สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
สังคมวิทยา
<<< สารบัญ >>>
การจัดลำดับช่วงชั้นทางสังคม (Social Stratification)
การขัดกันทางชนชั้น
ในสังคมหนึ่ง ๆ นั้น จะประกอบขึ้นด้วยหลายชนชั้น เช่น คนมีและคนจน
นายจ้างและลูกจ้าง เป็นต้น
ซึ่งบุคคลในแต่ละชนชั้นย่อมมีแบบการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ขอยกตัวอย่างเช่น
คนมีเงินนั่งรถเก๋ง เล่นกอล์ฟ และแต่งกายหรูหรา ส่วนคนจนเดินถนน โหนรถเมล์
และแต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาถูก เหล่านี้เป็นต้น เพราะฉะนั้น จึงเห็นได้ว่า ชนชั้น
มีส่วนสำคัญในการบ่งชี้ชะตาชีวิตของบุคคลในด้านต่าง ๆ นับตั้งแต่ถิ่นที่อยู่อาศัย
สถานศึกษา ระดับการศึกษา การประกอบอาชีพ การสมรส และ ฯลฯ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า
ชนชั้นสูงย่อมมีโอกาสในการเลือกแบบการดำเนินชีวิตในด้านต่าง ๆ
ได้มากกว่าและดีกว่าชนชั้นที่ต่ำกว่า
ดังนั้น ปัญหาสังคมที่สำคัญยิ่งประการหนึ่ง ก็คือ
อันตรายอันเกิดจากช่องว่าง (Gap) ระหว่างชนชั้น กล่าวคือ
ถ้าช่องว่างระหว่างคนมั่งมีกับคนยากจนห่างกันมาก เท่าไร (ชนิดที่เรียกว่า
กู่กันไม่ได้ยิน) ก็จะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสังคม มากขึ้นเพียงนั้น
เพราะจะเกิด การขัดกันทางชนชั้น อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากความ
ไม่เข้าใจกันในด้านต่าง ๆ ระหว่างชนชั้นดังกล่าวและจะนำไปสู่ การต่อสู้ทางชนชั้น
เมื่อชนชั้นหนึ่งเกิดความรู้สึกว่า ชนชั้นตนนั้นเป็นชนชั้นที่ถูกเอาเปรียบ
การศึกษาเรื่อง การจัดลำดับชนชั้นทางสังคม ช่วยให้สามารถเข้าใจถึง
โครงสร้างทางสังคม เช่น ช่วยให้ทราบว่าชนชั้นในสังคมหนึ่ง ๆ นั้นมีกี่ชนชั้น และ
ในแต่ละชนชั้นนั้น มีจำนวนมากน้อยเท่าใด นอกจากนั้น
ยังช่วยให้ทราบพฤติกรรมทางสังคมของบุคคล เช่น การร่วมมือ, การประสานงาน,
การขัดแย้ง, ตลอดจนผลประโยชน์และทิศทางของความสนใจระหว่างสมาชิกของชนชั้นต่าง ๆ
ขอยกตัวอย่างเช่น สังคมที่มีชนชั้นมากมายและมีช่องว่างระหว่างชนชั้นห่างไกลกันมาก
คือ คนรายก็รวยจนล้นฟ้า ส่วนคนจนก็ชนิดไม่มีผ้าจะนุ่ง
ทิศทางแห่งความสนใจของคนในแต่ละชนชั้นย่อม แตกต่างกัน กล่าวคือ
คนรวยก็จะพูดคุยกันถึงเรื่องคฤหาสน์ กองมรดก รถเก๋งรุ่นใหม่ งานปาร์ตี้หรูระยับ
ส่วนคนจนก็จะปรับทุกข์กันถึงเรื่องหนี้สินความทุกข์ยากภายในครอบครัว
เหล่านี้เป็นต้น
ช่องว่าง ระหว่างชนชั้นเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสังคม เพราะชนชั้น
ต่าง ๆ ย่อมรักษาผลประโยชน์ของชนชั้นของตน ทำให้เกิดความขัดกันระหว่างชนชั้น
จากการศึกษาประวัติศาสตร์ของสังคมมนุษย์ทำให้ทราบได้ว่า ความปั่นป่วน
ยุ่งเหยิงและการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในสังคมนั้น
มักมีสาเหตุมาจากการขัดกันระหว่างชนชั้น อันนำไปสู่การกดขี่ข่มเหง
การดูถูกเหยียดหยามของผู้ที่มีมากกว่าต่อผู้ที่มีน้อยกว่า
ความน้อยเนื้อต่ำใจของฝ่ายที่ไม่มีต่อฝ่ายที่มี
ความหวาดระแวงสงสัยและความแตกสามัคคีในหมู่สมาชิกของสังคมในที่สุด
เพราะฉะนั้นหลายสังคมจึงได้หาวิธีการที่จะ
อุดช่องว่างหรือทำให้ช่องว่างนี้แคบเข้าโดยการนำระบบสังคมนิยม (Socialism) มาใช้
<<< สารบัญ >>>