ศิลปะ หัตถกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม สันทนาการ >>

การจัดสวน

การจัดสวนไทย (Thai)

สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งป่าเขาลำเนาไพร ต้นน้ำลำธาร จึงไม่มีรูปแบบในการจัดสวนเป็นของตนเองโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่จะใช้ทำเลทางธรรมชาติที่มีอยู่แล้วเป็นเครื่องประกอบเสริมความงามและบรรยา-กาศเท่านั้น

การจัดสวนของไทยในสมัยโบราณเห็นได้จากหลักฐานในศิลาจารึก สมัยสุโขทัย

เป็นราชธานี "สร้างป่าหมาก ป่าพลู ทั่วเมืองนี้ทุกแห่ง ป่าพร้าว ก็หลายในเมืองนี้ ป่าลางก็หลายในเมืองนี้ หมากม่วงก็หลายในเมืองนี้ หมากขามก็หลายในเมืองนี้" จะเห็นได้ว่าสมัยสุโขทัยรู้จักการทำสวนผลไม้ปลูกผลไม้ไว้เป็นอาหารและให้ประโยชน์ในการให้ร่มเงา

ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีการปลูกไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งบริเวณพระราชวัง และตามบ้านเรือนต่าง ๆ มีทั้งไม้ใบไม้ดอก รวมทั้งไม้ดัด มีทั้งไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม ไม้เลื้อยทำรั้ว ขึ้นซุ้ม ให้ดอกผลและให้ร่มเงาดังจะเห็นได้จากเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ไว้หลายร้อยปีมาแล้ว ซึ่งกล่าวถึงภาพบ้านขุนช้างตอนขุนแผนขึ้นไปหานางวันทอง

"โจนลงกลางชานร้านดอกไม้
ของขุนช้างปลูกไว้ดาษดื่น
รวยรสเกสรเมื่อค่อนคืน
ชื่นชื่นลมชายสบายใจ
กระถางแถวแก้วเกดพิกุลแกม
ยี่สุ่นแซมมะสังดัดดอกไสว
สมอรัดตัดทรงสมละไม
ตะขบข่อยดัดไว้จังหวะกัน
ตะโกนาทิ้งกิ่งประดับยอด
ฯลฯ

 

จะเห็นได้ว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยามีการปลูกพรรณไม้ในลักษณะที่เป็นไม้กระถาง ไม้ดัด และยกร่องทำแปลง ไม้ดัดซึ่งตัดแต่งรูปทรงต่าง ๆ เป็นแม่แบบไม้ดัดไทยมาจนปัจจุบันนี้

สมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงโปรดให้สร้างพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และให้ปลูกไม้ดัดไว้ในพระบรมมหาราชวัง ดังปราฏก อยู่รอบสนามของพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยจนทุกวันนี้ นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นต้นมา ได้มีการจัดสวนไม้ประดับตกแต่งบริเวณพระที่นั่ง พระอุโบสถ โดยจัดสวนในลักษณะประดิษฐ์และสวนแบบจินตนาการ มีภูเขา สระน้ำ รูปปั้นสลักเป็นรูปสัตว์ รูปตุ๊กตาจีน รูปปั้นในวรรณคดี ส่วนพรรณไม้จะเป็นไม้พุ่มทรงต่าง ๆ รวมทั้งไม้ดัด เช่น ข่อย มะขาม ตะโก เป็นต้น ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้สร้างพระราชวังสราญรมย์ ซึ่งเป็นสวนสราญรมย์ในปัจจุบัน

ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์สนพระทัยในเรื่องต้นไม้อย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะพระองค์เสด็จประพาสต่างประเทศทั้งเอเชียและยุโรป ได้ทอดพระเนตรเห็นว่าภูมิประเทศบ้านเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะยุโรปเต็มไปด้วยสวนไม้ดอกที่ปลูกตกแต่งอย่างมีระเบียบงดงาม ถนนหนทางก็ร่มรื่น ด้วยเหตุดังกล่าวพระองค์จึงโปรดเกล้าให้ปลูกต้นไม้สองข้างถนนอย่างในต่างประเทศ เช่น ปลูกมะขามรอบ ๆ สนามหลวงและถนนราชดำเนิน เป็นต้น ในรัชสมัยของสมเด็นพระปิยะมหาราช ได้มีการติดต่อกับต่างประเทศ ศิลปะและสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ได้แพร่เข้ามาสู่ประเทศไทย การก่อสร้างพระบรมมหาราชวัง และสถานที่ราชการ ได้รับอิทธิพลตะวันตกมาผสมผสาน เช่น หัวเสา ประตู หน้าต่าง รูปปั้น เป็นต้น การจัดสวนบริเวณต่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน การปลูกพรรณไม้จะตกแต่งอย่างมีระเบียบปลูกเป็นแถว ตัดแต่งเป็นรูปทรงเดียวกัน ไม้ดอก ไม้คลุมดิน จะปลูกลงในแปลงรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งมักจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสลับด้วยไม้พุ่มเตี้ยตัดแต่งเป็นรูปกลมหรือรูปเหลี่ยม สนามจะปลูกหญ้าเป็นลานกว้างและบริเวณสนามหญ้าจะมีรูปปั้นแบบโรมันประดับริมทางเดิน หรือหน้าอาคาร สนามหญ้าที่กว้างนี้จะใช้เพื่อต้อนรับแขกเมือง และการแสดงดนตรี ทางเดินปูด้วยแผ่นหิน มีซุ้มไม้เลื้อย สระน้ำ น้ำพุ รูปปั้นสลัก และศาลาพักร้อน จะเห็นได้ว่าการจัดสวนส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะสวนแบบประดิษฐ์ และเนื่องจากไม้ดัดจะมีความกลมกลืนกับสถาปัตยกรรมไทย ดังนั้นไม้ดัด การก่อเขามอ. การปลูกบัว และไม้น้ำในภาชนะที่มีรูปทรงสวยงามจึงถูกนำมาตกแต่งเสริมเพิ่มให้สภาพสวนสวยงามยิ่งขึ้น

จากประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการเกี่ยวกับการจัดสวน จนถึงปัจจุบันนี้ รูปแบบการจัดสวนต่าง ๆ ยังถูกนำมาใช้ ทั้งลักษณะการจัดสวนแบบประดิษฐ์ แบบธรรมชาติและแบบจินตนาการโดยมีการดัดแปลงผสมผสานให้เกิดความสวยงาม รวมทั้งอำนวยประโยชน์ในเรื่องการใช้สอยเพิ่มขึ้นจนถึงทุกวันนี้

อิยิปต์ (Egypt)
เปอร์เซีย (Persia)
กรีก (Greek)
โรมัน (Roman)
การจัดสวนยุคกลาง
อังกฤษ (England)
จีน (China)
ญี่ปุ่น (Japan)
ไทย (Thai)

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย