สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
มานุษยวิทยา
ชาติพันธุ์วรรณา
เป็นรากฐานของวิชามานุษยวิทยาวัฒนธรรม คำว่า “Ethnography” มาจากรากศัพท์ 2 คำ
คือคำว่า “Ethno” แปลว่าเชื้อชาติหรือประชากร และคำว่า “Graphein” แปลว่าการเขียน
เมื่อรวมคำทั้ง 2 เข้าด้วยกันแปลได้ว่าการเขียนเกี่ยวกับประชากรกลุ่มต่างๆ
“ชาติพันธุ์วรรณา” จึงหมายถึง การพรรณนาถึงวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม
ประเพณีหรือวัฒนธรรมที่เฉพาะของสังคมใดสังคมหนึ่ง
เพื่อให้รู้จักวัฒนธรรมนั้นๆได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น
การพรรณนาเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าต่างๆ ชาวจีน ชาวญวน
ชาวมอญหรือชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นๆในประเทศไทย
หรือเป็นการพรรณนาเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของอินเดียนแดงเผ่าต่างๆ
ในประเทศอเมริกา หรือสังคมระดับชนเผ่าต่างๆของทวีปออสเตรเลียหรือแอฟริกา เป็นต้น
ในช่วงแรกๆของการศึกษาชาติพันธุ์วรรณา นักมานุษยวิทยาใช้ข้อมูลของนักสำรวจ
นักเดินทาง นักสอนศาสนาที่ได้บันทึกวัฒนธรรมของสังคมต่างๆไว้ ต่อมาในศตวรรษที่ 19
นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมในกลุ่มชาติพันธุ์วรรณาเริ่มมีความเห็นตรงกันว่า
ข้อมูลเหล่านั้นค่อนข้างมีอคติและมีความไม่เป็นกลางอีกทั้งยังเชื่อถือไม่ได้
จึงเลิกใช้มูลดังกล่าว นับเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานวิจัยสนาม (Field work)
โดยการกระตุ้นของโบแอส (Boas)
ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของมานุษยวิทยาวัฒนธรรมในอเมริกา
(จะกล่าวโดยละเอียดในส่วนของระเบียบวิธีวิจัยทางมานุษยวิทยา)
นับตั้งแต่นั้นมานักมานุษยวิทยาทุกคนจะเก็บข้อมูลด้วยตัวเองโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยสนาม
เนื่องจากงานวิจัยสนามเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาอบรมของผู้จะเป็นนักมานุษยวิทยาอาชีพ
ดังนั้นนักมานุษยวิทยาทุกคนจึงเป็นนักชาติพันธุ์วรรณาไปด้วยในขณะเดียวกันจวบจนกระทั่งปัจจุบันนักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมได้ทำการศึกษาทางชาติพันธุ์วรรณาทั่วโลกเป็นจำนวนมากกว่า
2,000 สังคม ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆแพร่ไปยังนักวิชาการสาขาอื่นๆด้วย
การศึกษาของนักชาติพันธุ์วรรณาเป็นลักษณะการศึกษาในเชิงการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างวัฒนธรรมต่างๆ
ทำให้เกิดการศึกษาข้ามวัฒนธรรม (Cross Cultural Study)
คือความเข้าใจในเรื่องความเป็นมนุษย์ทางมานุษยวิทยาที่ผู้เรียนวิชานี้ต้องศึกษาและฝึกฝนก็คือ
การที่ต้องรู้ตักตัวตนของตัวเองก่อนว่าอยู่ในกลุ่มไหน พวกไหน
มีวีธีคิดและสภาพชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรและแตกต่างไปจากคนกลุ่มอื่นๆอย่างใดบ้าง
เมื่อรู้จักว่าเขาแตกต่างอย่างไรแล้วก็ต้องมาเปรียบเทียบดูว่าท่ามกลางความแตกต่างนั้นมีอะไรที่เหมือนกันในความเป็นมนุษย์บ้าง
นอกจากนั้นงานศึกษาทางชาติพันธุ์วรรณา จะเป็นข้อมูลสำหรับนักมานุษยวิทยาใช้
ในการเปรียบเทียบวัฒนธรรมต่างๆเพื่อค้นหาธรรมชาติของพฤติกรรมมนุษย์แล้ว
งานศึกษาทางชาติพันธุ์วรรณายังสามารถเอื้อแก่นักสังคมศาสตร์สาขาอื่นๆที่สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้ตามวัตถุประสงค์ในศาสตร์ของตัวเองได้อีกด้วย
» ความเป็นมาของวิชามานุษยวิทยา
» ความหมายและขอบข่ายของวิชามานุษยวิทยา
» สาขาย่อยของวิชามานุษยวิทยาและตัวอย่างงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
» ชาติพันธุ์วิทยาหรือมานุษยวิทยาวัฒนธรรม
» การศึกษามานุษยวิทยาในประเทศไทยและสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง
» แนวคิดและทฤษฎีทางมานุษยวิทยา