สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>

ประวัติศาสตร์สังคม

ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ ภาควิชาประวัติศาสตร์
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ทำไมไม่เขียนประวัติศาสตร์สังคม
การขึ้นมาของประวัติศาสตร์สังคม
ประวัติศาสตร์วิพากษ์
โศกนาฏกรรมของประวัติศาสตร์ (Tragedy of history)
ประวัติศาสตร์กับความจริงทางสังคม (History and social reality)
ปฏิกิริยาต่อประวัติศาสตร์สังคม
บรรณานุกรม

ปฏิกิริยาต่อประวัติศาสตร์สังคม

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงในทางปรัชญาและทฤษฎีที่ใช้ในการวิเคราะห์และให้คำอธิบายต่อความจริงทางสังคมเกิดใหม่ๆมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นการต่อเนื่องของการวิพากษ์และปฏิกิริยาต่อการวิพากษ์เหนือทฤษฎีใหญ่ๆทั้งหลาย หากระยะต้นศตวรรษที่ 20 นำมาสู่การเกิดขึ้นของความจริงที่มาจากหลายศูนย์และหลายมิติ ไม่ได้มีศูนย์กลางอยู่ที่ปรัชญาแสงสว่างของยุโรปเพียงสำนักเดียว และปรัชญาวิธีการของสำนักปฏิฐานนิยม (Positivism) ก็ถูกวิพากษ์ลงไปด้วย(สุนัย 2533 ;Kolakowski, 1972) ช่วงปลายศตวรรษที่แล้ววิกฤตของทฤษฎีและการปฏิบัติของระบบสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ สร้างวิกฤตศรัทธาอย่างแรงแก่ทฤษฎีลัทธิมาร์กซ ในขณะที่ความล้มเหลวในการพัฒนาประเทศโลกที่สามที่เป็นอดีตอาณานิคมของตะวันตก ยิ่งขยายให้เห็นมายาคติของทฤษฎีเสรีนิยมและการพัฒนาภายใต้การนำของระบบทุนนิยมแบบตะวันตก ทั้งหมดทำให้ระบบความรู้และทฤษฎีสมัยใหม่ทั้งหลายตกอยู่ในภาวะวิกฤตและงงงันต่อการชี้นำอนาคตของสังคมโลกต่อไป

ท่ามกลางภาวะการณ์ดังกล่าว แนวความคิดและทฤษฎีที่ได้รับการกล่าวขวัญและนำมาใช้ในการวิพากษ์สภาพการณ์ที่ดำรงอยู่ก็คือบรรดาทฤษฎีและแนวคิดเชิงวิพากษ์ทั้งหลาย เช่นสำนัก "หลังโครงสร้างนิยม" (poststructuralism) สำนัก "ถอดโครงสร้าง" (deconstructionists) ทั้งหมดนี้เรียกรวมๆกันว่าเป็นสำนัก “หลังสมัยใหม่” (Post-modern) การเกิดขึ้นของแนวคิดหลังสมัยใหม่จึงเป็นปฏิกิริยาโดยตรงต่อทฤษฎีความรู้ของลัทธิสมัยใหม่ ต่อปรัชญาปฏิฐานนิยมและต่อลัทธิเหตุผลนิยม ความคิดหลังสมัยใหม่บอกว่าเรื่องภววิสัยที่นักประวัติศาสตร์เคยเชื่อและเรียกร้องกันอยู่นั้นเป็นมายาภาพ(illusion) และการคิดว่าสัจธรรมเกี่ยวกับโลกสังคมและฟิสิคซ์มีเพียงหนึ่งเดียวที่คนเราสามารถเข้าถึงได้นั้นก็เป็นเพียงเรื่องตลกเช่นเดียวกัน

นักคิดสำคัญที่ช่วยในการวิพากษ์ได้แก่โธมัส คุน(Thomas Kuhn) ผู้กล่าวว่า "การเคลื่อนไหวที่จับคู่กันพอดีระหว่างความรู้ในทฤษฎีและโลกที่เป็นจริงของมันในธรรมชาติ บัดนี้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าดูเหมือนจะเป็นภาพลวงตาในทางหลักการเสียแล้ว"(Kuhn 1970) คนที่ดังมากในหมู่ปัญญาชนไทยคือมิเชล ฟูโกต์ก็ช่วยถอดโครงกระดูกในตู้ของประวัติศาสตร์สมัยใหม่ออกมาด้วยการตีแผ่ให้เห็นพันธมิตรอย่างแน่นแฟ้นระหว่าง"อำนาจ" กับ "ระบบหรือทฤษฎีความรู้"(Michel Foucault 1994) จ๊าค แดริดา (Jacques Derrida1984).) วิพากษ์จากแง่มุมของตัวบทหรือ text ในขณะที่ Clifford Geertz เปิดการตีความใหม่ทางด้านวัฒนธรรมที่เขาได้รับจากประสบการณ์ในภาคสนามในแอฟริกาและอุษาคเนย์(ในอินโดนีเซียเป็นหลัก) Paul Ricoer(1965) และ Charles Taylor ทางด้านวัฒนธรรม ปรัชญาและภาษาศาสตร์ ทั้งนี้ยังไม่ต้องพูดถึงกระแสจิตวิเคราะห์ที่มาจากงานของฟรอยด์ซึ่งมีส่วนทำให้การวิเคราะห์ทางประวัติศาสตร์เจาะลึกลงไปในเรื่องของความรู้สึกที่ไม่ใช่เหตุผลได้ ทั้งหมดนี้ล้วนบ่อนทำลายแนวคิดปฏิฐานนิยมที่วางอยู่บนการรับรู้จากประสบการณ์ลงไปอย่างถึงแก่น

ในวงการประวัติศาสตร์และสังคมศาสตร์ไทยก็มีงานวิพากษ์แนวใหม่เกิดขึ้นเช่นกัน ดังตัวอย่างจากผลงานที่ผ่านมาของนิธิ เอียวศรีวงศ์(2527ก), ของกลุ่ม "เศรษฐศาสตร์การเมือง" ภายใต้การนำของฉัตรทิพย์ นาถสุภา(2528) จากนักรัฐศาสตร์ของสมบัติ จันทรวงศ์(2533) สมเกียรติ วันทะนะ(2527, 2530) และเกษียร เตชะพีระ(2532.)และล่าสุดที่สั่นสะเทือนการตีความประวัติศาสตร์ไทยแบบเก่าอย่างแรงได้แก่งานของธงชัย วินิจจะกูล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิฤทธิ์ของการวิพากษ์แบบ"ถอดโครงสร้าง" และ “หลังสมัยใหม่” เป็นต้น(2533 และ Thongchai Winichakul1994)

 

ในบรรดากลุ่มและบุคคลที่วิพากษ์ประวัติศาสตร์ไทยเดิมนั้น สำนักถอดโครงสร้าง/หลังสมัยใหม่ ดูจะมาแรงกว่าเพื่อน ทั้งนี้เพราะสิ่งที่พวกนี้สงสัยและวิพากษ์ล้วนแต่เป็นความเชื่อและวิธีการพื้นฐานที่นักประวัติศาสตร์ไทยเดิมใช้กันมาโดยตลอด ถ้าเลิกความเชื่อทางประวัติศาสตร์และวิธีการอันนี้แล้วก็ไม่รู้จะเป็นนักประวัติศาสตร์ไทยเดิมอยู่ได้อย่างไร ดังนั้นการดำรงฐานะของนักประวัติศาสตร์อีกต่อไปนั้นจึงหลีกไม่พ้นที่จะต้องถกเถียงกันถึงปัญหาที่ดูยุ่งเหยิงเหล่านี้ อาจจะทำให้ชีวิตของนักประวัติศาสตร์ไทยที่สับสนอยู่แล้ว จะต้องสับสนวุ่นวายกันอีกมากขึ้น

ล่าสุดธงชัย วินิจจะกูลใน “ประวัติศาสตร์แบบโพสต์โมเดิร์น” (ธงชัย 2544) เสนอข้อคิดของคนทำงานประวัติศาสตร์ไทยที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับสำนักหลังสมัยใหม่ได้อย่างไร เขากล่าวว่าโพสต์โมเดิร์นเกิดขึ้นเพื่อท้าทายวิพากษ์ความรู้แบบวิทยาศาสตร์ ความเป็นเหตุเป็นผล และสัจธรรมหนึ่งเดียวที่มนุษย์สามารถรู้ได้ ว่าทั้งหมดนั้นเป็นการสร้างหรือแต่งขึ้นของนักวิชาการทั้งหลายในรองสองศตวรรษที่ผ่านมา แต่นักโพสต์โมเดิร์นก็ไม่ได้ปฏิเสธวิทยาศาสตร์หรือเหตุผลนิยม จริงๆแล้วถือว่าเป็นเพียง “ความรู้ความเข้าใจสังคมแบบหนึ่งเท่านั้นเอง สัจจะที่ค้นพบก็เป็นแค่หนึ่งเท่านั้นเอง เพราะไม่มีสัจจะแบบแน่นอนจริงแท้แต่ประการเดียว สัจจะที่พิสูจน์แล้วทั้งหลายต่างก็สัมพัทธ์ทั้งนั้น”

กล่าวในหลักการแล้ว โพสต์โมเดิร์นปฏิเสธรากฐานหรือหัวใจของภูมิปัญญาสมัยใหม่ แต่ “มิใช่ด้วยการล้มล้างหรือโยนทิ้งความรู้ความคิดเหล่านั้น แต่ทว่าด้วยการท้าทายว่าการรับรู้และเข้าใจโลกแบบนั้นๆ ไม่ควรมีอำนาจหรือถือว่าเป็นหัวใจ หรือเป็นรากฐานตัดสินความถูกผิดแต่ผู้เดียวอีกต่อไป ไม่ควรมีอำนาจเบียดขับหรือทำลายความรู้ประเภทอื่น”

ท่าทีและจุดยืนในการตีความและใช้โพสต์โมเดิร์นจึงแตกต่างหนักเบากันไปตามความเข้าใจของนักวิชาการแต่ละคนด้วย แนวคิดและวิธีการของธงชัย ต่างจากคนอื่นๆในสังคมไทย ตรงที่ว่าเขาทำงานรูปธรรมคืองานศึกษาค้นคว้าวิจัยทางประวัติศาสตร์ และเป็นประวัติศาสตร์ไทย แต่อยู่และนำเสนอในโลกตะวันตก จึงทำให้มีความละเอียดอ่อนต่อการรับ(ของนอก)โดยที่ตนเองเป็นคนใน แต่ทำในเรื่องของนอก(ตะวันตก) นอกจากนั้นการที่เขาต้องนำเสนองานประวัติศาสตร์ที่เป็นงานรูปธรรมตลอดเวลา ทำให้การวิพากษ์ ท้าทาย ปฏิเสธอย่างสุดขั้วเป็นการมัดมือตนเอง กล่าวคือทำไม่ได้ แม้จะรู้สึกเห็นด้วย แต่งานหลักเขาคือการนำเสนอวาทกรรมที่กำเนิดและโตมากับวาทกรรมและทฤษฎีเก่าๆทั้งหลายทั้งนั้น ธงชัยจึงสรุปว่าโพสต์โมเดิร์นมีอิทธิพลแต่ไม่ใช่ทางด้านทฤษฎี ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติหรือการวิเคราะห์สังคมอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่สิ่งที่มีอิทธิพลของมันอยู่ที่การ “ท้าทายรากฐานวิธีคิด รับรู้สังคมมนุษย์ใน 2-3 ศตวรรษที่ผ่านมา นี่เองที่ทำให้มันมีผลกระทบกว้างขวางมาก ในแทบทุกสาขาวิชาด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์.....โดยที่ตัวมันเองมิได้เสนอทฤษฎีหรืออุดมการณ์ข้อเสนอรูปธรรมใดๆเลย”

ประวัติศาสตร์สังคมไทยยังรอการสร้างและวิพากษ์วิจารณ์อยู่อีกมาก อนาคตของการเขียนและการศึกษาประวัติศาสตร์สังคมจึงยังท้าทายนักประวัติศาสตร์ไทยอยู่ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยขณะนี้กำลังมุ่งไปสู่การสลายโครงสร้างและระเบียบแบบแผนเก่าในสังคมไทย แม้กระทั่งความคิดและการรับรู้ก็จะขยับจากฐานเดิมที่เคยมีสัจธรรมหรือความจริงอันเดียว มาสู่ความรับรู้ใหม่ที่หลากหลายที่มีหลายมิติ ไม่ใช่ความจริงเพียงอันเดียว ดังที่ธงชัย วินิจจะกูลพูดไว้ว่า เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น "คนเราจะอธิบายแบบไหน จะจริงหรือไม่จริงก็แล้วแต่ ลองดูว่าเขาอธิบายอย่างไรจึงสื่อสารมาถึงความทรงจำของเราได้" เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีความเป็นไปได้ที่สมมติฐานเดิมที่ประวัติศาสตร์สกุลดำรงราชานุภาพสร้างไว้นั้นอาจคลายพลังยึดเหนี่ยวความคิดทางประวัติศาสตร์ไทยลงไป ประวัติศาสตร์ไทย"หลังสมัยใหม่" ก็จะแตกหน่อเติบโตกันได้

ผู้เขียนเชื่อว่าประวัติศาสตร์สังคมไทยจะสามารถพัฒนายกระดับเป็น"ประวัติศาสตร์ของสังคมทั้งหมด"ได้ ดังตัวอย่างผลงานจำนวนหนึ่งที่ปรากฏออกมาแล้ว เช่น ประวัติศาสตร์สังคมว่าด้วยส้วมฯ และนางงามตู้กระจก (ศุลีมาน 2537)เป็นต้น ภารกิจในระยะยาวคือประวัติศาสตร์สังคมที่เป็นของทั้งสังคมนี้ จะสามารถเข้ามาช่วยอธิบายและตีความอดีตมาถึงปัจจุบันของรัฐและสังคมไทยต่อคนรุ่นใหม่ๆโดยเฉพาะในปริมณฑลทางการเมืองได้มากน้อยเพียงไร นี่เป็นอนาคตที่น่าติดตาม เพราะหมายความว่าเราอาจมีสำนักประวัติศาสตร์แห่งชาติใหม่ๆและหลากหลายเกิดมากขึ้นด้วย

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย

🍁 สงครามมหาเอเซียบูรพา
ญี่ปุ่นได้ประจักษ์แน่ชัดว่า สงครามโลกครั้งที่สอง จะต้องเกิดขึ้นอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เป็นโอกาสที่ญี่ปุ่น จะบุกเข้าทางดินแดนในอาณานิคมของชาติผิวขาว ในทวีปเอเซีย จึงได้ให้กองทัพญี่ปุ่นยับยั้งการรบในประเทศจีน

🍁 สงครามเกาหลี
กองทัพเกาหลีเหนือประกอบด้วย กำลังทหารราบในแนวหน้า 7 กองพล กองหนุน 3 กองพล มีกำลังประมาณ 60,000 คน ได้เคลื่อนกำลังผ่านเส้นขนานที่ 38 ลงมายังสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) อย่างจู่โจมโดยที่เกาหลีใต้ไม่ทันรู้ตัว

🍁 โหราศาสตร์ไทย
วิชาที่ใช้ทายกาลล่วงหน้าหรือดูการล่วงหน้า ใช้สำหรับพยากรณ์ผลกรรมของมนุษย์โดยอาศัยดวงดาวเป็นเครื่องพยากรณ์

🍁 การเมืองการปกครอง
ถ้าไม่อยู่ในฐานะผู้ปกครองก็จะอยู่ในฐานะผู้ถูกปกครอง เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีความจำเป็นที่มนุษย์จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเมืองการปกครองตามอัตภาพของตน

🍁 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาประชาธิปไตย
กลไกหลักของสังคมไทยที่จะผลักดันให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

🍁 โสฬสปัญหา
ธรรมชั้นสูงในพระพุทธศาสนา มีความลึกซึ้งทั้งในด้านอรรถะ คือ ความหมายทั้งในด้านพยัญชนะคือ ถ้อยคำสำนวน

🍁 คำคมจากขงเบ้ง
อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย

🍁 การจัดระเบียบทางสังคม
การจัดระเบียบสังคมเป็นกระบวนการที่สมาชิกได้พัฒนาการกระทำระหว่างกันทางสังคมอย่างมีระเบียบ โดยสมาชิกส่วนรวมของสังคมได้ยอมรับเป็นแนวความประพฤติร่วมกัน

🍁 การควบคุมทางสังคม
วิธีการและกระบวนการทั้งหมด ซึ่งกลุ่มหรือสังคมใช้ในการให้สมาชิกของสังคมปฏิบัติตามที่สังคมคาดหวัง

🍁 ลัทธิของค้านท์
ลัทธิที่ยึดมั่นในคุณธรรมหรือเหตุผลอย่างเคร่งครัด หรือ Moral Purism แปลว่า บริสุทธิ์นิยมทางศีลธรรม หรือบางทีก็เรียกว่า หน้าที่นิยม เพราะเน้นที่หน้าที่เป็นหลัก

🍁 ประชุมพงศาวดาร
การศึกษาหาความรู้พงศาวดาร และตำนานเก่าย่อมถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งใน การศึกษาทั่วทุกประเทศ

🍁 อปริหานิยธรรม 7
ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความไม่เสื่อม 7 ประการ ผู้ปฏิบัติ ธรรมนี้จะเป็นไปเพื่อความเจริญทั้งฝ่ายบ้านเมืองและฝ่ายสงฆ์

🍁 จริยธรรม
จริยธรรมไม่แยกเด็ดขาดจากศีลธรรม แต่มีความหมายกว้างกว่าศีลธรรม

🍁 พุทธศาสนสุภาษิต

🍁 ภาษิต คติพจน์ ของอังกฤษ

🍁 คมคำบาดใจ

🍁 ปรัชญาชาวบ้าน

🍁 ปรัชญาจากพระคัมภีร์ไบเบิล

🍁 บทเพลงสากลจากอดีต (แปลไทย)

🍁 สุภาษิตจีน

🍁 สุภาษิตสอนหญิง

🍁 ภาษิตจีนโบราณ

🍁 ปราชญ์สอนว่า (ขงจื้อ)

🐍 โปรดระวังงูฉก

ร่างกายคนเราตั้งแต่หัวจรดเท้า
ล้วนอุดมไปด้วยสิ่งสกปรกและเน่าเหม็น
ที่ผ่านการปรุงแต่งแปลงโฉม
และซ่อนเร้นอำพรางไว้อย่างเป็นระบบระเบียบ

เพื่อให้ง่ายแก่การจดจำ
น่าดูน่าชมและน่าค้นหา

เก็บซุกข้อเสีย
และจิตวิญาณชั่วร้ายไว้ภายใน
เสริมสร้างบุคลิกภาพตบตา
ปกปิดด้วยสมบัติผู้ดี
กลบเกลื่อนด้วยมารยาททางสังคม

ช่างสวยสดงดงามแท้
มารยาผู้คน.

🐍 งูเขียว หางบอบช้ำ : เขียน

เชิญแวะอ่านสักนิดสักหน่อยก็ยังดี...

🌿 เสียมเรียบ นครวัด นครธม
นครวัด สิ่งมหัศจรรย์ของโลก อนุสาวรีย์แห่งความยิ่งใหญ่เยี่ยงมดตัวน้อยตัวนิด วงกลมเล็กๆ ที่ชื่อว่าความเชื่อ ในวงกลมใหญ่ที่เรียกว่าความศรัทธา ยืนยันคำพ่อแม่สั่งสอน ความเพียรพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น สักครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสมองเห็นนครวัด ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้ ย่อมตายตาหลับแล้ว เหล่ามนุษยชาติ

🌿 มาเก๊ามรดกโลก
ดินแดนแห่งการพนันและคาสิโน มาเก๊ามีความทรงจำแห่งอดีตตรงโน้นนิดตรงนี้หน่อยตกหล่นเกลือนกราดไปทั่ว และยังมีโบราณสถานเก่าแก่อีกมากมาย มีความทันสมัยให้เสพสุข มีโชคให้เผชิญ

🌿 สะพายเป้ แบกกล้อง ล่องใต้
การที่ได้รู้จักตัวตนแท้จริง ในสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้มีโอกาสสักครั้งก็นับว่าได้ใช้ชีวิตคุ้มค่า ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้ให้ได้คิดถึงคนึงหา ศรัทธาที่จะดำรงค์อยู่อย่างกล้าหาญและน้อมมอบ

ยังมีอีก »


ชีวิตเริ่มต้นอีกครั้งหลังเกษียณ
ภูจอมยุทธ | Podcast

ชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง หิวก็กินง่วงก็นอน อยากทำอะไรก็ทำ เบียดเบียนสภาพแวดล้อมแต่พองาม ประสบการณ์แบ่งปันผู้คน มากบ้างน้อยบ้าง วัดกับร้านเหล้าถือเป็นสถานอโคจร ที่ต้องรักษาระยะห่าง คลิกดู👆