็นผู้เลิศในด้านการแสดงธรรมเทศนา
พระกาฬุทายีเถระ : ทำสกุลที่ไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส
พระนันทเถระ : เป็นผู้เลิศฝ่ายข้างสำรวมระวังอินทรีย์ 6
พระราหุลเถระ : เป็นเอตทัคคะทางผู้ใคร่ต่อการศึกษา
พระอุบาลีเถระ : ผู้ทรงพระวินัย (วินัยธร)
พระภัททิยเถระ : ในทางเป็นผู้เกิดในตระกูลสูง หรือสุขุมาลชาติ
พระอนุรุทธเถระ : เป็นเลิศในทางผู้มีทิพยจักษุ (ตาทิพย์)
พระอานนทเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพหุสูตร
พระโสณโกฬิวิสเถระ : เป็นเลิศในทางปรารภความเพียร
พระรัฐบาลเถระ : เป็นเลิศในทางผู้บวชด้วยศรัทธา
พระปิณโฑลภารทวาชเถระ : เป็นเลิศในทางผู้บันลือสีหนาท
พระมหาปันถกเถระ : เป็นเลิศในทางเจริญวิปัสสนา
พระจูฬปันถกเถระ : เป็นเลิศในทางมโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ)
พระโสณกุฏิกัณณเถระ : ผู้แสดงธรรมด้วยถ้อยคำอันไพเราะ
พระลกุณฎกภัททิยเถระ : เป็นเลิศในทางผู้มีเสียงไพเราะ
พระสุภูติเถระ : เป็นผู้มีปกติอยู่อย่างไม่มีกิเลส และเป็นทักขิไณยบุคคล
พระกังขาเรวตเถระ : เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ยินดีในการเข้าฌาน
พระโกณฑธานเถระ : เป็นเลิศในทางถือสลากเป็นปฐม
พระวังคีสเถระ :
เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีปฏิภาณ
พระปิลินทวัจฉเถระ : เป็นเลิศในทางเป็นที่รักใคร่ของเหล่าเทพยดา
พระกุมารกัสสปเถระ: เป็นเลิศในการแสดงธรรมได้อย่างวิจิตร
พระมหาโกฏฐิตเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้บรรลุปฏิสัมภิทา 4
พระโสภิตเถระ : เป็นเลิศในทางระลึกชาติก่อนได้
พระนันทกเถระ : เป็นเลิศในทางสอนนางภิกษุณี
พระมหากัปปินเถระ : เป็นเลิศในทางการสอนภิกษุ
พระสาคตเถระ : ผู้ฉลาด (ชำนาญ) ในทางเตโชสมาบัติ
พระอุปเสนเถระ : เป็นผู้นำมาซึ่งความเลื่อมใสโดยรอบด้าน
พระขทิรวนิยเรวตเถระ : เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ป่าเป็นวัตร
พระสีวลีเถระ : เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีลาภมาก
พระวักกลิเถระ : เป็นเลิศแห่งภิกษุผู้เป็นสัทธาวิมุตติ
พระพาหิยทารุจีริยเถระ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายตรัสรู้เร็วพลัน
พระพากุลเถระ : เป็นผู้มีโรคภัยไข้เจ็บน้อยที่สุดด้วย