วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
คติรักของวัยรุ่น
เด็กวัยรุ่นมักฝันเฟื่องซึมซับ
และซาบซึ้งไปกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่อ่านพบจากเทพนิยาย ภาพยนตร์ เพลงและหนังสือ
จนเกิดการยอมรับและเกิดทัศนคติบางอย่างเกี่ยวกับความรักโดยหลบหลีกการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
และคติรักแบบเทพนิยาย ซึ่งมักจะพบในวัยรุ่นรุ่นเยาว์ทั้งหลาย มีดังนี้
คติรักข้อที่ 1. สักวันหนึ่งฉันจะได้พบคนที่ถูกใจที่สมบูรณ์แบบ
เป็นความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะต้องได้พบคู่รักที่ดีพร้อมสรรพเหมือนกับเจ้าหญิง
เจ้าชายในเทพนิยายนั่นแหละ
และเมื่อถูกพรมลิขิตขีดเส้นมาให้พบกันแล้วต่างก็จะตกหลุมรักและรักกันตลอดไปตราบนานเท่านาน
ความรู้สึกนี้อยู่บนรากฐานของความรักด้วยใจพิศวาสปรารถนาหรือ Romantic Love
และเพราะการตกหลุมรักใครสักคนจะก่อให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น สุขสม
คนที่มีคติรักแบบนี้
จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดรักแรกพบเนื่องจากจะมุ่งมองแต่ส่วนดีและคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายนั้นดีพร้อม
ความต้องการของคู่รัก แบบนี้จะหวังเพียงการได้อยู่ด้วยกัน ทำอะไรร่วมกันด้วยความสุข
แต่เมื่ออารมณ์รักรุนแรงผ่านพ้นไป และเริ่มมองเห็นข้อบกพร่องของกันและกัน
ต่างก็จะรู้สึกว่าได้มองกันผิดไปตั้งแต่ต้น แต่ถ้าหากคู่รักนั้นมีวุฒิภาวะพอ
เขาจะสามารถปรับตัวเข้าหากัน แก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง
ยอมรับข้อเสียของอีกฝ่ายหนึ่งได้มากขึ้น และสานความรักให้มั่นคงต่อไป
เพราะในความเป็นจริงแล้ว ในสัมพันธภาพระหว่างกัน
ย่อมมีทั้งเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายจะมีอารมณ์เสีย อารมณ์ดี
และมีเวลาแห่งความทุกข์และความสุข
คติรักข้อที่ 2. รักแท้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิต
คติรักแบบนี้อยู่บนความเชื่อที่ว่ารักแท้มิใช่ความหลงใหลลุ่มหลง
คนที่เชื่อในคติรักข้อนี้ จะสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างรักแท้กับอารมณ์อื่นๆ
ออกจากกันได้ นอกจากจะผ่านประสบการณ์ความรักมายาวนาน เช่น
ตกหลุมรักหลายครั้งแล้วก็พบในบั้นปลายว่าไม่ได้เป็นรักแท้
แต่เป็นแค่อารมณ์หลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรียกว่าใช้ประสบการณ์เป็นครู
จนสามารถเข้าใจความรู้สึกของตนเองได้อย่างถ่องแท้
เมื่อยามรักคนมักจะเชื่อว่านี่คือรักแท้
แต่พอพบว่าไม่ใช่ก็จะแสวงหาไปเรื่อยๆ ทั้งที่จริงแล้ว
ความรักเพียงอย่างเดียวมิได้ทำให้ความสัมพันธ์นั้นงอกงามและยืนนาน
หากมีอีกหลายปัจจัยทีเดียวที่จะทำให้การครองรักยืนยาวมั่นคง
ดังนั้นรักแท้จึงมิได้ประกอบด้วยความรู้สึกรักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
คติรักข้อที่ 3. ความรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เมื่อกำลังตกอยู่ในความรัก คนมักจะหวังว่ารักนั้นนิรันดร
หรือจะรักกันตราบเท่าฟ้าจูบลาดิน หรืออะไรหวานๆ ทำนองนี้ และคำพูดที่พบเสมอๆ
ของคนที่ถือคติรักแบบนี้คือ " สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเรา คือ
เรารักกันและกัน " หรือ " ความรักของเราจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง "
แต่ในโลกความเป็นจริง ความรักเป็นความรู้สึกที่เปราะบาง และเปลี่ยนแปลงได้
เพราะความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก บางครั้งมักถูกแทนทีด้วยอารมณ์อื่นๆ
ภายใน เช่น ความโกรธ ความกลัว ความวิตกกังวล หวาดระแวง ความเครียด
ซึ่งมาบดบังทำให้ความรักหายไปชั่วขณะ หรืออาจถึงขนาดทำลายความรักให้หมดสิ้นไปได้
แต่ถ้ามีการร่วมกันเผชิญหน้ากับปัญหาและช่วยกันแก้ไขก็จะทำให้ความรักนั้นเพิ่มพูน
และลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ความรักจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ยิ่งนานวันความตื่นเต้นระทึกใจหรือความหวามไหวในอารมณ์ค่อยๆ จางลง
เพราะความรักปะปนด้วยอารมณ์หลายรูปแบบ บางครั้งก็เจือความรู้สึกอ่อนหวานนุ่นนวล
บางครั้งยิ่งอยู่นานก็จะยิ่งรักกันลึกซึ้งมากขึ้น แต่บางครั้งก็อาจจะจืดจางเย็นชา
ดังนั้นความจริงของความรักข้อหนึ่งก็คือ ความรักไม่เคยเหมือนเดิม
แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
คติรักแบบที่ 4. สิ่งภายนอกกำหนดความรัก
คนที่ยึดถือคติรักข้อนี้จะเชื่อว่าความรักเกิดจากสิ่งที่ฝังอยู่ในความรู้สึกของตัวเราเอง
แต่กลับเชื่อว่าเพราะพฤติกรรมของเขา บุคลิกภาพของเขา ประสบการณ์หรือเหตุการณ์
บางอย่างเป็นตัวกำหนดให้เราต้องตกหลุมรัก
ในขณะที่ความเป็นจริง คนเรากำหนดคุณค่าของความรัก
หรือลักษณะของคนที่จะรักไว้ในใจแล้ว
เมื่อมาเจอคนที่มีอะไรบางอย่างตรงกับที่วาดหวังเอาไว้ ก็จะปักใจรักได้ในทันที
ดังนั้นความรักจึงขึ้นอยู่กับใจของเราเอง นักประพันธ์เรืองนามชื่อ สจ๊วต เอเมอลี
เคยอธิบายว่า ถ้าเราเปิดใจและพร้อมที่จะรัก
เราก็สามารถจะเกิดความรักกับใครสักคนได้ที่อยู่ใกล้ชิด
และมีคุณสมบัติตรงกับที่ใจเราต้องการ
คติรักข้อที่ 5. ความรักขจัดได้ทุกปัญหา
มีคู่รักหลายคู่ที่คาดหวังในตัวอีกฝ่ายไว้ว่า เมื่อคุณรักฉัน
คุณต้องช่วยฉันแก้ปัญหาในทุกเรื่อง คือ นึกถึงแต่ความต้องการของตัวเอง
จนลืมมองถึงความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่ง รวมทั้งลืมนึกไปว่าถึงจะรัก
แต่ก็มิได้หมายความว่า
เจ้าอารมณ์รักนี้จะช่วยให้ปัญหาหรือความขัดแย้งถูกละเลยหายไปได้ง่ายๆ
ในความเป็นจริง ความรักไม่ได้เป็นตัวแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้หมดไป
แต่อาจเป็นตัวสร้างปัญหาขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ แต่ในอีกมุมหนึ่ง
ความรักจะทำให้คนเราเติบโตขึ้น ถ้าเรารู้จักเผชิญหน้า เพื่อแก้ปัญหา
ความรักเป็นเสมือนการเตรียมศักยภาพให้พร้อม เพื่อพัฒนาคนให้เจริญเติบโตขึ้น
คนที่เชื่อในคติรักที่ว่า " ความรักขจัดได้ทุกปัญหา "
มักจะเกิดความผิดหวังว้าวุ่นใจ
เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังที่คาดหวังเอาไว้
อย่างไรก็ตาม
ความรักจะช่วยแก้ปัญหาได้ก็ต่อเมื่อต่างฝ่ายต่างก็ได้คำนึงถึงจิตใจและความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่ง
เพราะความรักย่อมเป็นแรงจูงใจให้อยากช่วยแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว
แต่โดยลำพังความรักเองไม่สามารถจะแก้ปัญหาอะไรได้
หากแต่เป็นตัวกระตุ้นให้คู่รักหันหน้าเข้าหากัน
คุยกันและช่วยกันคิดว่าจะหาทางแก้ไขต่อไปอย่างไรดี
คติรักข้อที่ 6. ความรักที่ดีที่สุด คือ
ความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว
ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเห็นแก่ตัวหรือไม่เห็นแก่ตัว
เพราะพฤติกรรมของคนเราขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
ซึ่งมีอยู่หลากหลายอารมณ์ เช่น ถ้าอารมณ์ไม่ดี
เราก็อาจทำอะไรที่แสดงถึงความเห็นแก่ตัวออกมาได้
หรือไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกคาดหวังว่าคนที่รักกันน่าจะทำให้แก่กัน
แต่ในคู่ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจะพบว่าเป็นคู่ที่ต่างก็ให้ความนับถือ
ให้อิสระแก่กัน และคำนึงถึงความรู้สึกของกันและกันเสมอ คือยอมรับว่า " เธอคือเธอ
และฉันคือฉัน " ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดความคาดหวังในกันและกันมากจนเกินไป