วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
รามเกียรติ์
ฉบับร้อยแก้ว
ศึกท้าวไวยตาล
ท้าวจักรวรรดิ์แค้นมาก ยกทัพออกมารบเป็นครั้งที่สอง แต่ไม่แพ้ไม่ชนะ จนค่ำจึงกลับเข้าเมือง แล้วคิดได้ว่ายังมีเพื่อนชื่อท้าวไวยตาล เจ้าเมืองกุรุราชที่มีศาสตราวุธพิเศษ จึงให้เสนาถือสาสน์ไปเชิญมารบ ท้าวไวยตาลได้มาช่วยท้าวจักรวรรดิ์รบกับทัพของพระพรตและพระสัตรุต
เมื่อท้าวไวยตาลเพลี่ยงพล้ำก็คิดว่าศัตรูมีกำลังกล้าแข็ง ควรจะไปทำพิธีบูชากระบองให้เกิดมีฤทธิ์ แล้วจึงขอหย่าศึกกลับเข้าเมือง ท้าวจักรวรรดิ์เมื่อรู้ว่า ท้าวไวยตาลจะไปทำพิธีชุบกระบอง ก็ให้เพตราไปขัดตาทัพไว้ก่อน พิเภกทูลพระพรตว่า ทัพที่ยกมาไม่ไช่ไวยตาล เพราะไวยตาลกลับไปบาดาลเพื่อทำพิธีชุบกระบองตาล ให้ชี้ทางต้นตาย ชี้ทางปลายเป็นและไม่ตาย
พระพรตได้สั่งให้องคตไปรบกับเพตราส่วนนิลพัท ให้ไปทำลายพิธี นิลพัทได้ขอเอาอสุรผัดไปด้วย เมื่อนิลพัทและอสุรฟัดไปถึงก็หายตัวเข้าไป แล้วนิลพัทแปลงตัวเป็นพระกาฬ เข้าสู้รบกับไวยตาลที่กำลังทำพิธี จนเสียพิธี ก็พากันกลับมาดักรออยู่ที่ทางเข้าเมือง นิลพัทแปลงเป็นยักษ์นั่งอยู่ข้างทาง แล้วให้อสุรผัดคอยเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เมื่อไวยตาลยกทัพกลับมาพบเข้า นิลพัทแกล้งทูลว่า ตนเป็นทหารอยู่ลงกาถูกทารุณจนอยู่ไม่ได้ ต้องลงมาขอพึ่ง ไวยตาลเชื่อพาเข้าเมือง ระหว่างทางได้กลายร่างเดิมเข้าต่อสู้กับไวยตาล อสุรผัดเข้าช่วยรบด้วย จนฆ่าไวยตาลตายแย่งกระบองไปได้ ส่วนองคตก็ฆ่าเพตราตาย ท้าวจักรวรรดิ์รู้ข่าวก็เสียใจและโกรธแค้น ยกทัพมารบเองเป็นครั้งที่สามกับพระพรต ไม่แพ้ไม่ชนะ จนค่ำจึงหย่าศึกกลับเข้าเมือง