วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>
ลักษณะโดยทั่วไป
คุณค่าทางอาหารของพริก
การเพาะปลูก
ศัตรูพืชที่สำคัญและวิธีการป้องกันกำจัด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
การจำแนกพริกโดยลักษณะทางพืชสวน
ส่วนที่ใช้ ผลและใบสด
การเพาะปลูกพริก
พริกเป็นพืชที่ปลูกได้ทั่วไป
ทั้งพื้นที่ในเขตร้อนและอบอุ่นขึ้นได้ดีตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึงกระทั่งความสูงกว่า
2000 เมตร ต้องการน้ำฝนประมาณปีละ 600-1250 มิลลิเมตร
แต่ขณะเดียวกันก็สามารถทนแล้งได้ดีพอสมควร ในเขตชลประทานปลูกได้ตลอดปี
แต่ควรปลูกในช่วงมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่พริกมีราคาดี
สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทานควรปลูกในช่วงฤดูฝน
พริกปลูกได้ดีในดินเกือบทุกชนิดแต่จะขึ้นได้ดีในดินร่วนปนทราย
ไม่ชอบพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังหรือชื้นแฉะ เพราะจะทำให้รากเน่าและตายได้ง่าย
การเพาะปลูก ควรปลูกให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-40 เซนติเมตร
และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 60 เซนติเมตร
หรือระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถวเท่ากันคือ 50*50 เซนติเมตร
โดยทั่วไปมีวิธีการปลูก 3 วิธี คือ
- หยอดเมล็ดลงในหลุมแปลงปลูกโดยตรงประมาณหลุมละ 3-5 เมล็ด
การปลูกในพื้นที่ขนาดใหญ่ควรใช้วิธีนี้
เพราะไม่ต้องเสียเวลาและแรงงานในการย้ายกล้าลงแปลงปลูกอีกครั้งหนึ่ง
แต่การปลูกวิธีนี้ต้นอ่อนหรือเมล็ดอาจถูกมดหรือแมลงรบกวนทำความเสียหายได้ง่าย
การปลูกวิธีนี้เมื่อต้นพริกอายุประมาณ 1 เดือน
ให้คัดต้นที่ไม่แข็งแรงออกโดยใช้กรรไกร เพื่อมิให้พริกต้นอื่น ๆ กระทบกระเทือน
- เพาะเมล็ดให้งอกก่อนแล้วนำไปหยอดในหลุม
โดยเริ่มจากการนำเมล็ดพริกแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน
แล้วใช้ผ้าที่ชุ่มชื้นห่อเก็บไว้ในที่ร่มประมาณ 2-3 วัน
เมื่อเมล็ดเริ่มงอกเป็นตุ่มเล็ก ๆ จึงนำไปปลูกในแปลง เมื่อต้นพริกอายุได้ 1
เดือน ให้คัดต้นไม่แข็งแรงทิ้งเช่นเดียวกับวิธีแรก
การปลุกวิธีนี้ดีกว่าวิธีแรกเพราะการงอกของเมล็ดจะเร็วกว่าวิธีแรก
- เพาะเป็นต้นกล้าก่อนจึงนำไปปลูก เกษตรกรที่มีพื้นที่เพาะปลูกน้อยนิยมใช้วิธีนี้เพราะต้นพริกแข็งแรงและการสูญเสียมีน้อย ข้อเสียคือ เสียแรงงานและเวลามาก
การใส่ปุ๋ย
- ปุ๋ยคอกรองพื้นอัตรา 800-1,000 กก. / ไร่
- ปุ๋ยเคมีใช้สูตร 15-15-15 อัตรา 50-100 กก. / ไร่ แบ่งใส่ครั้งละ 25 กก.
ทุกๆ 15-30 วัน การให้น้ำ
- อาศัยน้ำฝนในสภาพไร่ ควรเลือกช่วงปลูกประมาณเดือนพฤษภาคม
- ในเขตชลประทานให้น้ำแบบพ่นฝอยทุกๆ 3-5 วันครั้ง