ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

ตำรายืดหดเส้นเอ็น ล้างพิษเพิ่มไขกระดูก

โดย : ท่านปรมจารย์ตักม้อโจวซือ (พระโพธิธรรมมหาเถระ)

 

กระบวนท่าที่หนึ่ง : ยืดหดเส้นเอ็น
กระบวนท่าที่สอง : ล้างพิษเพิ่มไขกระดูก

             "ตำรายืดหดเส้นเอ็น" นี้ ท่านต้กม้อโจวซือ (พระโพธิธรรมมหาเถระ) เป็นผู้นำมาจากชมพูทวีป ท่านตักม้อเป็นชาวอินเดีย ได้เขียนตำรายืดหดเส้นเอ็นและตำราล้างพิษไขกระดูก ไว้ที่วัดเส้าหลิน ในสมัยพระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้
               เมื่อได้แปลตำราทั้งสอง ซึ่งเป็นภาษาบาลี มาเป็นภาษาจีนแล้ว ชาววัดเส้าหลินก็ฝึกเป็นการใหญ่ แต่เป็นตำราที่ฝึกยาก ต้องตั้งใจจริงๆ จึงจะประสบความสำเร็จได้ คำพูดของท่านตักม้อโจวซือพูดกับศิษย์ของท่านที่ฝึกว่า
"คนนี้ได้แค่ผิวของเรา
คนนี้ได้แค่เนื้อของเรา
คนนี้ได้แค่กระดูกของเรา"
               และท่านอาจารย์พูดกับศิษย์ที่ชื่อฮุ่ยค้อของท่านว่า
"เจ้าได้ไขกระดูกของเราไป"
                ความหมายที่ว่าเรียนยากก็เป็นเช่นนี้เอง

ตำราว่าด้วยการยืดหดเส้นเอ็นนี้ มีด้วยกัน 2 กระบวนท่า คือ
กระบวนท่ายืน
กระบวนท่านั่ง
ต่างมีทั้งหมด 12 กระบวนท่า เช่นกัน
                   ตำรานี้ใช้สติเป็นที่ตั้ง อิริยาบถช้าๆ นุ่มนวล เป็นหัวใจของการบริหารลมหายใจเข้าออกอย่างช้าๆลึก และแผ่วเบา เป็นปัจจัยเอื้ออำนวยให้การบริหารเกิดประสิทธิภาพอย่างสมดุล

ทางเดินของพลัง
                 การเคลื่อไหวปลายนิ้วมือและเท้า จะเกิดพลังชีวิตเป็นกระแสตรงไปสู่อวัยวะภายในอย่างเป็นระบบ มนุษย์จะสามารถใช้จิตที่ฝึกเป็นสมาธิดีแล้ว กระตุ้นพลังชีวิตนี้ นำเลือดไปหล่อเลี้ยงจุดหมายที่ต้องการได้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังที่แพทย์จีนโบราณเรียกว่า "ชี่กง" การบริหารร่างกายจึงจำเป็นต้องฝึกจิตไปด้วย เพื่อนำมารักษาโรคบางโรคให้หายได้อย่างง่ายดาย เพราะพลังปลายนิ้วทั้งหมดกระตุ้นให้เลือดและลมปราณเดินสะดวก
                   ท่าเหล่านี้ จึงเหมือนการคุ้มครองอวัยวะทั้งหมด ให้ชะลอการเสื่อมโทรมได้ตามความสามารถของผู้ฝึกแต่ละคน ที่หมั่นเพียรฝึกฝนไม่ย่อท้อ

 

การบริหารท่านั่ง และท่ายืน
ท่ายืน
เน้นหนักการบริหารจากภายนอก รักษาอวัยวะภายในให้แข็งแรง
ท่านั่ง
เน้นหนักการใช้ลมปราณเดินให้ได้ครบวงจร ก็จะรักษาอวัยวะภายในให้แข็งแรงได้เช่นกัน
                   เพราะฉะนั้น วิธีการฝึกจึงต้องให้ตัวตั้งตรงเสอม ยิ่งไม่ไหวติงได้เท่าใดก็จะได้ผลมากเท่านั้น ส่วนอิริยาบถต้องช้าเหมือนการฝึกในกระบวนท่าที่หนึ่ง ลมหายใจก็เช่นกัน ต้องอย่าลืมว่าถ้าหายใจแรงๆเร็วๆ จะทำให้ลมปราณติดขัด บางครั้งหายใจไม่ออกทันที จะเกิดอาการเจ็บปวดมาก
                    ควรปิดปากสนิท ขณะฝึก ฟันล่างและฟันบนชิดกัน ปลายลิ้นดุนฟันไว้เบาๆ จิตต้องเพ่งเข้าภายในสะดือ (ตันเถียนกลาง) ตลอดเวลา ยามเดินลมปราณในท่าต่างๆ
                     การฝึกจิตของจีนโบราณ ท่านกำหนดศูนย์พลังแห่งชีวิต หรือลมปราณแล่นเข้าออกอยู่ 3 จุด โดยใช้ชื่อว่า
- ตันเถียนบน อยู่หว่างกลางหัวคิ้วทั้งสองที่หน้าผาก
- ตันเถียนกลาง อยู่ภายในสะดือลึกเข้าไป 2 นิ้ว
- ตันเถียนล่าง อยู่ระหว่างทวารหนักและทวารเบา เป็นจุดสำคัญที่ของร่างกาย
                      การฝึกที่ประสบความสำเร็จแล้ว สามจุดนี้จะมีพลังชีวิตมหาศาล เดินถึงกัน และทรงพลังตลอดชีวิต   เมื่อฝึกครบวงจรแล้วก็ต้องกลับที่เดิมคือ จุดตันเถียนกลาง สติจะช่วยให้ผู้ฝึกไม่วอกแวก เกิดความสงบทางใจ

ท่าเตรียมพร้อม
- ยืนตรง   หันหน้าทิศตะวันออก
- แยกขาออก    ให้ระยะเท่ากับความกว้างของไหล่
- ปลายเท้าและส้นเท้า   ตรง อย่าเอียงเข้าหากัน
- ทำจิตให้นิ่ง    ไม่คิดอะไรให้วอกแวก ขุ่นมัว เลื่อนลอย
- หน้าตรง   คางเชิดนิดๆ
- ฟัน   ล่างและบนประชิดกันเบาๆ
- ลิ้น   กระดกไว้ที่เพดานปาก
- นัยตา   มองตรงนิ่ง ไม่กระพริบบ่อยนัก
- อิริยาบถ   ต้องช้าๆ จึงจะฝึกได้ผลดี
- ริมฝีปาก   ปิดสนิทยิ้มหน่อยๆ ใจจะเบิกบานเอง หายใจลึกๆ ช้าๆ ให้ถึงท้อง เมื่อจบแต่ละท่าหายใจลึกๆ อีก 3 ครั้ง จะไม่เหนื่อยเร็ว
                  เมื่อจบท่าหนึ่ง จะเริ่มท่าต่อไป ต้องเริ่มตั้งท่าเตรียมพร้อมนี้ทุกครั้งก่อนเสมอ จนครบ 12 ท่า ฝึกท่าละ 49 ครั้งทุกท่า ยกเว้นท่า 11-12

กระบวนท่าที่หนึ่ง : ยืดหดเส้นเอ็น
กระบวนท่าที่สอง : ล้างพิษเพิ่มไขกระดูก
  

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย