สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
พัฒนาการของมนุษย์
พัฒนาการของมนุษย์ในยุครามาพิเธคัส
พัฒนาการของมนุษย์ในยุคออสตราโลพิเธคัส (Australopithecus)
พัฒนาการของมนุษย์ในยุคโฮโม แฮบิลิส (Homo Habilis)
พัฒนาการของมนุษย์ในยุคโฮโม อีเรคตัส (Homo Erectus)
พัฒนาการของมนุษย์ในยุคโฮโม เซเปียนส์ (Homo Sapiens)
เผ่าพันธุ์ของมนุษย์
พัฒนาการของมนุษย์
มนุษย์กลุ่มแรกถือกำเนิดและมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 20,000,000 ปีมาแล้ว
แต่ก็มีคำถามมากมายที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า
ที่ผ่านมานั้นมนุษย์ใดมีการเปลี่ยนแปลงเป็นไปในลักษณะใดและอย่างไรบ้าง
นอกเหนือจากปัญหาซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแน่นอนว่ามนุษย์และวานรนั้นสืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน
นักมานุษยวิทยาเป็นผู้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับมนุษย์โดยตรง
นักวิชาการสาขานี้พยายามค้นคว้าหาหลักฐานเพื่ออธิบายแหล่งกำเนิด
ความเป็นมาและวิวัฒนาการทางด้านกายภาพและทางด้านวัฒนธรรม (ความคิด) ของมนุษย์
ส่วนนักวิชาการด้านอื่นๆ
ที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากันในการศึกษาเกี่ยวกับความเป็นมาของมนุษย์ก็คือ
นักโบราณคดี นักชีววิทยา นักกายวิภาคศาสตร์ เป็นต้น
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกไพรเมต (Primate)
สันนิษฐานว่าไพรเมตเริ่มแรกเป็นพวกสัตว์กินแมลงอาศัยอยู่ตามต้นไม่มีลักษณะคล้ายกระแต
หากินในเวลากลางคืน ต่อมาปรับตัวหากินในเวลากลางวันห้อยโหนต้นไม้คล่องขึ้น
และวิวัฒนาการมาเป็นลิง
ลำดับขั้นไพรเมต แยกเป็น 2 ลำดับขั้นย่อย คือ
- พวกไพรเมตชั้นต่ำ ได้แก่ พวกลิงลม และลิงทาร์ซิเมอร์ ซึ่งถือว่าเป็นบรรพบุรุษของพวกไพรเมตชั้นสูง มีนิ้วบางนิ้วเริ่มมีเล็บแบน และมีหางยาวคล้ายกับลิงอื่นๆ แต่หน้ายังยื่นยาวคล้ายหนูและมีเบ้าตาลึก
- พวกไพรเมตชั้นสูง แบ่งเป็น 3 พวก ดังนี้
- พวกที่ 1 ลิงโลกใหม่ เป็นลิงที่มีรูจมูลกว้าง มีหางทำหน้าที่คล้ายมือและเท้าในการจับกิ่งไม้ แขนขายาว ห้อยโหนเต็มที่ พบมากในทวีปอเมริกาใต้และอเมริกากลาง
- พวกที่ 2 ลิงโลกเก่า เป็นลิงที่มีรูจมูกใหญ่หางไม่ได้ทำหน้าที่ช่วยจบกิ่งไม้เหมือนกับพวกที่ 1 พบมากที่ทวีปแอฟริกาใต้ เอเชียและยุโรป จึงเรียกว่าเป็นลิงในโลกเก่า ได้แก่ ลิงบาบูน ลิงแสม ลิงกัง ค่าง
- พวกที่ 3 ลิงไม่มีหาง เข้าใจกันว่ามีวิวัฒนาการสืบทอดมาจากลิงในโลกเก่า แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ พวกวานรมนุษย์ซึ่งมีเขี้ยวใหญ่เลยระดับฟันแถวเดียวกัน จนต้องมีช่องว่างระหว่างฟันไว้รับปลายเขี้ยว มีการเดินโดยใช้ 4 ขา ได้แก่ ชะนี อุรังอุตัง ชิมแปนชี กอริลลา อีกกลุ่มคือ พวกมนุษย์
ลักษณะสำคัญของตระกูลโฮมินิเด คือ มีเขี้ยวเล็กและอยู่ในระดับเดียวกับฟันอื่น เดิน 2 ขา จากการพบซากดึกดำบรรพ์ ทำให้แบ่งตระกูลนี้ได้เป็น 3 สายพันธุ์ คือ รามาพิเธคัส ออสตราโลพิเธคัส และโฮโม
ฉะนั้น นักวิชาการเกี่ยวกับมนุษย์สาขาต่างๆ
สรุปความเห็นตรงกันว่าทวีปแอปริกาคือถิ่นกำเนิดของมนุษย์มนุษย์ในยุคแรกๆ
ที่พบหลักฐานคือ มนุษย์วานร กล่าวกันว่า มนุษย์วิวัฒนาการมาจากสัตว์สกุลลิงใหญ่
(Ape) เมื่อประมาณ 4 ล้านปีมาแล้ว คือเริ่มลงมาเดินสองขาที่เราเรียกว่า
ออสตราโลพิเธคัส (Australopithecus) และต่อมาได้วิวัฒนาการมาเป็นโฮโม แฮบิลิส (Homa
Habilis) หรือมนุษย์ที่รู้จักใช้เครื่องมือ 2.5 ล้านปีมาแล้ว)
และพัฒนาต่อมาเป็นโฮโม อีเรคตัส (Homo Erectus) หรือมนุษย์ที่ยืนตัวตรง 1.5-2
ล้านปี) และวิวัฒนาการต่อมาเป็นมนุษย์ปัจจุบัน คือ โฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์ (Homo
Sapiens Sapiens หรือมนุษย์ผู้ชาญฉลาดยิ่ง) เมื่อประมาณ 1-2 แสนปีที่ผ่านมา
ในช่วงก่อนวิวัฒานการมาสู่ขั้นโฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์
ต้นบรรพบุรุษมนุษย์วิวัฒนาการโดยอาศัยหลักเดียวกับสิ่งที่มีชีวิต สัตว์ พืช อื่นๆ
คือ การปรับตัวเพื่อการเคลื่อนไหวที่ใช้สองขา การเพิ่มขนาดของสมองฯลฯ เป็นต้น
โดยมีปัจจัยพิเศษเพิ่มเติม คือ การรู้จักใช้เครื่องมือหยาบๆ ตั้งแต่ยุคของโฮโม
แฮบิลิสเมื่อ 2.5 ล้านปีมาแล้ว รวมทั้งการรู้จักใช้ไฟ การรวมกลุ่ม
การสร้างที่พักอาศัย ในช่วงของโฮโมอีเรตัส เมื่อ 1.5 ล้านปีมาแล้ว
แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนของการใช้ระบบภาษา
ถ้าเราถือว่าภาษาเป็นปัจจัยสำคัญสุดของความเป็นมนุษย์
เราก็คงเรียกช่วงนี้ว่าเป็นช่วงก่อนวัฒนธรรม (pre-culture) หรือกึ่งวัฒนธรรม (quasi
culture)
ในช่วงการเกิดโฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์ มีลักษณะพิเศษเกิดขึ้นกับมนุษย์
นั่นคือการพัฒนาสมองซึ่งนอกจากจะมีขนาดใหญ่ขึ้นจาก 1,000 ลูกบาศก์เซนติเมตรของโฮโม
อีเรคตัส เป็น 1,300
ลูกบาศก์เซนติเมตรแล้วยังเป็นการพัฒนาการสมองในส่วนซึ่งมีบทบาทช่วยในความสามารถในการใช้ภาษากับการคิดที่เป็นรูปธรรมขึ้นด้วย
จากจุดนี้ได้นำมนุษย์ไปสู่การวิวัฒนาการทางความคิดและวัฒนธรรม
ช่วงการพัฒนาความสามารถทางภาษาและจินตนาการของมนุษย์ปัจจุบัน
จึงเกิดมาเมื่อเพียง 5 หมื่นปีเศษมานี้เอง เพราะเป็นช่วงที่เราพบในเชิงศิลปะ
พิธีกรรม ของมนุษย์อย่างแพร่หลาย กว้างขวาง และนับจากนั้นมนุษย์ก็ได้อาศัยภาษา
ศิลปะ จินตนาการของตน พัฒนาตัวเอง ทั้งในด้านเครื่องมือ เสื้อผ้า
เครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆ จนพัฒนาตัวเองไปอย่างรวดเร็ว
เราจึงอาจเรียกวิวัฒนาการในช่วงนี้ของมนุษย์ว่าเป็นขั้นตอนของการใช้วัฒนธรรมทั้งความคิดและวัตถุ
(Ideational กับ material culture)
เป็นปัจจัยสำคัญและก็เป็นที่สังเกตได้ว่ามนุษย์ได้หยุดกระบวนการวิวัฒนาการเชิงกายภาพในช่วงนี้
ยกเว้นแต่การปรับตัวเล็กน้อยเพื่อเข้ากับสภาพแวดล้อมเฉพาะ