ปรัชญา อภิปรัชญา ญาณวิทยา จิตวิทยา ตรรกศาสตร์ >>
นักปรัชญาและการวิเคราะห์ข่าว
คณะศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีและการสื่อสารการศึกษา
เพลโต : Plato
เกิด 427 ก่อนคริสต์ศักราช ที่กรุงเอเธนส์ (Athens) ประเทศกรีซ (Greece)
เสียชีวิต 347 ก่อนคริสต์ศักราช ที่กรุงเอเธนส์ (Athens) ประเทศกรีซ (Greece)
ผลงาน - ตั้งโรงเรียนชื่อ อะเคดามี (Academy)
แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านมานานกว่า 2,500 ปีแล้ว
แต่หลักการปรัชญาของเพลโตก็ยังคงมีอิทธิพลต่อแนวความคิดของการศึกษา ด้านต่าง ๆ
ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นปรัชญาจิตวิทยา ธรรมชาติ หรือแม้แต่วิทยาศาสตร์
เพลโตเป็นนักปรัชญา และนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของโลก
อีกทั้งท่านยังเป็นอาจารย์ของนักปรัชญาและนักวิทยาศาสตร์เอกของโลกอย่าง อาริสโตเติล
เพลโตเป็นนักปรัชญาที่วางรากฐานทางการศึกษาวิชาต่าง ๆ ไว้มากมาย เช่น การปกครอง
วิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ เป็นต้น
เพลโตเกิดเมื่อ 427 ก่อนคริสต์ศักราช ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
ในครอบครัวที่มั่งคั่งและเก่าแก่ครอบครัวหนึ่ง บิดาของเพลโตมีชื่อว่า อริสตัน
(Ariston) ส่วนมารดาของเขาชื่อว่า เพริเทียน (Peritione)
บิดาของเขาเป็นเพื่อนสนิทกับโสเครตีส (Cosrates 399 - 469 BC.)
ซึ่งเป็นนักปรัชญ์ชาวกรีกที่มีชื่อเสียงอีกท่านหนึ่ง
และเป็นลูกศิษย์ของปีทาโกรัส(Pythagoras) ในเวลาต่อมาเพลโตได้ศึกษาวิชาการด้านต่าง
ๆ กับโสเครตีส ทำให้เขามีแนวความคิดคล้ายกับนักปราชญ์ทั้งสองมาก
เพลโตเกิดขึ้นมาภายใต้ความวุ่นวายทางการเมืองของกรีซ
เนื่องจากเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างชาวสปาร์ตา(Sparta) และชาวนครเอเธนส์
สงครามครั้งนี้ยุติลงด้วยชัยชนะของชาวสปาร์ตา
ทำให้ชาวนครเอเธนส์ถูกกดขี่ข่มเหงอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ทำให้เพลโตมีแนวความคิดต่อต้านการเมืองอย่างรุนแรง
เขาจึงมุ่งมั่นอยู่กับการศึกษาและได้รับการศึกษาขั้นต้นเช่นเดียวกับลูกผู้ดีมีเงินทั้งหลาย
คือ เรียน ปรัชญา ดนตรี บทกวี และวาทศิลป์
จากอาจารย์ท่านหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์ของเฮราไคลตุส (Heraclitus)
นักปรัชญาชาวกรีกที่มีชื่อเสียงอีกท่านหนึ่ง
ต่อมาเพลโตได้ไปศึกษาต่อในวิชาขั้นที่สูงขึ้นไปอีกกับโสเครตีส
ในระหว่างนั้นความเป็นไปในนครเอเธนส์ล้วนมีแต่ปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อของศีลธรรม การเมือง และอาชญากรรม เพลโต
และโสเครตีสจึงได้ร่วมมือกันที่จะขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่โสเครตีสต้องถูกประหารชีวิตเสียก่อน
เนื่องจากรัฐบาลต้องการกำจัดบุคคลผู้ที่มีความคิดต่อต้านรัฐบาล
ทำให้อุดมการณ์ทางการเมืองของเพลโตต้องหยุดชะงักไปชั่วเวลาหนึ่งและเดินทางออกจากกรุงเอเธนส์ท่องเที่ยวไปตามเมืองต่าง
ๆ นานกว่า 10 ปี แต่ในที่สุดเขาได้เดินทางกลับกรุงเอเธนส์
และดำเนินการด้านการเมืองต่อไป หลังจากที่ออกจากกรุงเอเธนส์ไปแล้ว
เพลโตได้เดินทางไปที่เมืองเมการา เพื่อไปหายูคลิด
(Euclid)เพลโตได้พักอยู่กับยูคลิดเป็นเวลานาน
อีกทั้งยังได้ร่วมมือกันตั้งโรงเรียนขึ้นมาแห่งหนึ่งชื่อว่า สำนักปรัชญาเมการิก
โดยได้ร่วมกับนักปรัชญาอีกท่านหนึ่งนามพาร์มีนิดิส (Parminides)
ทำให้เพลโตได้ศึกษาหลักปรัชญาจากพาร์มีนิดิสได้อย่างลึกซึ้ง
ต่อจากนั้นเพลโตได้ออกเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ อีกหลายเมือง เช่น
อิตาลี อียิปต์ ไซรานี และซิซิลี เป็นต้น
ในระหว่างนี้เขาได้ศึกษาหาความรู้จากสำนักที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น
เขาได้เข้าศึกษาที่สำนักปีทาโกเรียน (Pythagorean) ของปีทาโกรัส ที่อิตาลี
ส่วนที่เกาะซิซิลี เพลโตได้เข้าศึกษา ณ สำนักของพระเจ้าไดโนซีอุสที่ 1แห่งไซราคิวส์
(King Dionysius I of Syracuse) นอกจากจะศึกษาหาความรู้แล้ว
เพลโตยังได้เผยแพร่แนวความคิดทางปรัชญาของเขาให้กับคนทั่วไปได้รับรู้
โดยการไปบรรยายตามสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่ง
แต่เพลโตกลับถูกต่อต้านและส่งผลร้ายกลับมาสู่ตัวของเขา คือ
เขาถูกจับไปขายเป็นทาสแต่โชคดีที่เพื่อนของเขาผู้หนึ่งได้ไปไถ่ถอนตัวเขาออกมา
หลังจากที่เพลโตได้เดินทางไปตามเมืองต่าง ๆ เป็นเวลานานหลายปี
อีกทั้งเขาก็ได้ศึกษาหาความรู้จนมีความเชี่ยวชาญในวิชาการต่าง ๆ หลายสาขา
ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับกรุงเอเธนส์ อีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเพลโตเดินทางมาถึงกรุงเอเธนส์ ประมาณ 387 ก่อนคริสต์ศักราช
เขาได้ตั้งโรงเรียนขึ้นแห่งหนึ่งที่กรุงเอเธนส์ชื่อว่า อะเคดามี (Academy)
ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับวิชาปรัชญา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์
อีกทั้งเขายังได้สร้างสวนเพื่อออกกำลังกายสำหรับนักศึกษาในอะเคดามี
เพราะหลักการในการเรียนการสอนของเพลโตมีอยู่ว่า ความรู้ทางการบริหาร
วรรณคดีและดนตรี เป็นการศึกษาเบื้องต้น
ซึ่งเป็นรากฐานของการศึกษาวิชาปรัชญาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์
ซึ่งเป็นวิชาในขั้นสูงต่อไป
ส่วนการเรียนการสอนในสถาบันแห่งนี้ก็ทันสมัยต่างจากการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมของกรีซ
ที่ลูกศิษย์มีหน้าที่นั่งฟังแต่เพียงอย่างเดียว เชื่อในสิ่งที่ครูบอกทั้งหมด
ห้ามโต้แย้งอย่างเด็ดขาด
แต่เพลโตได้ใช้วิธีการตั้งคำถามเพื่อให้ลูกศิษย์มีโอกาสได้พูด
ใช้เหตุผลในการตอบคำถาม และค้นคว้าหาความจริงด้วยตนเอง
การสอนแบบนี้ของเพลโตได้นำมาจากโสเครตีส อาจารย์ของเขานั่นเอง
โรงเรียนของเพลโตแห่งนี้มีผู้นิยมส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้สถาบันอะเคดามีของเพลโตยังได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลกอีกด้วย
การทำงานของเพลโตในสถาบันอะเคดามี เป็นไปได้ด้วยดี
และในระหว่างนี้เขายังได้ศึกษาหาความรู้หลายด้านทั้งปรัชญาจิตวิทยา ธรรมชาติ
และวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้เขายังได้รวบรวมแนวความคิดของนักปรัชญาทั้งหลายเพื่อใช้สอนในสถาบัน
และก็ได้ตั้งหลักปรัชญาขึ้นมาใหม่อีกหลายอย่าง โดยงานของเพลโตสามารถแบ่งออกมาได้ถึง
3 ระยะ คือ
- ระยะแรกประมาณบั้นปลายชีวิตของโสเครตีส
งานเขียนในระยะนี้จะมีแนวความคิดคล้ายคลึงกับโสเครตีสมากที่สุด
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณธรรม และความดี เช่น เลกีส (Leges)
เป็นเรื่องราวของการค้นคว้าหาความกล้า ไลสีส (Lysis)
เป็นเรื่องราวของการค้นหามิตรภาพ และคาร์มีดีส (Charmedes)
นอกจากนี้เพลโตยังได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวประวัติของโสเครตีสและเหตุการณ์ต่าง
ๆ ในกรุงเอเธนส์
- ระยะที่สองคือช่วงที่เขาออกเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งค่อนข้างจะมีหลากหลายลักษณะ เนื่องจากเขาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากนักปรัชญาหลายท่าน และในช่วงนี้เองที่เขาได้ตั้ง ทฤษฎีที่ว่าด้วย แบบ (Theory of Forms) ซึ่งเป็นทฤษฎีที่มาจากแนวความคิดของโสเครตีสที่ว่า ความรู้ทั้งปวงมาจากแบบ ละทฤษฎีที่ว่าด้วยแบบนี้เป็นหัวใจหลักของปรัชญาทั้งหมดของเพลโต แต่ทฤษฎีของเพลโตแตกต่างจากโสเครตีส เนื่องจากเพลโตนำมาขยายเนื้อหาทางอภิปรัชญาที่กว้างขวางขึ้น โดยแบบของเพลโตมีความเป็นอิสระและอยู่เหนือจิต เขาได้นำหลักปรัชญานี้มาจากการพิจารณาความเป็นไปของธณรมชาติอีกส่วนหนึ่ง และ ทฤษฎีนี้ยังได้กำหนดแนวความคิดทางวิทยาศาสตร์ด้วย โดยเพลโตกล่าวว่า การรับรู้จากสัมผัสทั้งหลาย ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ จะแตกต่างกันไปตามความคิดหรือสถานการณ์นั้น เช่น การที่มองเห็นสัตว์ตัวหนึ่ง จะไม่สามารถบอกได้ว่ามันมีขนาดใหญ่หรือเล็ก มันอาจจะมีขนาดใหญ่ถ้าไปเปรียบเทียบกับสัตว์ที่มีขนาดเล็กกว่า หรืออาจจะมีขนาดเล็กถ้าไปเปรียบเทียบกับสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า เป็นต้น และจากทฤษฎีข้างต้นเพลโตสรุปว่า โดยตัวของมันเองไม่มีสรรพสิ่งใด ๆ ในโลกนี้ที่มีลักษณะแน่นอนตายตัว
ผลงานในช่วงสุดท้ายของเพลโตเป็นสิ่งที่ชัดเจนมากที่สุด
เนื่องจากประสบการณ์และความรู้ที่มากมายของเพลโต
ภายหลังจากที่ตั้งสำนักอะเคดามีแล้ว ทำให้เขามีผลงานจำนวนมากที่สุด ได้แก่ ปรัชญา
จริยศาสตร์ การเมือง การศึกษา
และวิทยาศาสตร์ซึ่งสิ่งเหล่านี้เขาได้นำมาถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์ที่สถาบันอะเคดามี
และงานชิ้นสำคัญที่สุดในช่วงนี้ก็คืองานเขียนที่ชื่อว่า รีพับลิค (Republic)
ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเมืองในความคิดของเพลโต
แนวความคิดภายในหนังสือเล่มนี้
เกิดขึ้นจากสภาพการเมืองในกรุงเอเธนส์ที่วุ่นวายอย่างมากในขณะนั้น
หนังสือเล่มนี้ถือได้ว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเล่มหนึ่ง
ทั้งในขณะนั้นและต่อมาจนถึงปัจจุบัน
หนังสือเล่มนี้ได้เป็นหนังสือเรียนในวิชารัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง
เช่น มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เป็นต้น
กฎที่สำคัญทางวิทยาศาสตร์อีกชิ้นหนึ่งของเพลโต คือ
กฎที่เกี่ยวกับแสงที่ว่าแสงเดินทางเป็นเส้นตรง
เมื่อแสงมากระทบวัตถุมุมแสงตกกระทบจะเท่ากับมุมแสงสะท้อน
เป็นกฎที่ถูกต้องและยึดถือกันมาจนถึงปัจจุบัน เพลโตเสียชีวิตเมื่อ 347
ก่อนคริสต์ศักราช แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว
แต่แนวความคิดและผลงานทางวิทยาศาสตร์ของเขาก็มีอิทธิพลต่อนักปรัชญา
และนักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน
ทฤษฎีของ Plato เรื่องสิ่งสากล
โลกทัศน์อภิปรัชญาของเพลโต
นิทานเปรียบเทียบ