วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>

พริก
(Capsicum spp.)

ลักษณะโดยทั่วไป
คุณค่าทางอาหารของพริก
การเพาะปลูก
ศัตรูพืชที่สำคัญและวิธีการป้องกันกำจัด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
การจำแนกพริกโดยลักษณะทางพืชสวน
ส่วนที่ใช้ ผลและใบสด

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

พริกมีแหล่งกำเนิดในอเมริกาเขตร้อน ตั้งแต่ก่อนโคลัมบัสพบทวีปอเมริกา พันธุ์พริกที่นิยมปลูกในปัจจุบันถูกนำมาจากตัวอย่างที่เก็บมาเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อเทียบกับการกระจายตัวของพันธุกรรมในธรรมชาติ พริกพันธุ์ปลูกแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ใหญ่ ๆ ได้แก่ Capsicum baccatum และ C. pubescens R. and P. ซึ่งแยกออกจากกันได้อย่างชัดเจนโดยลักษณะทางพฤกษศาสตร์ และอีกกลุ่มหนึ่งที่รวม ๆ กันอยู่ปัจจุบันยอมรับให้แยกอีก 3 ชนิด(species) ด้วยกัน ได้แก่ C. annuum L., C. frutescens L. และ C. chinense Jacq.

1. Capsicum annuum L.

เป็นชนิดที่ปลุกมากและมีความสำคัญมากที่สุดเมื่อเทียบกับพริกชนิดอื่น ๆ มีแหล่งดั้งเดิมอยู่ที่อเมริกากลาง ได้แก่ ประเทศเม็กซิโกและประเทศใกล้เคียง พริกชนิดนี้เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากชนิดอื่น ได้แก่ การที่มีดอกเดี่ยวและผลเดี่ยว ๆ และมีกลีบดอกสีขาว จากการสำรวจในประเทศไทยพบว่า พริก C. annuum ที่ใช้เป็นพันธุ์ปลูกมีมาก สายพันธุ์ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับชนิดอื่น รวบรวมได้ 31 สายพันธุ์ ชื่อสายพันธุ์เรียกตามชื่อพื้นเมืองได้แก่ พริกชี้ฟ้า พริกชี้ฟ้าใหญ่ พริกจินดา พริกแดง พริกฟักทอง พริกขี้หนู พริกขี้หนูชี้ฟ้า พริกขี้หนูจินดา พริกหวานและพริกยักษ์ เป็นต้น ชื่อที่ใช้เรียก เช่น พริกชี้ฟ้าและพริกขี้หนู ใช้เรียกในพริกชนิดอื่นด้วย เช่น C. chinense และ C. frutescens

2. Capsicum chinense Jacq.

เป็นพริกที่มีความสำคัญในการใช้เป็นพันธุ์ปลูกมากในแถบภูเขาแอนดีสในอเมริกาใต้ การกระจายพันธุ์ของพริกชนิดนี้มีมากในบริเวณอเมซอน พริกในกลุ่มนี้ที่มีผลใหญ่เนื้อหนา ใช้รับประทานสด พริกที่เนื้อบางใช้ทำพริกแห้ง ส่วนพริกผลเล็กมีกลิ่นและรสเผ็ดจัดเชื่อว่ามีรสเผ็ดที่สุดในพริกที่ปลูกทั้งหมด

พริกนี้ไม่นิยมในเอเชียแถบร้อน ในประเทศไทยสายพันธุ์พริกที่เก็บรวบรวมมีพริกชนิดนี้อยู่ 18 สายพันธุ์ มีชื่อเรียกว่า พริกขี้หนู พริกขี้หนูแดง พริกกลาง พริกเล็บมือนาง พริกขี้หนูหอม พริกสวนและพริกใหญ่ เป็นต้น พริกพวกนี้มีลักษณะทางพันธุศาสตร์คล้ายกับ C. annuum และ C. frutescens สีกลีบดอกสีเขียวอ่อน มีดอก 2 ดอกหรือมากกว่า 2 ดอกต่อข้อ เมื่อผลแก่จะมีรอยคอดที่กลีบเลี้ยงติดกับก้านของผล

3. Capsicum baccatum L.

พริกชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศโบลิเวีย มีหลักฐานทางโบราณคดีของประเทศเปรูว่าพริกชนิดนี้ C. baccatum var. pendulum ปลูกโดยคนโบราณก่อนคริสต์ศตวรรษถึง 2500 ปี การกระจายของพริกชนิดนี้พบในประเทศเปรู ประเทศโบลิเวีย ประเทศอาร์เจนตินา และประเทศบราซิลตอนใต้ ต่อจากนั้นได้กระจายไปยังตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริการัฐฮาวาย และประเทศอินเดีย ในศตวรรษที่ 17 มีการกระจายของพริกชนิดนี้ไปถึงยุโรป พริกนี้ไม่เป็นที่นิยมปลูกในทวีปเอเชียและแอฟริกา ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ C. annuum และ C. frutescens ได้รับความนิยมอยู่แล้ว จากการรวบรวมพันธุ์พริกในประเทศไทยสงสัยว่ามีพริกชนิดนี้ปลูกอยู่สายพันธุ์หนึ่ง พริกพวกนี้มีความแตกต่างจากพริกชนิดอื่นที่มีดอกสีขาวและมีจุดสีเหลืองที่กลีบดอกขาวในกลุ่มพริกนี้ยังมี C. pendulum และ C. microcarpum ที่ถูกจัดให้อยู่ใน C. baccatum ด้วย

4. Capsicum frutescens L.

ถิ่นกำเนิดพริกชนิดนี้อยู่ในอเมริกาใต้เช่นเดียวกับชนิดอื่น และพบหลักฐานทางโบราณคดีในประเทศเปรูก่อนคริสต์ศตวรรษถึง 1200 ปี พบว่า มีการกระจายพันธุ์อยู่ในประเทศบราซิลตอนใต้ไปถึงตอนกลางของทวีปอเมริกา หมู่เกาะ west indies ทวีปแอฟริกาและทวีปเอเชีย พันธุ์ที่ปลูกในอเมริกาเป็นผลชนิดโต เรียกว่า Tobasco pepper ซึ่งเป็นพันธุ์ที่รู้จักกันแพร่หลายนอกจากนี้ยังมีพันธุ์ผลโตอื่น ๆ อีก มีปลูกแถบทะเลแคริบเบียน ทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย แต่พันธุ์ที่นิยมปลูกในทวีปเอเชียมีผลเล็ก มีความเผ็ดมาก บางแห่งใช้พริกพวกนี้ในการสกัดสาร ในประเทศไทย มีรายงานว่ามีพริกชนิดนี้ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ พริกชี้ฟ้า พริกเกษตร และพริกขาว พริกชนิดนี้มีลักษณะเด่นที่มีดอกเดี่ยว แต่พริกพันธุ์ป่าของ C. frutescens มี 2-3 ดอกในแต่ละข้อ ดอกมีสีเขียวอ่อน ผลพริกของพันธุ์ป่าใช้บริโภคได้และมีรสเผ็ด

5. Capsicum pubescens Ruiz & Pavon

พริกชนิดนี้เป็นพริกที่ปลุกบนพื้นที่สูงเนื่องจากทนต่อความหนาวได้ พบว่าปลุกอยู่ในแถบเขาแอนดีสและบนที่สูงของอเมริกากลาง แต่ก็พบพริกชนิดนี้ในที่ราบเช่นเดียวกันกับ C. annuum , C. baccatum และ C. chinense แหล่งกำเนิดของพริกชนิดนี้ไม่ค่อยติดผลได้ง่ายเช่นพริกชนิดอื่นเมื่อปลูกในแถบร้อนพันธุ์ที่ใช้ปลูกมีลักษณะการกระจายน้อยกว่าพืชชนิดอื่นที่กล่าวมาข้างต้น ผลของพริกมีเนื้อหนา มีเปอร์เซ็นต์ของน้ำสูง แต่มีรสเผ็ด ลักษณะเดิมของพริกชนิดนี้ได้แก่ กลีบดอกสีม่วง ไม่มีจุดและเมล็ดสีดำ จากการสำรวจและรวบรวมพันธุ์พริกในประเทศไทยอาจมีพริกชนิดนี้อยู่เพียงสายพันธุ์เดียว เรียกว่า พริกขาวดำ

พริกมีดอกทั้งดอกเดี่ยวและดอกช่อ ช่อละ 2-3 ดอก ก้านช่อดอกตั้งตรง(erect) หรือโน้มลง (pendant)ออกดอกทั้งปี เป็นพืชยืนต้น ดอกเป็นดอกสมบูรณ์มีเกสรตัวผู้ (stamen) แยกจากเกสรตัวเมีย (stigma) โดยธรรมชาติการผสมพันธุ์แล้วพริกเป็นพืชผสมตัวเอง แต่การผสมข้ามพันธุ์เกิดได้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูง  

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย