สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
เหตุการณ์หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475
กลไกของรัฐตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
การปฏิรูปสภาผู้แทนราษฎร
การปฏิรูปวุฒิสภา
การปฏิรูปกระบวนการนิติบัญญัติ
การปฏิรูประบบราชการ
ศาลปกครอง
ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
การปฏิรูปสภาผู้แทนราษฎร
มีการเปลี่ยนแปลงหลายประเด็นทั้งในเรื่ององค์ประกอบ ที่มา อำนาจหน้าที่ ได้แก่
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจำนวนทั้งสิ้น 500 คน แยกเป็น2 ประเภท คือ
ประเภทที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 คน
และประเภทที่มาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน (มาตรา 98)
- ระบบการเลือกตั้งมีการเปลี่ยนแปลงใหม่จากระบบที่ ส.ส.
มาจากการเลือกตั้งเขตละ 1 ถึง 3 คน มาเป็นระบบการเลือกตั้งแบบผสมระหว่างเขตละ 1
คน และระบบบัญชีซึ่งพรรคการเมืองเสนอ ซึ่งได้แบบมาจากประเทศญี่ปุ่นและเยอรมัน
(มาตรา 99 และมาตรา 102)
การมี ส.ส. เขตละ 1 คน นอกจากจะทำให้เกิดความเสมอภาคในหมู่ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งแล้ว ยังเป็นการทำให้คนดีมีความสามารถ สามารถต่อสู้กับผู้ที่ใช้เงินได้เพราะเขตเลือกตั้งไม่ใหม่นัก
การมี ส.ส. จากบัญชีรายชื่อก็เป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ทำให้คนดีมีความสามารถและไม่ต้องการใช้เงินในการเลือกตั้ง สามารถเข้าทำงานในสภาผู้แทนราษฎรได้
- กำหนดให้การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ หากผู้ใดไม่ไปเลือกตั้งโดยไม่มีเหตุอันควร
จะเสียสิทธิหรือผลประโยชน์ตามที่กฎหมายบัญญัติ (มาตรา 68) ขณะเดียวกัน
รัฐจะต้องอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิที่อยู่นอกภูมิลำเนาด้วย
วิธีการนี้มีขึ้นเพื่อทำให้การซื้อสิทธิขายเสียงเป็นไปได้ยากเพราะผู้ซื้อเสียงจะต้องซื้อเสียงเป็นจำนวนมากและไม่แน่ว่าจะได้รับการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ยังกำหนดให้รัฐสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องต่อไปนี้
(1) จัดที่ปิดประกาศและที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสาธารณสถานซึ่งเป็นของรัฐ
(2) พิมพ์และจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งไปให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง
(3) จัดหาสถานที่หาเสียงเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง
(4) จัดสรรเวลาออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ให้แก่พรรคการเมือง - กำหนดให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เป็นอิสระ และเป็นกลาง
เป็นผู้จัดการเลือกตั้งแทนกระทรวงมหาดไทยและนักการเมือง (มาตรา 136-148)
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจหน้าที่สำคัญ คือ การตรากฎหมาย (มาตรา 172-174) ซึ่งแยกเป็นกฎหมายธรรมดาและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ (มาตรา 172) การอนุมัติงบประมาณ (มาตรา 179-180) และยกเลิกงบ ส.ส. (มาตรา 180 วรรค 6) ทั้งนี้เพราะสภาผู้แทนราษฎรหรือกรรมาธิการจะแปรญัตติหรือกระทำการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาหรือกรรมาธิการมีส่วนไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายจะกระทำไม่ได้ และการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ได้แก่ การตั้งกระทู้ธรรมดา (มาตรา 183) และการตั้งกระทู้สด (มาตรา 184) ยกเลิกการให้เปิดอภิปรายคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ แต่ให้มีการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแทน (มาตรา 185) การเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล (มาตรา 186) การตั้งกรรมาธิการสามัญและวิสามัญเพื่อกระทำกิจการพิจารณาสอบสวน หรือศึกษาเรื่องใดๆ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร (มาตรา 189) และในกรณีที่ร่างพระราชบัญญัติใดมีสาระสำคัญเกี่ยวกับเด็ก สตรี และคนชรา หรือผู้พิการหรือทุพพลภาพ สภาผู้แทนราษฎรจะต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นประกอบด้วยผู้แทนองค์การเอกชนเกี่ยวกับบุคคลประเภทนั้น มีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมาธิการทั้งหมด (มาตรา 190)