สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>

ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ

ทางเลือกนโยบายไทยต่อสหรัฐฯ (Policy Options)

ส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งในเรื่องนโยบายต่างประเทศไทยต่อสหรัฐฯ คือ ทางเลือก (options) จริงๆแล้วไทยไม่ได้มีทางเลือกมากนักในแง่ที่ว่า ไทยมักจะถูกประเทศอภิมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯมากดดันในเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไทยต้องตอบสนอง สหรัฐฯจะเป็นฝ่ายรุก ไทยจะเป็นฝ่ายรับ สหรัฐฯจะรุกให้ไทยทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน ในแง่ของทางเลือก ไทยจะมีทางเลือกอย่างไร

• ทางเลือกที่ 1 (Option 1) : ต่อต้านสหรัฐฯ (Anti-USA)
• ทางเลือกที่ 2 (Option 2) : ทำตามสหรัฐฯ สนับสนุนสหรัฐฯทุกด้าน เหมือนสมัยสงครามเย็น (pro USA)
• ทางเลือกที่ 3 (Option 3) : พยายามมีความสัมพันธ์กับสหรัฐฯในลักษณะที่ไม่มาก หรือไม่น้อยไปกว่าความสัมพันธ์กับมหาอำนาจอื่นๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น ยุโรป (equi-distant)

ทางเลือกที่ 1 : ต่อต้านสหรัฐฯ (Anti-USA)
ถ้าไทยมีนโยบายต่อต้านสหรัฐฯ ไทยจะได้อะไร เสียอะไร สิ่งที่ไทยจะได้คือ จะได้ในส่วนที่เชื่อว่าสหรัฐฯเป็นศัตรู เป็นต้นตอวิกฤติเศรษฐกิจของไทย เป็นผู้นำของจักรวรรดินิยมสมัยใหม่ ดังนั้น ในการดำเนินนโยบายต่อต้านสหรัฐฯ จะลดภัยนี้ลงไป

แต่ถ้ามองในผลเสีย ถ้าไทยต่อต้านสหรัฐฯ สหรัฐฯก็จะต่อต้านไทยด้วยเช่นเดียวกัน สหรัฐฯซึ่งเป็นอภิมหาอำนาจมีเครื่องมือที่จะมาลงโทษไทยหลายด้านด้วยกัน เช่น การลงโทษทางเศรษฐกิจ การตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ตัด GSP ตัดความช่วยเหลือ การลงโทษทางด้านการเมือง ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศต่างๆ การทหาร ความมั่นคง เพราะฉะนั้นผลเสียคือ สหรัฐฯสามารถตอบโต้ไทยได้มากมาย ขณะที่ไทยไม่สามารถตอบโต้สหรัฐฯได้ นอกจากนั้น ไทยจะเสียโอกาสด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้า การลงทุน ความช่วยเหลือ

และด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า ไทยควรจะต่อต้านสหรัฐฯ ซึ่งหากไทยไปต่อต้านสหรัฐฯไทยคงจะได้ไม่คุ้มเสีย ไทยอาจจะได้ในเรื่องของการเอาใจกระแสชาตินิยมในประเทศ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองภายใน แต่ถ้ามองถึงผลเสีย ผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และด้านยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่ไทยคิดว่าจะได้จากสหรัฐฯก็จะถูกกระทบ

ทางเลือกที่ 2 : การอิงสหรัฐอเมริกา (Pro-US)
ถ้าทางเลือกที่ 2 คือ “pro” สหรัฐฯ สนับสนุนสหรัฐอย่างเต็มที่ ยอมสหรัฐฯในทุกๆเรื่อง ถ้าดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบ “pro” สหรัฐฯ ไทยจะได้อะไร เสียอะไร

ผลดีที่จะได้คือ จะได้โอกาสด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ความช่วยเหลือ และความสัมพันธ์อันดีด้านการเมืองความมั่นคง สหรัฐฯมีความเป็นอภิมหาอำนาจ ไทยมีความจำเป็นที่จะต้องไปยืนข้างสหรัฐฯ ในทางกลับกัน ผลเสียคือ จากการที่ไป “pro” สหรัฐฯ หากว่าระบบโลกเป็นแบบหลายขั้ว ไทยจะเสียโอกาสในการที่จะได้ประโยชน์จากมหาอำนาจอื่นๆ ไทยพึ่งพิงสหรัฐฯมากเกินไป โดยลดความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน หรือญี่ปุ่น เป็นการเสียโอกาส ถ้ามองระบบความมั่นคงในอนาคตเป็นระบบหลายขั้วอำนาจ ทางเลือกที่ดีคือ การที่จะไปมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้ง 3 ขั้วอำนาจ หรือหลายๆขั้วอำนาจ นอกจากนี้ หากในอนาคตเป็นความขัดแย้งระหว่างอารยธรรม (Clash of Civilizations) การที่ “pro” สหรัฐฯ ในที่สุดแล้ว สหรัฐฯก็จะไม่เอาไทย เพราะไทยไม่ใช่ตะวันตก ในความขัดแย้งระหว่างอารยธรรมตะวันตกกับอารยธรรมอื่นๆ ผลประโยชน์ที่ไทยจะหวังว่าจะได้จากสหรัฐฯ ในการที่จะไปยอมสหรัฐฯทุกเรื่อง จะได้จริงหรือไม่ ขณะที่สหรัฐฯก็จะมองผลประโยชน์ของตะวันตกก่อน

ที่ผ่านมา เริ่มมีกระแสออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลในอดีตจนถึงปัจจุบัน “pro” สหรัฐฯมากเกินไป และจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นว่า การที่ไทย “pro” สหรัฐฯมาโดยตลอด ก็ไม่ได้ผลอะไรมากมายนัก

ทางเลือกที่ 3 : นโยบายระยะห่างเท่าเทียมกัน (Equidistant Policy) หรือ นโยบายสายกลาง
ทางเลือกที่ 3 คือ การดำเนินนโยบายต่อสหรัฐฯในลักษณะที่ให้ความสำคัญหรือให้น้ำหนักที่ไม่น้อยไม่มากไปกว่ามหาอำนาจใดมหาอำนาจหนึ่ง เช่น จีน ญี่ปุ่น ยุโรป หมายถึง เดินสายกลางในการกำหนดนโยบายต่างประเทศ ไม่ “pro” ไม่ “anti”ใคร ถ้ามองในแง่นี้ น่าจะเป็น ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด นโยบายต่างประเทศที่ดีต้องไม่เสี่ยงมาก การกำหนดนโยบายต่างประเทศจะต่างจากการกำหนดนโยบายธุรกิจ เพราะการกำหนดนโยบายทางด้านธุรกิจจะมีความเสี่ยงเข้ามา ทางเลือกใดความสี่ยงมากก็จะให้กำไรมาก คือจะมีทางเลือกที่ว่าจะยอมเสี่ยงเพื่อให้ได้กำไรมากหรือไม่ แต่นโยบายต่างประเทศ กำไรไม่มีความหมายสำหรับผู้กำหนดนโยบาย สรุปคือ ผู้กำหนดนโยบายต่างประเทศหรือนโยบายสาธารณะจะไม่พยายามเสี่ยง มักเป็นนโยบายที่เดินสายกลาง ถ้าเลือกทางเลือกที่ 3 ผลประโยชน์ที่ได้ ไม่ว่าโลกจะเป็น 2 ขั้ว (bipolar) 1 ขั้ว (unipolar) หรือหลายขั้ว (multipolar) ไทยก็คงไม่เสียอะไรมาก ถ้าเป็น “Clash of Civilization” ทางเลือกที่ 3 จะเป็นจุดยืนของอารยธรรมที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ทางเลือกที่ 3 คือ นโยบายสายกลาง คือ ไม่ต่อต้านมากไป และไม่ “pro”มากไป พยายามหาจุดสมดุลระหว่างผลดี-ผลเสีย การดำเนินนโยบายเช่นนี้ค่อนข้างปลอดภัยที่สุดและการดำเนินนโยบายก็มีหลายสูตร สูตรที่เป็นกลางจริงๆก็หมายความว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศมหาอำนาจแต่ละประเทศก็จะเท่าเทียมกัน ซึ่งจะเป็นสูตร 33.33 : 33.33 : 33.33 นอกจากสูตรนี้ ก็มีอีกหลายสูตร เช่น เข้าไปใกล้ชิดสหรัฐอเมริกามากหน่อย สูตร 40 : 30 : 30

» ช่วงก่อนสงครามเย็น-1960

» ช่วงทศวรรษ 1970-1990

» ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ในยุควิกฤติเศรษฐกิจ

» ท่าทีไทยในช่วงหลังเหตุการณ์ 11 กันยาฯ

» ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลทักษิณ

» ไทยกับสงครามอิรัก

» ทักษิณเยือนสหรัฐฯ

» ทหารไทยในอิรัก

» Bush เยือนไทย

» สถานะพันธมิตรนอกนาโต้

» สถานการณ์ความสัมพันธ์ล่าสุด

» การเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐฯ

» สหรัฐฯต้องการอะไร

» ไทยต้องการอะไร

» การเจรจา

» ผลเสียของ FTA ไทย-สหรัฐฯ

» ผลดีของการทำ FTA ไทย-สหรัฐฯ

» ยุทธศาสตร์การเจรจา FTA ไทย-สหรัฐฯ

» สภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศ

» ประเด็นปัญหาความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ

» สหรัฐอเมริกา : ภัยหรือโอกาสต่อไทย

» อนาคตของความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา

» ทางเลือกนโยบายไทยต่อสหรัฐฯ (Policy Options)

» นโยบายสายกลาง

» บทสรุป

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย